ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05032150958&srcday=2015-09-15&search=no
| วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 607 |
อุทยานพฤกษา
“เมย์วิสาข์”
ว่านหางจระเข้?เนื้อวุ้นเพื่อประทินสำอาง?เนื้อหางดับไฟลวกได้
เพียงวุ้นหาง ทาบางบาง ดับไฟร้อน
ผิวเนื้ออ่อน สัมผัสเย็น เป็นแผลหาย
ชื่อน่ากลัว ตัวน่าเกลียด ถ้าเบียดกาย
แต่ไฟไหม้ ใช้มานาน ว่านหางจระเข้
ชื่ออื่น : ว่านไฟไหม้ (เหนือ) หางตะเข้ (กลาง)
ชื่อสามัญ : Aloe, Star cactus, Aloin jafferabad, Barbados
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera (L.) Burm f (Aloe barbadenisi Mill.)
ชื่อวงศ์ : Liliaceae
ถิ่นกำเนิด : ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
ข้อมูลทั่วไป :
แทบไม่มีใครไม่รู้จักว่านหางจระเข้ เพราะเป็นพรรณไม้ที่ได้รับความนิยมและรู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นพืชที่ให้ประโยชน์ล้นเหลือกับมวลหมู่มนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือฝรั่งมังค่าก็ตาม รู้จักคุ้นเคยกับว่านหางจระเข้ทั้งนั้น ภาษาอังกฤษเรียกสั้นๆ ว่า Aloe ซึ่งเป็นชื่อสกุลของว่านหางจระเข้ เป็นภาษากรีซโบราณ มาจากคำว่า Allal มีความหมายว่า ฝาด หรือ ขม ในภาษายิว จากที่แทบทุกคนรู้จักว่านหางจระเข้เป็นอย่างดี ทำให้คิดว่าว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในบ้านเรา ความเป็นจริงเดิมนั้น เป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อน ต่อมาได้ถูกนำไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย และทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเกิดกระแสนิยมว่านหางจระเข้กันเป็นการใหญ่
เหตุผลที่ทำให้แทบทุกคนรู้จัก จนทำให้เกิดกระแสนิยมว่านหางจระเข้กันมากมาย น่าจะเป็นเพราะคุณสมบัติของว่านชนิดนี้ พิจารณาจากชื่ออื่นที่เรียกขานกัน เช่น ว่านไฟไหม้ เป็นไปตามชื่อมากๆ ยามใดที่ไฟไหม้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นนิ้ว มือ แขน ขา ฯลฯ สิ่งแรกที่นึกถึงคือต้องไปตัดว่านหางจระเข้ เพื่อนำวุ้นในใบสดทา หรือแปะที่แผล จะทำให้แผลหายเร็วมาก และจะช่วยบรรเทาความปวดให้น้อยลง นอกจากแผลที่เกิดจากไฟไหม้แล้ว แผลจากน้ำร้อนลวกก็เหมือนกัน นับเป็นสุดยอดสมุนไพรได้เลย ทำให้มีผู้แนะนำว่า ควรปลูกติดบ้านเอาไว้ ปลูกกันบ้านละกอ สองกอ ก็เปรียบเสมือนมีร้านยามาอยู่ในบ้าน เพื่อจะได้ช่วยในการปฐมพยาบาล อย่างน้ำร้อนลวก น้ำมันร้อนๆ กระเด็นใส่ จะได้ใช้วุ้นในใบหางจระเข้แปะแผลที่เกิดนี่แหละ จะได้ไม่เป็นแผลเป็นด้วย ได้ชื่อว่าว่านไฟไหม้ เพราะมีความเฉียบขาดในการจัดการกับแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกแล้ว นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณอีกมายมาก จนบางคนให้สมญานามเป็นสมุนไพรเพื่อผิวใส ผมสวย อีกด้วย
ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักว่านหางจระเข้ในแง่ของการเป็นสมุนไพร และช่วยในด้านความสวยงามของผิวและผม น้อยคนนักที่จะปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งๆ ที่ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติเป็นได้ทั้งไม้ดอกและไม้ประดับได้เป็นอย่างดี แม้จะออกดอกปีละครั้งในช่วงฤดูหนาว แต่ช่อดอกของว่านหางจระเข้ก็มีความสวยงามไม่น้อย เนื่องจากว่านหางจระเข้มีพันธุ์มากมายกว่า 300 ชนิด มีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร ทำให้สีต่างๆ กัน เช่น แดง เหลือง และ ขาว ขนาดของช่อดอกก็มีขนาดต่างๆ กันด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่ว่านหางจระเข้ที่ปลูกในบ้านเรา มักจะมีเฉพาะดอกสีแดง แต่มักจะไม่ค่อยมีดอก เพราะส่วนใหญ่จะปลูกกันแบบไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่มากนัก ปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ เพียงเพื่อประโยชน์ใช้สอยในด้านการเป็นตู้ยาสามัญประจำบ้าน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ลำต้น ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ข้อและปล้องสั้น
