ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160324/224675.html
“กรธ.”เปิดช่อง เลือกนายกฯคนนอกง่ายขึ้น แถมให้อำนาจคสช.เลือกสว.สรรหาทั้งหมด อุดช่องกม.นิรโทษกรรม-แก้กม.ปราบโกง ต้องประชุมรัฐสภา ล็อก 6 ที่นั่งให้ผบ.เหล่าทัพ
ที่โรงแรมอิมพีเรียล หัวหิน บีช รีสอร์ท จ.ประจวบคิรีขันธ์ วันที่ 24 มี.ค.2559 นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แถลงความคืบหน้าการพิจารณาทบทวนร่างรัฐธรรมนูญเป็นวันที่ 2 ว่า กรธ.ได้พิจารณาในส่วนบทเฉพาะกาล จากหลักการที่ประชุมกรธ.ได้รับจากข้อเสนอคสช. โดยประเด็นที่มาส.ว.สรรหา ในบทเฉพาะกาล กรธ.ได้กำหนดให้มีส.ว.จำนวน 250 คน โดย 200 คนแรก มาจากคณะกรรมการสรรหาจำนวน 9 คนที่คสช.แต่งตั้งเพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจำนวนไม่เกิน 400 คน เสนอชื่อให้คสช.เลือกเหลือ 194 คน โดยอีก 6 คนให้มาจากตำแหน่งที่ประกอบไปด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส. ผบ.ทบ ผบ.ทร ผบ.ทอ.และผบ.ตร. ซึ่งเป็นการแต่งตั้งโดยตำแหน่ง ซึ่งจากเดิมที่กรธ.ไม่ได้กำหนดว่า เป็นข้าราชประจำในตำแหน่งใด และจะมีรายชื่อสำรองไว้อีก 50 คน โดยใช้คุณสมบัติส.ว.ตามบทหลัก และยกเว้นให้ 194 คน ที่ได้รับการสรรหา ยกเว้นเรื่องการเป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ซึ่งบทหลักได้กำหนดให้ต้องเว้นวรรค 5 ปีก่อน
นายอุดม กล่าวอีกว่า เรื่องของข้าราชการประจำหากเราตั้ง 6 ตำแหน่งไว้กว้างๆ ก็อาจมีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการประจำอื่นๆว่าทำไมไปเลือกตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ จึงคิดว่าคสช.น่าจะสบายใจเพราะไม่ต้องไปตอบคำถามข้าราชการส่วนอื่นๆ และคสช.เองคงมีเหตุผลที่เสนอมาแบบนี้ ให้คนที่ดูแลความมั่นคงมาอยู่วงในจะได้เข้าใจการทำงานในรัฐสภาด้วย และข้าราชการส่วนอื่นๆที่ผ่านมา หากอยากเป็นส.ว.ก็ต้องไปลาออกจากตำแหน่งก่อนหรือหากคณะกรรมการสรรหาเลือกเข้ามาถ้าเขาอยากเป็นส.ว.ก็ไปลาออกจากราชการ ซึ่งคสช.ต้องคิดแล้วว่า การเลือกใครเข้ามาแล้วจะสามารถทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านได้ อย่างน้อยวุฒิสภาก็สามารถถ่วงดุลอำนาจ หากเกิดความขัดแย้งกันในสภาผู้แทนฯหรือทำอะไรที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งแบบเดิมๆอีก กรธ.ไม่เคยคิดในประเด็นที่จะสืบทอดอำนาจ อย่าไปกลัวว่ากรธ.จะเขียนอะไรเพื่อให้คสช.สืบทอดอำนาจ งานหลักของส.ว.คือการดันการปฏิรูปและยับยั้งการเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก
นายอุดม กล่าวต่อว่าส่วน ส.ว. อีก 50 คน ให้มจากการเลือกไขว้ โดยให้ กกต. เป็นคนรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยให้สรรหามาจำนวน 200 คน และให้ คสช. เลือกเหลือ 50 คน พร้อมด้วยสำรองอีก 50 คน
ส่วนหน้าที่ของส.ว. กรธ.เห็นว่าให้ติดตามการปฏิรูปประเทศด้วยนอกจากแผนการปฏิรูปประเทศซึ่งในกฎหมายกำหนดระยะเวลาและขั้นตอนไว้แล้ว กรธ.ได้กำหนดบทบาทการเร่งรัดรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศ โดยให้รัฐบาลชุดใหม่รายงานผลการปฏิรูปทุก 3 เดือนให้วุฒิสภาทราบ เพื่อให้การปฏิรูปเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดและประสบผลสำเร็จ ส่วนบทลงโทษหากทำไม่ได้กรธ.