‘ปู’อ้อนขอกำลังใจคดีข้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160304/223552.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2559
'ปู'อ้อนขอกำลังใจคดีข้าว

‘ยิ่งลักษณ์’ ขอกำลังใจแฟนคลับ ฟังซักค้านพยานฝ่ายโจทก์ครั้งที่ 4 ปัดตอบ ‘แม้ว’ จ้อนิวยอร์ก – ยังมึน กกต.ฟ้องแพ่ง ขณะที่ ‘หมอวรงค์’ ยันจำนำข้าว-ระบายข้าว ‘พิลึก’

                      4 มี.ค. 59  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 08.24 น.  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพข้อความบนแฟยเพจเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ระบุ กำลังเตรียมเดินทางไปให้กำลังใจทนายซักค้านพยานฝ่ายโจทก์ ‘คดีข้าว’ ครั้งที่ 4 ขอกำลังใจจากแฟนคลับด้วยค่ะ
                      ” กำลังเตรียมเดินทางไปให้กำลังใจทนายในการซักค้านพยานฝ่ายโจทก์เป็นครั้งที่ 4 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แจ้งวัฒนะนะคะ ขอถือโอกาส มาขอกำลังใจจากแฟนคลับด้วยค่ะ “
‘หมอวรงค์’ ยันจำนำข้าว-ระบายข้าว ‘พิลึก’
                      เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ  นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะรวม 9 คน ไต่สวนพยานโจทก์ครั้งที่ 4 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
                      โดยช่วงเช้าอัยการนำ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่เคยอภิปรายการทุจริตโครงการจำนำข้าวในสภา มาให้ไต่สวนเป็นพยานปากแรก สรุปว่า พยานเป็น 1 ใน 3 ผู้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบโครงการจำนำ ซึ่งแม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเคยดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อเนื่องจากรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปี 2551 แต่โครงการของนายอภิสิทธิ์ แยกเป็น 2 ส่วน ครั้งแรกเมื่อต่อเนื่องจากรัฐบาลนาสมชาย ก็ได้ดำเนินโครงการเป็นการรับจำนำข้าว และมีปัญหา จึงยุติแล้วเปลี่ยนเป็นโครงการประกันความสี่ยงในการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งตั้งใจจะช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย และควบคุมวงเงิน พร้อมทั้งไม่ได้ให้เป็นการประกันข้าวเปลือกทุกเมล็ดเหมือนโครงการจำนำข้าวรัฐบาลจำเลย โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ จำกัดปริมาณ 20 – 30 ตันต่อครัวเรือน และแม้จะมีปัญหาดำเนินบ้างที่มีเกษตรกร 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก สุโขทัย และกำแพงเพชร มาให้รัฐบาลแก้ปัญหาจากราคาข้าวตกต่ำ แต่ขณะนั้นก็ต่ำเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งภายหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยการมีมติ ครม.ให้ อคส.และ อตก.ตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวจากเกษตรกรโดยตรง โดยราคาอ้างอิงก็เป็นราคาต้นทุนของเกษตรกรและราคาตลาด ที่เกษตรกรทั้งสามจังหวัดมีส่วนร่วมกำหนดราคาด้วย จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ผู้ค้าได้เข้ามารับซื้อข้าวเกษตรกรจนทำให้ราคาข้าวเป็นปกติตามกลไกลตลาด ไม่ใช่เหมือนกับรัฐบาลจำเลย ที่รับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาดทำให้เกิดผลกระทบทั้งการใช้จ่ายงบประมาณ การขาดสภาพคล่องของรัฐบาลในการจ่ายเงินให้ชาวนา กระทบเศรษฐกิจภาพรวม
                      เมื่อทนายความจำเลย พยายามถามถึงการตรวจสอบข้าวหายในปี 2557 ว่า ตรวจสอบหลังรัฐประหาร จึงไม่ใช่ข้าวหายในรัฐบาลจำเลย และคณะอนุกรรมการตรวจสอบในส่วนของปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังระบุว่า ไม่มีข้าวหายแต่เป็นเรื่องของการลงบัญชีผิดพลาด นพ.วรงค์ ตอบชี้แจงว่า การตรวจสอบมี 2 ส่วน คือ ชุดของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่จะตรวจสอบคุณภาพข้าว ซึ่งชุดนี้ระบุว่ามีข้าวหายจริงจำนวน 119,700 ตัน จากการตรวจสอบกองข้าวที่สามารถนับได้ 17.4 ล้านตัน ส่วนคณะอนุกรรมการของปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นการปิดบัญชีข้าวปี 2557 ซึ่งการตรวจสอบนี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลจำเลย จึงไม่ใช่กรณีข้าวเพิ่งหาย ส่วนที่รัฐบาลจำเลย เคยแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตรวจสอบดำเนินการกับการกระทำผิดโครงการจำนำข้าว ก็มีการดำเนินการรายย่อยเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของการะบายข้าวจีทูจี ซึ่งจากการลงพื้นที่พยานได้ทราบจากชาวนาว่ามีการสวมสิทธิ์ และจากที่เคยอภิปรายรัฐบาลจำเลย พยานได้พยามยามจะนำเสนอข้อมูล แต่ไม่มีหน่วยงานเรียกข้อมูลจากพยานตรวจสอบ
                      นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงหลักของการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ด้วยว่า ในการขายข้าวแบบจีทูจีกับจีนจะต้องกระทำโดย บริษัท คอฟโก้ แห่งเดียวเท่านั้น และลักษณะการชำระค่าซื้อ – ขายข้าว ควรจะต้องเป็นการเปิดแอลซี (LC) เพื่อเป็นหลักประกันผ่านทางธนาคาร ไม่ใช่การซื้อแคชเชียร์
                      ขณะที่องค์คณะฯ ได้ซักถามพยานเพิ่มเติมถึงประเด็นสาระสำคัญการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีว่า มีหลักฐานพิสูจน์เกี่ยวกับ บ.คอฟโก้ หรือไม่ และการค้าระหว่างประเทศ เมื่อต่างประเทศซื้อข้าวแล้วสามารถนำมาขายกลับในประเทศได้หรือไม่ รวมทั้งกระบวนการขายข้าวหน้าคลังสินค้า
