ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/scoop/193540
เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ปี 2558 ก็จะผ่านพ้นไปแล้ว และปี 2559 ที่กำลังจะมาถึงนี้ต้องย้ำเตือนกันอีกครั้งว่านับตั้งแต่วินาทีแรกของวันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป เราจะเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่งผลให้ตลาดการค้าในอาเซียนกว้างขึ้น แต่อีกนัยหนึ่ง “การแข่งขันในภูมิภาค” จะรุนแรงขึ้นด้วย ซึ่งทุกภาคส่วนไม่ว่าผู้ประกอบการหรือแรงงานล้วนต้องปรับตัว โดยเฉพาะ “ภาษาอังกฤษ” ที่ยังเป็นจุดอ่อนสำคัญของคนไทย
แล้วก็เป็นธรรมเนียมของทุกปี ที่เมื่อถึงช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ หน่วยงานวิชาการด้านเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงก็จะออกมาทำนาย “ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง” ประจำปีที่จะมาถึง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ดังที่ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ระบุว่า “ท่องเที่ยว-ก่อสร้าง-ไอที-สุขภาพ” จะเป็น “ธุรกิจมาแรง” ในปี 2559 แน่นอน
เช่นเดียวกับ ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า 10 ธุรกิจที่ต้องจับตาในปี 2559 ในส่วนที่น่าจะเป็น “ดาวเด่น” ได้แก่ 1.อาหารเพื่อสุขภาพ จากกระแส “กินคลีน” ที่กำลังมาแรง คนไทยหันมาสนใจ “ลดพุง-ฟิตหุ่น” มากขึ้น 2.ที่พักราคาประหยัด ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ ถึงเศรษฐกิจไทยจะไม่เติบโตหวือหวานัก แต่คนไทยยังชอบการท่องเที่ยวพักผ่อนแม้จะต้องลดค่าใช้จ่ายลงบ้างก็ตาม
“โรงแรมหรูหราไม่จำเป็นครับ เขาต้องการแค่ที่ซุกหัวนอน มีไวไฟไว้ต่ออินเตอร์เนต แล้วก็อาหารเช้าแค่นั้นเอง กลุ่มนี้เติบโตครับ และเติบโตสูง น่าจะมากกว่าโรงแรมพวกสี่ดาวห้าดาวด้วยซ้ำไป” ดร.เกียรติอนันต์ ระบุ
3.สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ตามค่านิยมที่ว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” ยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นหากไม่มากนักแต่ไปได้เร็วกว่าเดิม 4.ขายอุปกรณ์กีฬาออนไลน์สาเหตุมาจากร้านออนไลน์มักมีจุดขายคือ “สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” มากกว่าในห้างที่สินค้าส่วนใหญ่มักจะเหมือนๆ กันหมด ตามค่านิยม “ชอบแตกต่าง” ของคนยุคนี้
5.การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะปัจจุบันกระแส “รักษ์โลก”ถือว่ามาแรงอยู่ไม่น้อย 6.สอนภาษาอังกฤษ ที่ไม่ใช่สอนเน้นไวยากรณ์แบบที่คุ้นเคยกันในระบบการศึกษา แต่สอนเพื่อ“การสื่อสาร” สามารถพูดคุยเจรจาความเมืองกับฝรั่งมังค่าได้จริง
“จากที่สอบถามบรรดาผู้ประกอบการ เขาอยากเห็นโรงเรียนสอนภาษาที่สอนให้ใช้เป็น ไม่ใช่สอนแกรมมา (Grammar-ไวยากรณ์) เป็นโรงเรียนสอนการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเพื่อเอาไปสอบ มีความต้องการตรงนี้เยอะครับ” ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าว
7.จักรยานและอุปกรณ์ คนไทยหันมาใช้จักรยานเพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลทั้งในแง่สุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม 8.การดูแลสุขภาพ อย่างที่ทราบกันว่าคนไทยห่วงใยสุขภาพกันมากขึ้น 9.แอพพลิเคชั่นบนมือถือ เพราะอุปกรณ์ไอทีอเนกประสงค์อย่าง “แท็บเล็ต-มือถือสมาร์ทโฟน” ราคาถูกลง ประกอบกับอินเตอร์เนตไร้สาย (3G-4G) มีความเร็วสูงขึ้น และ 10.การขนส่งระยะสั้น เช่นรถไฟฟ้าในเขตเมือง เพราะผู้คนนิยมพักอาศัยใกล้ที่ทำงานมากขึ้น
ส่วนธุรกิจที่อาจเป็น “ดาวดับ” ได้แก่ 1.รถทัวร์-รถไฟ จากที่กล่าวไปแล้วว่าคนยุคนี้เน้นความเร็วแม้จะต้องจ่ายมากขึ้นบ้างเห็นได้จากเที่ยวบินโลว์คอสต์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะบินในประเทศใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไม่ต้องนั่งกันยาวๆ ครึ่งค่อนวัน 2.ร้านกาแฟสด ที่เปิดกันมากและเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง ทุกวันนี้มีจำนวนไม่น้อยล้มหายตายจากไปแล้ว 3.ร้านบุฟเฟ่ต์ราคาประหยัด จำพวก “หมูกระทะ-เนื้อย่างเกาหลี” หากไม่ใช่เจ้าใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากพอ การต่อรองราคาวัตถุดิบจะทำได้ยาก ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