ไม่ได้กำหนดไว้ ส่วนการร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศแม้จะกำหนดว่าเป็นขั้นตอนตามปกติ แต่หากมีปัญหาว่ามีการยับยั้งในเรื่องกฎหมายจากรัฐบาล กรธ.ได้กำหนดให้การพิจารณากฎหมายปฏิรูปโดย 2สภาร่วมกันหากขั้นตอนปกติเกิดปัญหา ส่วนหากสงสัยว่ากฎหมายนั้นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศหรือไม่ ก็ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาที่ประกอบด้วย ประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนฯ ผู้นำฝ่ายค้าน ประธานกมธ.ของสภาผู้แทนฯให้เลือกกันเองแต่ยังไม่กำหนดจำนวนและประธานกมธ.วุฒิสภาทุกคณะ
ทั้งนี้หากมีปัญหากฎหมายที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมหรือเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายการปราบปรามการทุจริต การตรวจเงินแผ่นดิน การเพิ่มเติมโทษในตำแหน่งหน้าที่ หรือแก้ไขให้การกระทำบางอย่างไม่ต้องรับผิด หากมีการยับยั้งตามกระบวนการของรัฐสภา ให้กฎหมายนี้มีการพิจารณาร่วมกันของทั้ง2 สภาโดยหลักการนี้จะบังคับใช้ในช่วง 5 ปีเท่านั้น
นายอุดม กล่าวต่อว่า ประเด็นที่มานายกฯที่คสช.เสนอมาว่าเห็นควรไม่ต้องบังคับให้เปิดรายชื่อนายกฯ 3 ชื่อนั้น กรธ.เห็นว่าช่วง 5 ปีแรกอาจจะหาทางแก้หากเกิดปัญหาได้ จึงกำหนดในบทเฉพาะกาล ว่าหากสภาผู้แทนฯไม่สามารถเลือกนายกฯตามเกณฑ์ปกติได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ จึงกำหนดว่า หากมีส.ส.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯเสนอเรื่องต่อประธานสภาฯเพื่อเรียกประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาขอเว้นการเสนอชื่อนายกฯนอกเหนือจากรายชื่อ 3 ชื่อที่พรรคการเมืองเสนอได้ หากได้เสียง 3 ใน 5 ของสมาชิกรัฐสภาหรือ 450 คนเห็นชอบ ก็ให้สภาผู้แทนฯไปเลือกนายกฯโดยคนในหรือนอกบัญชีก็ได้ จากเดิมที่กรธ.กำหนดให้ใช้เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาหรือ 500 คน
เมื่อถามว่าการที่กรธ.ปรับสัดส่วนเสียงจาก 2 ใน 3 ของรัฐสภา เป็น 3 ใน 5 จะเป็นการเปิดช่องให้มีนายกฯคนนอกง่ายขึ้นหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า จะว่าง่ายก็ง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเสียงที่ประชุมร่วม เราเห็นช่องว่าง ที่พรรคแต่ละพรรคเสนอคนเข้ามาเป็นนายกฯช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีแรก มีเสียงสะท้อน จากพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคใหญ่ ยังไม่ค่อยเต็มใจที่จะทำตาม แต่เราก็ไม่ได้บังคับทุกพรรคที่ต้องเสนอชื่อนายกฯอยู่แล้ว เราคิดว่าไม่เห็นภาพชัดเจนและอาจเกิดปัญหาไม่สามารถเลือกนายกฯได้ จึงปรับสัดส่วนให้ลดลง
เมื่อถามว่าสาเหตุใดที่ให้อำนาจคสช.เป็นผู้คัดเลือกสว.สรรหาทั้งหมด นายอุดม กล่าวว่า ต้องการให้เป็นปลาน้ำเดียวกัน ไม่ใช่ปลา 2 น้ ำเพราะอาจจะเกิดปัญหาในการทำงานได้ เมื่อถามว่าในส่วนสว. 50 คน ที่มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมหลักการเดิมกรธ.จะให้เลือกโดยมีตัวแทนจังหวัดละ 3 คน เท่ากับ 231 คน แต่ทำไมถึงลดเหลือ 200 คน เท่ากับว่าสัดส่วนในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากันหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า เจตนาเราไม่ได้ต้องการให้มีสว.ทุกจังหวัด แต่เป็นตัวแทนของสาขาอาชีพ และสุดท้ายเหลือ 50 คน ไม่ครบทุกจังหวัดอยู่แล้ว
คสช.ยันกรธ.ต้องปรับที่มาส.ว.และนายกฯ
