“สวนผักปากช่อง” แหล่งปลูก กุยช่าย แปลงใหญ่ อันดับ 1 ของไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05048150958&srcday=2015-09-15&search=no

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 607

เทคโนโลยีการเกษตร

ปรัชญา รัศมีธรรมวงศ์

“สวนผักปากช่อง” แหล่งปลูก กุยช่าย แปลงใหญ่ อันดับ 1 ของไทย

“การปลูกพืชผัก เป็นหนึ่งในอาชีพทำเงิน ที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรได้ เพียงมีพื้นที่ทำกิน 5-10 ไร่ ปลูกพืชผัก โดยดูแลใส่ใจพืชผักในแปลงปลูกเป็นอย่างดีก็สามารถสร้างรายได้ก้อนโตเข้ากระเป๋า ไม่แพ้รายได้จากการปลูกอ้อยเป็นร้อยๆ ไร่เช่นกัน” นี่เป็นคำพูดจากประสบการณ์ตรง 14 ปี ในเส้นทางชีวิตเกษตรกร ของ คุณเสก หรือ คุณชยพล กลมกล่อม เจ้าของสวนผักปากช่อง โทร. (081) 876-3388 เลขที่ 388 หมู่ที่ 19 ตำบลคลองม่วง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130

สวนผักปากช่อง…

เต็งหนึ่งด้านคุณภาพ

ภายในสวนผักปากช่อง เนื้อที่ ประมาณ 1,000 ไร่ มีความสวยงามร่มรื่นทุกจุด นอกจากแปลงปลูกพืชผักแล้ว ยังมีทั้งไม้ใบ ไม้ประดับ ตลอดเส้นทาง พื้นที่ 400 ไร่ จดทะเบียนในชื่อของคุณเสก ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ใช้ปลูกพืชไร่และมันสำปะหลังมาก่อน ส่วนอีกแปลง เนื้อที่ 600 ไร่ เดิมเคยใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงม้าแข่งมาก่อน ต่อมาคุณเสกขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวจากเจ้าของที่ดิน เพื่อนำมาปลูกผัก โดยทำสัญญาการเช่าปีต่อปี ในอัตรา ไร่ละ 100,000 บาท ต่อปี ด้านเมล็ดพันธุ์พืชผักที่ใช้ในสวนแห่งนี้ คุณเสกเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักจากบริษัทเอกชนที่เชื่อถือได้ ส่วน กุยช่าย ใช้วิธีเก็บเมล็ดพันธุ์จากแปลงปลูกมาขยายพันธุ์เอง ทุกวันนี้ สวนผักปากช่อง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกุยช่ายใหญ่ เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งผลิตผักสดอื่นๆ เช่น ขึ้นฉ่าย ผักกวางตุ้งไต้หวัน หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ ที่มีคุณภาพดีและซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เป็นที่ยอมรับจากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผักสดของที่นี่ปลูกดูแลในระบบอินทรีย์เคมี ที่ผ่านการตรวจสอบรับรองคุณภาพมาตรฐาน GAP จากกรมส่งเสริมการเกษตร จึงมั่นใจได้ว่า สินค้าผักสดของสวนแห่งนี้ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค

เนื่องจากสวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลจัดการ คุณเสกจึงแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจน เช่น โซนปลูกกุยช่าย ผักขึ้นฉ่าย หน่อไม้ฝรั่ง สตรอเบอรี่ มะนาว โซนโรงเรือนคัดแยกคุณภาพผักสดและบรรจุภัณฑ์ก่อนส่งสินค้าไปขายทั่วประเทศ พร้อมจัดสรรพื้นที่ จำนวน 85 ไร่ สำหรับสร้างลานกิจกรรมและตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรของชุมชน รองรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่พร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้

คุณเสก กำลังเร่งพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้พร้อมรองรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานเกษตรอำเภอปากช่อง กรมส่งเสริมการเกษตร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเยี่ยมชมสวน เขากำลังวางแผนจัดซื้อรถรางสำหรับขนส่งนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมจุดต่างๆ ภายในสวนแห่งนี้