                      โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า เคยเห็นหนังสือตอบระหว่าง บ.คอฟโก้ กับนายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าว ที่ยืนยัน สถานะสิทธิ์การซื้อขายแทนรัฐบาลจีน ซึ่งน่าจะมีการส่งให้ ป.ป.ช.แล้ว ส่วนหลักปฏิบัติการค้าระหว่างประเทศ ไม่มีที่จะมาซื้อข้าวในประเทศที่ขายหน้าคลังสินค้า แต่ฝ่ายที่ขายจะต้องส่งสินค้าออกไปในตลาดประเทศผู้ซื้อ และไม่ชำระเป็นการซื้อแคชเชียร์เช็คจากธนาคารหลายๆ ฉบับ แต่จะนิยมทำเป็นการเปิด LC เพียงฉบับเดียว ขณะที่จีทูจีขายข้าวปี 2554 – 2556 พบว่า มีเพียง 212 ตัน แต่เอกสารสัญญาจีทูจี 6 ฉบับ กลับระบุยอดรวมการซื้อขาย 20 ล้านตัน
                      ทั้งนี้ การไต่สวนในช่วงบ่าย อัยการนำนายวิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. เข้าเบิกความระบุว่า นอกจากไต่พยาน 4 ปากแล้ว ป.ป.ช.ยังลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง ไม่ใช่การใช้ข้อมูลวิจัยของสถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ เพียงชุดเดียว และประเด็นที่มีการไต่สวนเพราะรัฐบาลไม่ยอมยับยั้งโครงการ หลังจาก ป.ป.ช. ทำหนังสือโต้แย้งถึง 2 ครั้ง และ สตง.รวมทั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ก็โต้แย้งว่าโครงการอาจเกิดการทุจริตได้ ส่วนที่คณะกรรมการร่วมอัยการ – ป.ป.ช.ไต่สวนข้อไม่สมบูรณ์นั้น ป.ป.ช.ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง แต่ได้รับรายงานว่าประเด็นต่างๆ หากไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตก็สามารถตัดได้ ก็เหลือเพียงพยานปากสถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอเท่านั้น และการแจ้งข้อหารวมถึงการชี้ขาดก็ได้ให้ความเป็นธรรมโดยทำในรูปมติ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ทั้งชุด ไม่ใช่พยานเพียงคนเดียว และพิจารณาว่ามีพยานซ้ำหรือไม่ และคำให้การเป็นการอ้างความเห็นที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งพยานบางปากหากไม่เกี่ยวข้องข้อเท็จจริงของโครงการ ป.ป.ช.จะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามา
                      ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทีมทนายความของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังได้แถลงต่อศาลว่า แม้ศาลจะกำชับให้คู่ความ และบุคคลอื่น ระมัดระวังการสัมภาษณ์และวิจารณ์ชี้นำคดี แต่ขณะนี้ยังมี สื่อสังกัดแนวหน้า และสปริงนิวส์ กระทำการลักษณะชี้นำอยู่ นายชีพ จุลมนต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จึงมีคำสั่งให้ทนายความจำเลย ทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลให้พิจารณาต่อไป
                      ทั้งนี้ ก่อนเข้าฟังการไต่สวนพยานโจทก์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาพร้อมทีมทนายความด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมให้สัมภาษณ์กรณี กกต. จะเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ กปปส. 2,400 ล้านบาท ฐานปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539 ในการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ว่า ทราบรายละเอียดตามข่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ ส่วนตัวก็รู้สึกแปลกใจ เพราะขณะนั้นมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้วตนก็ทำตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ไม่ทราบว่า กกต.จะมาเรียกค่าเสียหายได้อย่างไร ส่วนแนวทางการต่อสู้ก็ต้องขอดูรายละเอียดก่อน ส่วนจะฟ้อง กกต.กลับหรือไม่นั้น ตนขอดูรายละเอียดก่อน
                      ส่วนกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ถูกทหารเข้าควบคุมตัวที่บ้านพักเพื่อนำไปปรับทัศนคติ และจะทำอย่างให้เกิดความปรองดองระหว่าง คสช.และผู้ที่ออกมาแสดงความเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากให้ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จา เพราะว่าจะได้เป็นไปในทางที่ราบรื่นมากกว่า
                      ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายจะไปพูดที่สถาบันนโยบายโลก ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ วันที่ 9 มี.ค.นี้ เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก
                      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่หน้าศาลฎีกาฯ ช่วงเช้า เป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนรอให้กำลังใจจำนวนมาก ทันที่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึงประชาชนต่างตะโกน โห่ร้องให้กำลังใจ “นายกฯ ยิ่งลักษณ์ สู้ๆ” พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้
                      ขณะที่ช่วงเช้าเป็นการไต่สวนพยานปาก นพ.วรงค์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้อภิปรายการทุจริตโครงการจำนำข้าว ซึ่งมี นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ , นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ , คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาร่วมฟังการไต่สวนด้วย ซึ่งระหว่างกลุ่มผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ มาถึงบริเวณทางเข้าศาล มวลชนที่มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โห่ไล่ แต่ไม่เกิดเหตุปะทะกัน แต่อย่างใด

Leave a comment