แหล่งข่าวจาก คสช. เปิดเผยว่า คสช.มีเจตนารมณ์ และความแน่วแน่ที่จะปฏิรูปประเทศ เพื่อป้องไม่ให้เกิดปัญหาความวุ่นวายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา การที่ คสช.ยื่นข้อเสนอไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเพราะเห็นว่ามีประโยชน์กับประเทศชาติในช่วงการเปลี่ยนผ่านขอ งบ้านเมืองในช่วง 5 ปี ที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งนี้การเสนอของ คสช.มีความจำเป็นใน 3 เรื่องหลักต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ คือ 1.งานความมั่นของประเทศที่จะต้องมีการบูรณาการในแก้ไขปัญหาของประเทศให้ทั่วถึงในทุกมิติ 2.การวางรากฐานอนาคตของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และ 3.การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในอดีต ที่จะต้องไม่มีการสร้างเงื่อนไขขึ้นมาอีก
แหล่งข่าว คสช. ยอมรับว่า ไม่กังวลกรณีที่ กรธ.ให้พบกันคนละครึ่งทางตามที่ คสช.เสนอแนวทาง 3 ข้อในบทเฉพาะ เพราะขณะยังเหลือเวลาในการปรับปรุงอีก 1 สัปดาห์ ซึ่ง คสช.คิดว่า กรธ.คงเห็นความตั้งจริงของ คสช.ในการเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่ง คสช.อาจจะทำข้อเสนอปรับแก้บทเฉพาะกาล ส่งไปให้กมธ.อีกครั้ง โดยเฉพาะ ประเด็น ที่มา และ อำนาจของ ส.ว. ในการควบคุมรัฐบาล และที่ มาของนายกฯ
แหล่งข่าว จาก คสช. กล่าวด้วยว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะสอบผ่านหรือจะโดนใจรัฐบาล คสช. และประชาชนหรือไม่ ขณะนี้ทำได้เพียงรอการผลของ กรธ.เท่านั้น แต่คิดว่า กรธ.มีความตั้งใจจริงเพื่อหวังตอบโจทย์ให้กับบ้านเมืองตามที่ รัฐบาล และ คสช.คาดหวัง
“รัฐบาล และ คสช.คาดหวังว่า รธน.ฉบับนี้จะต้องตอบโจทย์ และนำพาไปสู่การปลดล็อคปัญหาของประเทศชาติ การที่ให้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหวังให้ทำหน้าที่ในการพิทักรัฐธรรมนูญ เพราะการปฏิรูปประเทศไม่เป็นไปตามที่ต้องการ โดยทำหน้าที่ในการพูดคุยกับ ส.ว.ที่เหลืออีก 244 คน ในสภาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยกัน ซึ่งดีกว่าที่จะมาพูดกับ ผบ.เหล่าทัพด้วยกันเอง 5-6 คนเท่านั้น ”
แหล่งข่าว คสช. กล่าวอีกว่า รัฐบาล และ ตสช.พยายามวางกฎระเบียบให้บ้านเมืองไปในทิศทางเดียว ไม่ต้องการหวังสืบทอดอำนาจ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใด ทุกอย่างมีขั้นตอนที่ รัฐบาล และ คสช.ได้กำหนดไว้ โดยปี 2560 จะต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข โดยเฉพาพาะการป้องกันเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นจุดล่อแหลม หรือจุดเสี่ยงของประเทศ โดยรัฐบาล และ คสช.ไม่ต้องเห็นบ้านเมืองต้องสูญเสียของคนไทยด้วยกันเอง
พรเพชรงดจ้อปมแก้รธน.โยนเป็นดุลพินิจกรธ.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ กรณี กรธ.ยอมปรับแก้ให้โควต้า 6 ผู้นำเหล่าทัพนั่ง สว.ว่า ไม่อยากพูด หรือวิจารณ์ เพราะหากพูดอีกก็จะวิจารณ์กันไปผิดๆ
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เคยเสนอให้ทบทวนก่อนหน้านี้ ล่าสุดกรธ.ปรับแก้ให้ตามที่เสนอหลายประเด็น พอใจ รับได้หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า กรธ.จะปรับแก้เนื้อหาอย่างไรตนอยากให้เป็นดุลพินิจของกรธ.โดยแท้ ไม่อยากให้สัมภาษณ์ ขอให้รอดูร่างสุดท้ายออกมาก่อนจะดีกว่า