วิกฤตภัยแล้ง

คุกคามพื้นที่ปากช่อง

พื้นที่อำเภอปากช่อง เผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำหนักขึ้นทุกปี เดิมสวนผักปากช่องขุดสระเก็บกักน้ำ แต่เจอปัญหาน้ำแล้ง จึงหันมาสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่ระดับความลึก 80 เมตร จำนวน 3 บ่อ และได้น้ำที่ซึมเกิดขึ้นตามธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้มาช่วยบางส่วน คุณเสกได้คำนวณการใช้น้ำในการเพาะปลูกพืชต่อปี พบว่า ปริมาณน้ำอาจไม่เพียงพอสำหรับปลูกพืชผักในระบบเดิมได้ จึงปรับลดพื้นที่ปลูกพืชผักลงบางส่วน เพื่อนำมาปลูก “มันสำปะหลัง” แทน

การทำไร่มันสำปะหลังในปีแรกได้ผลผลิตแค่ไร่ละ 3-4 ตัน ก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ปีที่ 2 คุณเสกจึงหันมาใช้ท่อนพันธุ์คุณภาพดี ปลูกในระยะห่างที่เหมาะสมตามหลักวิชาการ ก็ช่วยประหยัดต้นทุน พร้อมฉีดฮอร์โมนเร่งการเติบโต ปลูกโดยอาศัยน้ำฝน ปรากฏว่าได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น เป็นไร่ละ 8 ตัน ปีนี้วางแผนทำไร่มันสำปะหลังในระบบน้ำหยด คาดว่าจะได้ผลผลิตเพิ่มเป็น ไร่ละ 15 ตัน

ไอเดียเด็ด ปลูก

“ผักขึ้นฉ่าย” ในน้ำแห่งแรกในไทย

สวนผักปากช่อง เผชิญอุปสรรคสำคัญคือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และวิกฤตภัยแล้ง ประกอบกับเพราะผักขึ้นฉ่ายปลูกซ้ำที่เดิมได้ไม่เกิน 2 รอบ หากปลูกซ้ำเป็นรอบที่ 3 ต้นผักจะงอก แต่จะยุบเน่าเสียหายในเวลาต่อมา คุณเสกจึงต้องคิดใหม่ทำใหม่ โดยพัฒนาการปลูกผักขึ้นฉ่ายในระบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งคุณเสกเรียกสั้นๆ ว่า การปลูกผักขึ้นฉ่ายในน้ำ เพื่อให้มีผลผลิตออกขายได้ตลอดทั้งปี

หลักการปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์โดยทั่วไป เน้นปลูกพืชในน้ำที่มีสารละลายอาหารพืชอยู่ครบถ้วน เพื่อให้พืชผักเจริญเติบโตได้อย่างปกติ พืชไม่มีความเครียดจากการขาดน้ำและธาตุอาหาร ทั้งนี้ การปลูกผักขึ้นฉ่ายในน้ำถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการเกษตรของบ้านเรา คุณเสกจึงต้องใช้เวลาทดลองเรียนรู้การจัดการแปลงปลูกผักขึ้นฉ่ายในโรงเรือนระบบปิด พัฒนาสูตรปุ๋ยน้ำและวิเคราะห์อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของผักขึ้นฉ่าย

ภายในโรงเรือนปิดมูลค่าหลายล้านแห่งนี้ เราเห็นแปลงปลูกผักที่จัดวางระบบได้เป็นอย่างดี มีระบบการให้ปุ๋ยน้ำอย่างสม่ำเสมอ สามารถวางแผนปลูกและเก็บเกี่ยวผักได้ในระยะเวลาที่กำหนด เริ่มจากเพาะเมล็ดพันธุ์ในแปลงเพาะ ก่อนนำมาปลูกในแผ่นโฟมที่ลอยอยู่ในน้ำปุ๋ยในแปลงที่จัดเตรียมไว้ ภายในโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส หากช่วงใดอากาศร้อนมาก ก็จะฉีดไอน้ำบนแปลงผัก เพื่อลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน

