“คันจัง-เคจัง” สุดยอดส์ปูดองเกาหลี แวะดู “เรือเต่า” ที่บ้านเกิด…ยี ซุน ชิน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/566378

 

เกาะแก่งต่างๆของทะเลทางใต้ในเกาหลี.

จากปูซานทริปพาสื่อมวลชนเยือนแดนกิมจิของ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ วันนี้ เราออกเดินทางสู่เมือง จางซึงโป โปรแกรมของเราคือการไปเที่ยวที่ แฮคึมกัง (Haegeumgang) ที่ถือว่าเป็นเกาะธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของท้องทะเลทางใต้ในเกาหลี ในบรรดาเกาะต่างๆ ที่มีมากกว่า 400 เกาะในทะเลฮัลลยอ เช่น เกาะคอเจ ทงยอง นัมเฮ ยอซู ฯลฯ

ทะเลฮัลลยอ.

ว่ากันว่า คึมกัง คือชื่อภูเขา คึมกังซาน (Geumgangsan) ซึ่งเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในคาบสมุทรเกาหลีอยู่ในเกาหลีเหนือ ส่วนแฮ (hae) แปลว่าทะเลหรือมหาสมุทร แฮคึมกัง จึงน่าจะหมายถึง ภูเขาคึมกัง แห่งท้องทะเล

เรือแล่นมาประมาณเกือบชั่วโมง ก็แวะจอดที่ แฮคึมกัง เพื่อให้ผู้โดยสารออกไปถ่ายรูปด้านนอกเรือได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แทบไม่ได้ภาพสวยๆ เพราะนักท่องเที่ยวเกาหลีต่างพากันเฮละโลออกไปถ่ายรูป ทำให้ไม่มีมุมไหนที่จะได้ภาพสุดประทับใจที่ แฮคึมกัง เลย แถมคู่รักบางคู่ยังบรรจงถ่ายเซลฟี่รูปหวาน นานเสียจนเรือออกแล้วนั่นละ

จากแฮคึมกังไปอีกไม่กี่นาที ก็ถึงจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวทางเรือในวันนี้ นั่นก็คือ เกาะแวโด ซึ่งมีการจัดสวนพฤกษศาสตร์ไว้อย่างสวยงามแบบตะวันตก

ประภาคารที่เกาะแวโด.

เกาะนี้เป็นเกาะของเอกชน เจ้าของคือลี ชาง โฮ ซึ่งเป็นญาติของเจ้าของเกาะนามิ ค่าเรือและค่าเที่ยวชมเกาะคิดเหมาต่อคน 28,000 วอน หรือประมาณเกือบ 900 บาท เป็นเกาะที่มีเรือเข้าออกตามตารางเวลา แต่ในวันที่คลื่นลมรุนแรงเรือจะไม่ออกไปเกาะเด็ดขาด การไปเที่ยวจึงต้องโทร.สอบถามสภาพอากาศก่อนเดินทางการเดินเที่ยวบนเกาะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก่อนลงจากเรือกัปตันจะนัดเวลาให้มาพร้อมกันที่เรือ ถ้าใครมาไม่ทันก็ต้องเสียค่าเรือเพิ่มอีกกว่า 10,000 วอน เพื่อนั่งเรือลำอื่นกลับเข้าฝั่ง

ภาพมุมสูงของเกาะแวโด.

นอกจากสวนพฤกษศาสตร์แล้ว สิ่งที่เจ้าของเกาะแวโดพยายามปั้นแต่งให้มีความสวยงาม เห็นจะเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ และรูปปั้นประติมากรรมตามแบบตะวันตก ซึ่งคนเกาหลีนิยม เหมือนสมัยที่คนไทยเห่อสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งใหม่ๆนั่นละ เก้าอี้ต้องหลุยส์ เสาต้องโรมัน อะไรประมาณนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบเกาะของเมืองไทยที่เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ของการเที่ยวเกาหลีในอีกรูปแบบหนึ่ง

ต้นไม้สวยงามบนเกาะ.

จากเกาะแวโดนั่งเรือกลับเข้าฝั่งประมาณเกือบอีกหนึ่งชั่วโมง มื้อกลางวันวันนี้ เราจะได้กินอาหารขึ้นชื่อของเมืองคอเจโด ที่ชื่อว่า “คันจัง–เคจัง”

คันจัง-เคจัง..ปูดองเกาหลี.