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบค่อนข้างแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างๆ กัน แผ่นใบหนาอวบน้ำมาก สีเขียว มีจุดยาวๆ สีเขียวอ่อน ภายในมีวุ้นใส และมีน้ำยางสีเหลืองใต้ผิวใบ
ใบอ่อน มีประสีขาว
ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ออกจากกลางต้น ช่อดอกยาว โคนดอกย่อยเชื่อมติดกัน เป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตรห้อยลง สีแดงอมส้ม บานจากล่างขึ้นบน
ผล เป็นผลแห้ง แตกได้
การขยายพันธุ์ แยกหน่อ
สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การเจริญเติบโต ชอบดิน แสง ชอบแสงมาก ถ้าอยู่กลางแจ้งสีจะไม่เขียวสดเหมือนอยู่ในร่ม ต้องการน้ำปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย
สรรพคุณทางสมุนไพร :
ทั้งต้นของว่านหางจระเข้ ใช้ดองกับสุรา ดื่มช่วยขับน้ำคาวปลาได้
ราก และ เหง้า ช่วยแก้หนองใน ช่วยแก้มุตกิดหรือระดูขาวของสตรี
ใบ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ นำใบมาตำผสมกับสุรา ใช้พอกรักษาฝีได้
ยางในใบ ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ช่วยรักษาอาการท้องผูก
เนื้อวุ้น ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร โดยเหลาเนื้อวุ้นในใบให้ปลายแหลมเล็กน้อย และนำไปแช่ตู้เย็น หรือแช่น้ำแข็งจนเนื้อแข็ง แล้วนำไปใช้เหน็บในช่องทวารหนัก
วุ้นในใบ ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลสด แผลจากของมีคม แผลที่ริมฝีปาก แก้ฝี แก้ตะมอย ช่วยรักษาแผลถลอก และแผลจากการถูกครูด นอกจากนี้ ยังช่วยดับพิษร้อน บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลเหล่านี้ด้วย ช่วยขจัดรอยแผลเป็น ทำให้แผลเป็นจางลง ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยบรรเทาและแก้อาการปวดตามข้อ และยังช่วยรักษาตาปลาและฮ่องกงฟุต รักษาอาการผิวหนังไหม้จากแสงแดด หรือไหม้เกรียมจากการฉายรังสี หรือแผลเรื้อรังจากการฉายรังสี และช่วยรักษาโรคเรื้อนกวางได้ด้วย
ประโยชน์ด้านเครื่องสำอาง วุ้นจากใบใช้ทาเพื่อรักษาฝ้า หรือใช้ทาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ทาลดความมันบนใบหน้า ลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว รักษาการอักเสบต่างๆ ทำให้สิวแห้งหลุดง่าย บำรุงผมและหนังศีรษะ ป้องกันผมร่วง และช่วยลดความมันของเส้นผมได้ ลดอาการคัน กำจัดรังแค และทำให้ผมไม่หงอกเร็ว วุ้นในใบเป็นส่วนผสมสำคัญในเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น แชมพูสระผม สบู่ และครีมกันแดด ปัจจุบัน ได้นำว่านหางจระเข้มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงผิว ครีมบำรุงผม ครีมทาใต้ตา เจลหางจระเข้ เจลทรีตเมนท์ บำรุงผิวหน้า ฯลฯ
ประโยชน์ด้านอาหาร นิยมนำวุ้นในใบว่านหางจระเข้ ทำเป็นของหวานหลายชนิด เช่น น้ำว่านหางจระเข้ปั่น วุ้นแช่อิ่ม วุ้นลอยแก้ว เป็นต้น
ข้อควรระวัง ไม่ว่าจะใช้ว่านหางจระเข้โดยการรับประทานหรือใช้ภายนอก หากใช้เป็นเวลานานๆ อาจก่อให้เกิดอาการแพ้เป็นผื่นคันได้ และสารในวุ้นของว่านหางจระเข้สลายตัวได้ง่ายและรวดเร็ว จึงควรเก็บไว้ในตู้เย็น หรือเตรียมใหม่สดๆ ก่อนใช้ว่านหางจระเข้จะมีคุณภาพสูงสุดเมื่อตัดมาแล้วใช้ทันที และจะมีสรรพคุณทางยาที่ดีกว่าอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