ข้อดีของการปลูกผักในลักษณะนี้คือ ใช้ระยะเวลาปลูก-เก็บเกี่ยวสั้นกว่าการปลูกตามปกติ ที่สำคัญใช้แรงงานน้อยในการดูแลจัดการแปลง แต่มีต้นทุนโดยรวม ซึ่งเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าปุ๋ย ฯลฯ สูงกว่าปลูกบนดินอยู่พอสมควร คุณเสก บอกว่า ปัจจุบัน แปลงปลูกผักขึ้นฉ่ายในน้ำยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะสูตรปุ๋ยน้ำยังไม่ลงตัว บางแปลงเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ เพราะพืชไม่โต ใบเหลือง แคระแกร็น ดังนั้น การปลูกผักขึ้นฉ่ายในน้ำจึงต้องศึกษาเรียนรู้กันต่อไป

ช่องทางการตลาด

ในอดีตทางสวนผักปากช่องพยายามขยายกำลังการผลิต โดยสร้างกลุ่มเกษตรกรเครือข่าย ผลิตพืชผักที่ตลาดต้องการและรับซื้อผลผลิตในราคาประกัน แต่เจอปัญหาช่วงผักแพง เกษตรกรไปแอบขายสินค้าให้พ่อค้าเร่ที่รับซื้อสินค้าในราคาสูงกว่า ทำให้สินค้าไม่ครบออเดอร์ สร้างความเสียหายทางการตลาด ปัจจุบัน สวนผักปากช่องจึงหันมาผลิตสินค้าเองทั้งหมด ได้แก่ ผักขึ้นฉ่าย กุยช่าย ผักกาดหอม ผักสลัด หน่อไม้ฝรั่ง ผักกวางตุ้งไต้หวัน ฯลฯ มีกำลังการผลิตเฉลี่ย วันละ 5-6 ตัน ส่งขายลูกค้ารายใหญ่คือ ห้างเทสโก้ โลตัส ที่กำหนดสเปคการรับซื้อผักว่า จะต้องไม่มีปัญหาสารเคมีตกค้าง ไร้ปัญหาโรคพืช และทั้งต้นมีการทำลายของแมลง ต้องไม่เกิน 10% หากเกินก็ถูกตีกลับ เทสโก้ โลตัส ไม่รับซื้อ

“ห้างเทสโก้ โลตัส มีโควต้าความต้องการซื้อผักสดเกือบ 50 ชนิด แต่เราผลิตได้จริงแค่ 12 ชนิดพืช ระยะหลังเจอปัญหาเยอะมาก ในด้านการบริหารจัดการผลผลิต จึงปรับแผนการผลิตใหม่ เหลือแค่ ผักกุยช่าย ผักชี ผักกาดหอม ผักขึ้นฉ่าย หน่อไม้ฝรั่ง ปัจจุบัน สินค้าหลักที่ส่งขายห้างเทสโก้ โลตัส คือ ผักกุยช่ายขาว-เขียว เฉลี่ยวันละ 1 ตัน” คุณเสก

นอกจากนี้ ยังแบ่งสินค้าบางส่วนป้อนตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท รวมทั้งตลาดส่งออก นอกจากนี้ สินค้าผักสดบางส่วนยังถูกส่งออกผ่านบริษัทเอกชน 4 แห่ง ไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ

ปัจจุบัน สวนผักปากช่อง ผลิตกุยช่ายเขียว ขายส่งในราคากิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนกุยช่ายขาว กิโลกรัมละ 100 บาท (ในท้องตลาด ขายปลีกในราคา กิโลกรัมละ 200 กว่าบาท) รองลงมา เป็นผักกวางตุ้งไต้หวัน ผลิตได้วันละ 1-2 ตัน ผักกวางตุ้งไต้หวัน ตลาดมีความต้องการสูง แต่ผลิตได้ไม่ทันกับความต้องการของตลาด

“ตลาดส่งออกก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากุยช่ายขาว มีการส่งออกไปขายประเทศสิงคโปร์แทบทุกวัน เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้ได้มาตรฐาน เพื่อจะได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพสำหรับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง” คุณเสก กล่าวในที่สุด

ปลายปีนี้ หากใครมีเวลาว่างอยากชวนมาเที่ยว สวนผักปากช่อง ที่เตรียมเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างเป็นทางการ ในช่วง วันที่ 4 ธันวาคม 2558 หากใครมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ คุณเสก-คุณชยพล กลมกล่อม ได้ที่เบอร์โทร. (081) 876-3388 หรือภรรยาคุณเสกชื่อ คุณญณิศา แย้มเกตุ ได้ที่เบอร์โทร. (091) 705-9148

Leave a comment