คันจัง-เคจัง คือ ปูดองซีอิ๊ว ที่ว่ากันว่า ถ้าอยากกินปูดองเกาหลีที่อร่อยที่สุดต้องมาที่เมืองนี้ กินร้านไหนก็อร่อย แต่ละร้านมักมีรูปดาราเกาหลีติดโชว์ไว้ว่า ร้านนี้ดาราคนไหนบ้างที่เคยแวะเวียนมากิน เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต่างกับเมืองไทยเท่าไหร่

ครั้งแรกที่คนเสิร์ฟยกชามปูดองมาวางบนโต๊ะ บางคนในกลุ่มของเราทำท่าทางเหมือนไม่กล้ากิน แต่พอคนหนึ่งคีบปูดองเข้าปาก แล้วบอกว่ามันยอดส์มาก…ต้องลอง เท่านั้นละ คนที่สองที่สามก็เริ่มทำตามและไม่ช้าปูในชามก็อันตรธานไปจนหมดสิ้น

หลังอิ่มท้องกับปูดองและปลาทอดสุดอร่อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติฮันยอซูโด (Hallyeosudo National Park) ซึ่งมีรถเคเบิลคาร์พาขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เกาหลีพยายามหาจุดขายการท่องเที่ยวต่างจังหวัดสำหรับนักท่องเที่ยว ที่คุ้นเคยกับกรุงโซลจนทะลุปรุโปร่งแล้ว

ออกจากอุทยานแห่งชาติ Hallyeosudo เดินทางต่อไปยังเมืองทงยอง เมืองนี้นอกจากจะเป็นเมืองท่าที่สวยงามแล้ว ยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมืองหนึ่ง ในฐานะบ้านเกิดของ นายพล ยี ซุน ชิน แม่ทัพเรือฝ่ายซ้ายแห่งมณฑลจอนลา ขุนพลที่นำทัพรบกับญี่ปุ่นจนได้รับชัยชนะ ในสงครามอิมจิน

เรื่องราวของนายพลยี ซุน ชิน มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Admiral Roaring Currents เป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ที่เกาหลีใต้ทุ่มทุนสร้างกว่า 300 ล้านบาท

เรือโคบุกซอน…หรือ เรือเต่า ที่เมืองทงยอง.

ที่ท่าเรือของเมืองทงยอง มีการจำลอง “เรือเต่า” หรือที่เรียกว่า “เรือโคบุกซอน” เรือรบหุ้มเกราะลำแรกของโลกที่นายพลยี ซุน ชิน สั่งให้สร้างขึ้น 12 ลำ แต่สามารถรบชนะกองทัพเรือญี่ปุ่นกว่า 300 ลำได้ ไว้ที่ท่าเรือด้วย

เรือโคบุกซอน หรือเรือเต่านี้ มีลักษณะแปลกกว่าเรืออื่นๆ ตรงที่ดาดฟ้าของเรือหุ้มด้วยหลังคาเหล็ก มีเดือยแหลมยื่นออกมา ไว้สำหรับแทงผู้ไม่หวังดีที่จะกระโดดข้ามมา ดังนั้นในการรบกับญี่ปุ่นเมื่อพวกซามูไรจะกระโดดบุกเข้าเรือ ก็ถูกเดือยแหลมตำขา ทำให้ทำอะไรไม่ได้ ส่วนด้านหน้าเรือเป็นหัวมังกร มีไว้เพื่อข่มขวัญเหล่าศัตรู

ยี ซุน ชิน ถือเป็นขุนพลและเป็นวีรบุรุษของชาวเกาหลี มีการสร้างอนุสาวรีย์ของเขาไว้ที่กรุงโซล ตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้หลากสี ทุกวันจะมีช่วงเวลาในการเปิดน้ำพุสูงกว่า 20 เมตรเป็นแนวยาวรอบอนุสาวรีย์ด้วย

จุดชมวิวบนหมู่บ้านทงพีรัง.

ไม่ไกลจากท่าเรือเมืองทงยอง เดินขึ้นไปบนเนินเขาใกล้ๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่การท่องเที่ยวเกาหลีต้องการโปรโมต นั่นก็คือ หมู่บ้านทงพีรัง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้าน Wall Printing Village ที่มีศิลปินพากันมาวาดรูปตามกำแพง ด้านบนเป็นจุดชมวิวที่มองลงจะเห็นท่าเรือเมืองทงยอง และที่จุดชมวิวนี้เองที่เราได้เห็นพระจันทร์ขึ้นทั้งๆที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดิน เป็นการปิดทริปท่องเที่ยวต่างจังหวัดเกาหลีที่น่าประทับใจ ก่อนที่เราจะต้องรีบกลับไปเก็บข้าวของเพื่อเข้าสู่กรุงโซล เพื่อสัมผัสบรรยากาศในอีกรูปแบบหนึ่งของเกาหลี…ในวันต่อไป..!!!

ภาพเขียนบนกำแพงที่หมู่บ้านทงพีรัง.

พระจันทร์ขึ้นก่อนพระอาทิตย์.

Leave a comment