“ถ้าไม่ใช่เจ้าใหญ่ๆ นะครับ บุฟเฟ่ต์พวกหมูกระทะไก่กระทะ กุ้งกระทะ อะไรก็ตามพวกนี้ ถ้าไม่ใหญ่พอตายหมด เพราะอำนาจต่อรองในการซื้อวัตถุดิบจะต่ำ ต้นทุนต่อกิโลจะสูง แล้วพอขายหัวละ 99 บาทเท่ากับชาวบ้าน มาร์จิน (Margin-กำไร) ก็จะต่ำ แล้วก็จะอยู่ไม่ได้” ดร.เกียรติอนันต์ อธิบาย
4.ร้านอินเตอร์เนต ค่อยๆ หมดความสำคัญลงเนื่องจากคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงแท็บเลต-มือถือสมาร์ทโฟนราคาถูกลงแต่มีสมรรถนะสูงขึ้น คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้ง่ายกว่าแต่ก่อน 5.เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กลุ่มลูกค้าก็พลอยหดไปด้วย กล่าวคือกลุ่มที่ฐานะดีจะยังคงเน้นสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงต่อไป ส่วนกลุ่มที่ฐานะรองลงมาก็จะหันมาเน้นที่คุณภาพสินค้ามากกว่าความสวยงาม
“ลูกค้าสมัยก่อนมี 3 กลุ่ม กลุ่มรวย กลุ่มปานกลาง และกลุ่มรายได้น้อย แต่ 2 ปีนี้ที่เศรษฐกิจชะลอตัวมาตลอด ฉะนั้นกลุ่มตรงกลางที่ใหญ่มันก็เริ่มเล็ก ถ้าเราไปขายกลุ่มตรงกลางมันจะขายยาก ให้ลงไปขายข้างล่างเลย ขายของอาจไม่ดีมากแต่ราคาถูก ไม่งั้นก็ไปขึ้นไปให้สูงเลย ถ้าไม่สูงสุดก็ต้องคืนสู่สามัญ” ดร.เกียรติอนันต์ ให้คำแนะนำ
6.ร้านโชห่วย ที่มีคู่แข่งมาก แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อในเครือกลุ่มทุนใหญ่ก็ยังเปิดชนกันแทบทุกหัวมุมถนน 7.อาหารทะเลแปรรูป เพราะยังมีความกังวลเรื่องการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไทยไปยังกลุ่มประเทศตะวันตก สืบเนื่องจากปัญหาแรงงานทาสบนเรือประมง
8.สายการบินทั่วไป เหตุผลเดียวกับเสื้อผ้าแฟชั่น ที่หากไม่จับกลุ่มลูกค้ารสนิยมหรูที่สุด ก็ต้องลงมาแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์แทน 9.ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เพราะคนหันมาใช้แท็บเลต-มือถือสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่คอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ และ 10.ร้านโทรศัพท์มือถือมือสอง เพราะมือถือสมาร์ทโฟนมือหนึ่งราคาถูกลง
นอกจากนี้ ดร.เกียรติอนันต์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อรวมการสำรวจทั้งฝั่งผู้ประกอบการและฝั่งผู้บริโภค ได้ข้อสรุปว่าธุรกิจยุคใหม่ หากจะอยู่รอด ต้องยึดหลัก 5 ประการ คือ1.เลิกลดราคาแต่พัฒนาคุณภาพ ต้องทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ตนซื้อนั้นเป็น “ของดี”จริงๆ ธุรกิจก็จะยังคงไปต่อได้ 2.รับให้เร็วแต่จ่ายให้ช้า พยายามหารายได้ให้เร็วและมากที่สุด แต่รายจ่ายอะไรที่ชะลอได้ก็ควรทำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
3.ใช้สื่อออนไลน์แต่อย่าลืมใส่ใจชีวิตจริง เพราะปัจจุบันการสื่อสารของผู้คนหันไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น การใช้สื่ออินเตอร์เนตมาช่วยจะทำให้หาตลาดได้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามควรหาโอกาสพบปะลูกค้าในโลกจริงบ้างเพื่อเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดผูกพันระหว่างผู้ค้ากับลูกค้า
4.เก็บคนเก่งไว้ส่วนคนไม่เอาไหนปล่อยเขาไปเถอะ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ที่การจ้างคนงานทำได้จำกัด ดังนั้นพนักงานคนไหนที่ฝีมือดีควรจะต้องรั้งตัวไว้ให้ได้ เพราะคนเก่งเพียงคนเดียวอาจทำงานได้เท่ากับคนไม่เก่งหลายคน และ 5.บินไปให้สูงที่สุด ไม่ก็จงคืนสู่สามัญ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าตลาดระดับกลางหดตัวลง
“เอสเอ็มอีตอนนี้ไม่ได้คิดจะลดขนาดนะครับ เท่าที่สำรวจประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ตอบว่าไม่ต้องการลดคน เขาแค่ต้องการสลับเอาคนเก่งมาแทนคนไม่เก่ง เพราะเขาเชื่อว่าถ้าปีหน้าเขาฟื้น เขาก็จะไปต่อได้ เขาต้องการคนเก่งมาช่วยให้เขาเติบโต
แต่ปัญหาของเอสเอ็มอีคือขาดคนที่ทำงานได้สอดคล้องกับที่นายจ้างต้องการ แล้วปัญหานี้บ้านเราสูงกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียนถึง 3 เท่า อันนี้เป็นการสำรวจของเวิลด์แบงก์ (World Bank-ธนาคารโลก) มันโยงไปถึงการศึกษาที่สอนแต่ท่องจำไม่สอนให้คิดให้ทำ ไม่สอนทักษะพื้นฐานพวกความมีวินัยตรงต่อเวลา” ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ฝากทิ้งท้าย
SCOOP@NAEWNA.COM