ซีอีโอหญิง SPCG ขึ้นเวทีลอนดอน โชว์วิสัยทัศน์ไทยผู้นำพลังงานใน AEC

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/582574

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 ก.พ. 2559 04:25

 

ซีอีโอหญิง บ.เอสพีซีจี โชว์วิสัยทัศน์เวทีสามัคคีสมาคม กรุงลอนดอน ยก 3 มาตรการนำไทยเป็นผู้นำพลังงานสะอาดแห่งประชาคมอาเซียน หนุนชาติอาเซียนจับมือสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ…

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 59 น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ได้รับเชิญให้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน Empower ASEAN 2016 “The Boundless Network” ในหัวข้อ “The Unlimited Business Possibilities of ASEAN and its Potentialin the Sustainable Energy Industry” จัดโดย สามัคคีสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Samaggi Samagom) ซึ่งเป็นสมาคมนักเรียนไทยในประเทศสหราชอาณาจักร เพื่อให้ความรู้แก่ นักเรียน นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร ถึงโอกาสในการขยายการลงทุนด้านพลังงาน ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยได้รับเกียรติจาก นายกิตติพงษ์ ณ ระนอง เอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร เป็นประธานเปิดงาน ณ Imperial College กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

น.ส.วันดี กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เป็นโอกาสอันดี เนื่องจากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้มีประชากรรวมกันกว่า 650 ล้านคน เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรด้านต่างๆ ทั้งแรงงาน เทคโนโลยี การลงทุน ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่ง และถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก เนื่องจากประเทศสมาชิกในกลุ่มมีทำเลที่ตั้งอยู่กลางระหว่างประเทศจีนและประเทศอินเดีย มีจำนวนประชากรรวมกันมากกว่า 2,600 ล้านคน

สำหรับมาตรการที่ประเทศไทยได้กำหนดขึ้นและปฏิบัติจนได้เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนคือ 1. มีการจัดทำแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียน/พลังงานทดแทนให้มีสัดส่วนประมาณ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ในปี พ.ศ. 2579 โดยได้กำหนดสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไว้ถึง 6,000 เมกะวัตต์ 2. มีการจัดทำโครงการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และ 3. มีการกำหนดเป้าหมายการลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ลงกว่า 25 ล้านตัน CO2

ประเทศไทย ยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการขนส่งและการคมนาคมของภูมิภาค รวมถึงความร่วมมือเพื่อพัฒนาพลังงานไฟฟ้าและพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะประเทศสมาชิกล้วนต้องรับมือกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น เมียนมา ได้เปิดระบบเศรษฐกิจแบบเสรีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเมียนมา มีประชากรมากกว่า 50 ล้านคน แต่สามารถเข้าถึงการใช้ไฟฟ้าได้เพียง 1 ใน 3 ของประเทศ ทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน” น.ส.วันดี กล่าว

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้การสนับสนุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOARD OF INVESTMENT : BOI) ให้มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในพื้นที่เขตแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันในประเทศภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) อีกด้วย.

Leave a comment