ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05042011058&srcday=2015-10-01&search=no
| วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 608 |
ผักในบ้านของคนขี้เกียจ
เชตวัน เตือประโคน
สะระแหน่ ไม่ต้องสาระแนมาก แค่เด็ด ชีวิตก็เปลี่ยน
คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่…รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหนว่าหนักแค่ไหนบนหนทางสู้
ยังมีคำปลอบโยน ยังมีคำปลอบใจ…มีคำว่าซำบายดีบ่ ให้กันเสมอ เด้อคนบ้านเรา
เพียงคิดถึงพืชผักสวนครัวอย่าง “สะระแหน่” เพลงลูกทุ่งชื่อก้องนาม “คนบ้านเดียวกัน” ของนักร้องชื่อดัง “ไผ่ พงศธร” ก็ลอยวนเวียนดังก้องอยู่ในหัวสมอง
ยิ่งในมิวสิควิดีโอของเพลงด้วยแล้ว การที่พระเอก เอ็มวี (ไผ่ พงศธร) เล่นเป็นพ่อค้าเปิดร้านขายอาหารอีสาน ยิ่งทำให้นึกภาพตามถึงรายการที่จะถูกเสิร์ฟวางบนโต๊ะ
ไม่ว่าจะเป็น ลาบ น้ำตก แหนมส้ม ยำต่างๆ
เหล่านี้ล้วนมีผัก อย่าง สะระแหน่ โรยหน้า หรือมาเป็นเครื่องเคียง
นั่นเป็นเพราะเจ้าผักชนิดนี้ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีมาก
“แล้วถ้าไม่เคยกินอาหารอีสานล่ะ?” บางคนซึ่งไฮโซหน่อยอาจเม้มปากถาม
ถ้าอย่างนั้นหากอยากรู้ว่าสะระแหน่หน้าตาเป็นอย่างไร ก็ลองดูใบเขียวๆ เล็กๆ หยักๆ ที่ประดับตามไอศกรีมหรือน้ำผลไม้ปั่นๆ เย็นๆ นั่นสิ
“นั่นมันมิ้นต์” เขาหรือเธออาจแย้งกลับ
“ครับ…นั่นแหละ อันเดียวกัน”
เพราะ สะระแหน่ ก็เป็นพืชในตระกูลมิ้นต์ (มีภาษาอังกฤษติดกำกับไว้ว่า Kitchen Mint : มิ้นต์ติดครัว)
เป็นพืชผักที่ให้รสเย็น กลิ่นหอมเหมือนกัน เพียบพร้อมไปด้วยประโยชน์สารพัด
โดยข้อมูลที่เป็นสรรพคุณทางยาบอกไว้ว่า สารฤทธิ์เย็นที่อยู่ในใบสะระแหน่นั้น สามารถช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย บรรเทาอาการหวัด หลอดลมอักเสบและหอบหืด รักษาอาการอ่อนเพลีย ช่วยขับลมในลำไส้ ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยในการย่อยอาหารให้ดีขึ้น
อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดหัวไมเกรน ปวดฟัน เป็นต้น
ที่ผมเคยลองทำดู และได้ผลมาแล้วคือ ใช้เป็นยากันยุง
เหตุจากที่บ้านมักจัดงานสังสรรค์หมู่เพื่อนฝูงกันบ่อย
ตั้งโต๊ะตั้งเก้าอี้ออกมานั่งดูดาวหน้าบ้านยามดึกดื่นก็มักจะโดนยุงรุมกัด
วิธีแก้ไขซึ่งได้ค้นพบจากสะระแหน่และคนที่เคยทำมาก่อนคือ ให้เอาใบมาตำๆ โขลกๆ หรือขยี้ให้กลิ่นหอมระเหยออกมา นำมาไว้ป้องกัน
หากจะเอาชัวร์เลย ก็ขยี้แล้วทาๆ ถูๆ ทั่วตัว
หรือในบริเวณที่ไม่อยากให้ยุงมารบกวน
…
ผมปลูกสะระแหน่ลงกระถาง เด็ดกินบ้าง ทากันยุงบ้างเป็นบางครั้ง
ปลูกนานเข้า เด็ดบ่อยเข้า ก็เริ่มพบว่า เจ้าสะระแหน่เริ่มยาวเริ่มเลื้อยแผ่ จนผมมีความคิดที่จะนำมาลงดินให้รู้แล้วรู้รอด
เคยเห็นจากบ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเปิดร้านขายอาหารเวียดนาม (เข้าใจว่าน่าจะเป็นสะระแหน่ญวน) เขาปลูกเป็นพืชคลุมดิน ซึ่งผมเคยเดินเหยียบย่ำ (เพราะไม่ทันสังเกต) นึกว่าเป็นต้นหญ้า (ฮา)
สะระแหน่ปลูกง่าย โตง่าย งดงามง่าย ไม่ต้องใส่ใจหรือไปสาระแนอะไรกับมันมาก
จำได้ว่าตอนเริ่มปลูกนั้น ต้นพันธุ์ เอ่อ…อันที่จริงน่าจะเรียกว่ากิ่งก้านสะระแหน่ที่เพื่อนบ้านซื้อเอามาทำอาหารนั่นแหละ ปันมาให้กันกำมือหนึ่ง
ผมเลยลองเอาแช่ไว้ในน้ำสักคืนหรือสองคืน
ปรากฏว่ารากงอก
ทีนี้ก็ลองปลูกลงกระถาง รอสัก 4-5 วัน ก็จะเริ่มแตกใบใหม่
จากนั้นต้นสะระแหน่ก็จะเริ่มเลื้อยคลุมเดินไปเรื่อย ไม่นานนักก็จะคุมเต็มกระถาง จนบางครั้งเห็นย้อยๆ ลงมาขวางหูขวางตาจำเป็นต้องเด็ดทิ้ง
สำคัญสำหรับดินที่ใช้ปลูกคือ ต้องเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
ปลูกในที่มีแสงสว่างแต่ไม่ใช่ว่าร้อนมาก ให้มีร่มเงารำไรก็เป็นใช้ได้
…
นอกจากนำไปประกอบอาหาร (อีสาน) อย่าง ก้อย ลาบ ยำต่างๆ แล้ว อีกทางเลือกของใบสะระแหน่ อย่าง การนำมาทำเป็นเครื่องดื่มก็น่าสนใจไม่น้อย
และแน่นอนว่าการเป็น “น้ำผัก” ย่อมต้องอุดมไปด้วยประโยชน์สารพัด
ขอเสนอ 2 แบบ ให้เลือก คือ “ชาสะระแหน่” และ “น้ำสะระแหน่ปั่น”
แบบแรก เพียงนำใบสะระแหน่สด หรือที่ตากแห้งก็ได้ เอามาบดให้ละเอียด ประมาณการว่าได้สัก 2 ช้อนชา ต่อน้ำร้อน 1 แก้ว ชงพร้อมกับน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม คนๆ ให้ทั่ว กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม
อีกแบบ เพียงนำใบสะระแหน่สดประมาณ 1 กำมือ ใส่เข้าในเครื่องปั่น เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม และน้ำอีก 1 แก้ว จากนั้นก็กดปุ่มเดินเครื่องปั่นให้ละเอียด
แบบแรกกรองดื่ม
แต่แบบหลังนั้นดื่มไปเต็มๆ ใบ
ชอบแบบไหน ลองดูไม่ยาก
เห็นไหมล่ะว่า…สะระแหน่…แค่เด็ด (ใบ) ชีวิตก็เปลี่ยน
ใช้กิน ใช้ทา ในพืชชนิดเดียวกัน