ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/588002
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 มี.ค. 2559 04:05

‘ออมสิน’ งงเต๊ก คสช.มาอย่างไรจะยกเลิกรถตู้โดยสารร่วมบริการ ในเส้นทางที่วิ่งให้บริการข้ามจังหวัด พ้อ! ยกเลิกป่วนทั้งระบบแน่ ด้าน ขบ.จ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาความปลอดภัยในการนำรถตู้วิ่งต่างจังหวัด สรุป ก.ย.นี้…
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2559 นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.จะมีนโยบายยกเลิกรถตู้ที่วิ่งให้บริการข้ามจังหวัดนั้นว่า ในเรื่องนี้จะต้องมีการศึกษาร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะ มีแนวทางอย่างไร เพราะการที่จะมายกเลิกง่ายๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เลย ซึ่งถ้ามีคำสั่งออกมาชัดเจนทางผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเห็น และการยกเลิกมันส่งผลกระทบทั้งกับผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับ ผู้ให้บริการ ซึ่งการจัดระเบียบทั้งกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกได้มีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะรถที่ให้บริการจะต้องไม่เกิน 300 กิโลเมตร
ด้าน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการว่าจ้างสถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะสรุปผลการศึกษาภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยเป็นการศึกษาเรื่องความปลอดภัยการนำรถตู้โดยสารมาใช้เป็นรถโดยสารประจำทาง จะมีการวิเคราะห์ความเหมาะสมและมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยของโครงสร้างรถ อุปกรณ์ในรถ เช่น จุดยึดเก้าอี้ เข็มขัดนิรภัย รูปแบบการติดตั้งระบบเชื้อเพลิง รวมถึงความปลอดภัยจากการให้บริการ การบรรทุกผู้โดยสาร การขับขี่ รวมทั้งลักษณะรถและรูปแบบการให้บริการขนส่งสาธารณะ จะต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงและไม่กระทบกับผู้ใช้บริการ
“รถตู้โดยสารประจำทางปัจจุบัน กำหนดอายุใช้งานรถไม่เกิน 10 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง ส่วนนโยบายการจัดระเบียบรถตู้ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เปิดโอกาสให้นำรถตู้ส่วนบุคคลหรือรถตู้ป้ายดำเข้ามาจดทะเบียนเป็นรถตู้ โดยสารสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลให้มีรถตู้เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น 2,149 คัน” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว
นายสนิท กล่าวด้วยว่า รถตู้โดยสารสาธารณะจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น เดินรถในเส้นทางที่กำหนด เก็บค่าโดยสารตามอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด ห้ามดัดแปลงที่นั่งเพื่อให้รับผู้โดยสารมากเกินกว่ากฎหมายกำหนด พฤติกรรมการขับขี่ต้องมีความปลอดภัย ไม่ใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และภายใน 2559 รถตู้โดยสารทุกคันต้องติดตั้งระบบ GPS เพื่อการติดตามกำกับดูแลความปลอดภัยอย่างยั่งยืน.