ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160228/223258.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559
“เพื่อไทย”จี้รัฐบาลทำตามกฎหมาย ปมตั้งสังฆราช
วันที่ 28 ก.พ.59 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการณ์รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปนมัสการพระธาตุพนม และร่วมพิธียกเสาเอกอาคารเรียมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครพนม โดยมี พระพรหมบัณฑิต อธิการบดี ฯ เป็นประธานยกเสาเอกในพิธีฯ มีพระเถรานุเถระมาร่วมพิธีจำนวนมาก ในฐานะเป็นนักการเมือง มีพระสงฆ์รูปหนึ่งถามตนเป็นการส่วนตัวว่า “เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกนายกรัฐมนตรีในสภาฯ ได้บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การนำรายชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โดยผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอถามว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิ์ประวิงเวลาไม่นำชื่อนายกรัฐมนตรีที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้หรือไม่ โดยอาจอ้างว่ามีประชาชนร้องเรียนไม่เห็นด้วยกับมติของสภาผู้แทนราษฎร ตนตอบไปว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วยการนำชื่อนายกรัฐมนตรีที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ไม่อาจประวิงเวลาโดยอ้างเหตุใดๆ ก็ตามจะเป็นการผิดกฎหมายเสียเอง” ทั้งนี้เมื่อมหาเถรสมาคมได้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฯ ด้วยการมีมติเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ทำไมนายกฯ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คือพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ การประวิงเวลาการนำขึ้นทูลเกล้า ฯ นอกจากหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายแล้ว สิ่งที่หนักหนาสาหัสมากกว่า คือ ความขัดแย้งระหว่างสององค์กร คือ รัฐบาลกับมหาเถรสมาคม ภาพอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทยและได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ
นายชวลิต ฯ กล่าวว่า จะนำความเห็นดังกล่าวสื่อต่อสาธารณะ เพราะขณะนี้ประเทศของเราก็มีปัญหามากมายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง และยังจะลุกลามไปยังคณะสงฆ์อีก เรียกว่าถ้าไม่รีบคลี่คลายปัญหาจะเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ทุกภาคส่วน โดยส่วนตนเห็นว่า อาณาจักรและศาสนจักร จะต้องเกื้อกูลและเคารพซึ่งกันและกันการที่มหาเถรสมาคมซึ่งเป็นองค์กรตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฯประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายมหานิกาย และฝ่ายธรรมยุติ ได้มีมติแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชแล้ว เป็นการปฏิบัติตามข้อกฎหมายครบถ้วน รัฐบาลควรดำเนินการตามกฎหมายเช่นกันถ้ายังปล่อยคาราคาซังอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดีแก่บ้านเมืองอย่างแน่นอน ความร้าวฉานจะแผ่ขยายอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ซึ่งไม่ควรจะเกิดถ้ารัฐบาลทำตามกฎหมายคณะสงฆ์ดังกล่าว ส่วนการร้องเรียนต่างๆ ก็ต้องแยกส่วนกัน มิเช่นนั้น ไม่สามารถตั้งใครได้เมื่อมีผู้ร้องเรียนคัดค้าน ประการสำคัญที่สุด นับแต่มีกรณีมีผู้ร้องเรียนคัดค้าน มหาเถรสมาคมยังคงยืนยันมติเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติแต่ประการใด รัฐบาลควรทำตามกฎหมายคณะสงฆ์ฯ ด้วยการทูลเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชตามมติมหาเถรสมาคมต่อไป
