ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160303/223468.html
‘ประวิตร’จัดระเบียบทำเนียบเทียบสากล : ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน
หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางกลับจากรัสเซีย ก็มีแนวคิดปรับเปลี่ยนระบบรักษาความปลอดภัย “ทำเนียบรัฐบาล”
ช่วงนี้หากใครได้เข้าไปในทำเนียบรัฐบาลก็จะพบความแปลกใหม่เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ว่ากันว่า เทียบเท่าระดับสากล
มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ งานรักษาความปลอดภัยจะเป็นหน้าที่ของตำรวจสันติบาล ก็จะมีการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปสนับสนุนการรักษาความปลอดภัย
ปัจจุบันการรักษาความปลอดภัยนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลกว่า 50 นาย ดูแลสถานที่สำคัญ 3 แห่ง คือ 1.ทำเนียบรัฐบาล 2.บ้านพิษณุโลก และ 3.บ้านมนังคศิลา
ตำรวจสันติบาลที่มาดูแลภายในทำเนียบรัฐบาลแบ่งเป็น 4 ฝ่าย คือ ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายจราจร ฝ่ายรักษาความปลอดภัยรอบตึกทำเนียบ และฝ่ายดูแลบุคคลสำคัญ
เมื่อมีคำสั่งให้เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย เทียบเท่าระดับสากล จึงมีการสั่งทำแผนเร่งด่วน ซึ่งก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพราะการปฏิบัติการนั้นไม่แตกต่างกับสากลอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปทำงานร่วมกับตำรวจ
แผนที่ว่านี้ อยู่ระหว่างการกลั่นกรองของหน่วยงานด้านความมั่นคง และจะเสนอให้ พล.อ.ประวิตร พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า สิ่งที่แปลกตาที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการจัดการจราจรภายในทำเนียบรัฐบาล และโดยรอบ รวมทั้งคลองผดุงเกษม และบริเวณสะพานอรทัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งบอกว่า การจัดระเบียบจราจรนี้ ทำมาได้ระยะหนึ่งแล้ว นับแต่มีเหตุก่อการร้ายในต่างประเทศ เพราะข้างทำเนียบนั้นมีการจัดงานแสดงสินค้า มีตลาดน้ำ เกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้
สำหรับตลาดน้ำริมคลองผดุงเกษม นี้เป็นที่หนักอกหนักใจแก่ตำรวจที่มาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะตลาดเป็นที่รวมของคน มีทั้งมาเที่ยวชม และซื้อข้าวของ ทำให้การตรวจสอบ และการระวังรักษาความปลอดภัยทำได้ยาก
พื้นที่จอดรถก็เป็นจุดสำคัญที่จะต้องระมัดระวัง จะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนสีแดงจะเป็นพื้นที่บริเวณภายในทำเนียบ ที่จะให้บุคคลสำคัญ อาทิ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและแขกของรัฐบาลนำรถมาจอด
โซนสีเหลือง จะเป็นพื้นที่โดยรอบข้างทำเนียบรัฐบาลติดเชื่อมต่อกับประตูอรทัยที่ใช้เป็นประตูทางเข้า-ออกของสื่อมวลชน และผู้ที่มาติดต่อราชการ
ส่วนโซนสีม่วงจะใช้เป็นสถานที่จอดรถของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล
สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลมองว่า ในอนาคตอาจจะมีการจัดระเบียบการทำงานของสื่อมวลชน หลังจากที่เดือนที่แล้วให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีได้เพียงแค่ 4 คำถาม
แต่กรณีสื่อมวลชน น่าจะเป็น พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบแผนการจัดระเบียบ คาดว่าจะเป็นการจำกัดขอบเขตพื้นที่ ที่อาจลอกแบบมาจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ หรือ กองทัพบก
ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ต้องการจัดระเบียบความเรียบร้อย การคัดกรองบุคคลเข้าออก แม้การรักษาความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลมีระบบอยู่ แต่ยังไม่ได้จัดระเบียบการเข้าออก การจอดรถ ซึ่งหากจำได้มีหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่่องล็อกล้อรถที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม เพราะเมื่อมีตลาดขึ้้นมาระบบก็เปลี่ยน ประตูทางเข้าทำเนียบทั้งสองข้างยังไม่ได้จัดระบบ ก็ต้องมีการปรับเปลี่่ยนการเข้าออก
การจัดระเบียบครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ แต่ พล.อ.ประวิตร จะให้มีการทำงานร่วมกับสถานีตำรวจที่ดูแลพื้นที่คือ สถานีตำรวจนครบาลดุสิต หรือถ้ามีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ หรือระบบเพิ่มเติมก็จะให้ทหารมาช่วย
“การจัดระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการข่าวเรื่องก่อความไม่สงบ แต่ระบบของเราไม่มีความเข้มข้นเมื่อเทีียบกับหลายๆ ประเทศ ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปหลายประเทศ ทั้งรัสเซีย เบลารุส คงเห็นประเทศต่างๆ มีการจัดระบบค่อนข้างดี แต่ของเราต้องยอมรับการเข้าออก รปภ. การจอดรถ ยังหย่อนยาน และมีตลาดนายกรัฐมนตรีที่เข้ามาเพิ่ม ทำให้ปิดไปหลายประตูจนไปกระทบระบบการรักษาความปลอดภัย” ปณิธาน กล่าว
