ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05129151058&srcday=2015-10-15&search=no
| วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 609 |
เรื่องเล่าจากสองข้างทาง
ธนสิทธิ์ เหล่าประเสริฐ
“ตำบลละล้าน” ทะลุเป้า บรรเทาภัยแล้งชุมชนเกษตร
จากการที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร บูรณาการร่วมกับกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2558 เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนเกษตรในช่วงฤดูแล้ง โดยให้ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) ทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการ
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยมีชุมชนเกษตรร่วมดำเนินโครงการ 6,596 โครงการ ในพื้นที่ 3,043 ตำบล ใช้งบประมาณรวม 2,992.75 ล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างแรงงาน จำนวน 871,849 ราย คิดเป็นแรงงาน 5.26 ล้านแรง
กิจกรรมที่ชุมชนเกษตรดำเนินการภายใต้โครงการนี้ มี 4 กิจกรรม คือ
1. การจัดการแหล่งน้ำ มีจำนวน 3,328 โครงการ สามารถบริหารจัดการน้ำรองรับพื้นที่การเกษตรได้ กว่า 7.08 ล้านไร่
2. การแปรรูปผลผลิตทางเกษตร 636 โครงการ ทำให้เกิดศูนย์เรียนรู้ 493 ศูนย์ และช่วยสร้างมูลค่าจากการจำหน่ายผลผลิต คิดเป็นมูลค่ารวม 92.32 ล้านบาท
3. การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2,371 โครงการ สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยชีวภาพได้ไม่น้อยกว่า 567,770 ตัน ทั้งยังมีการสร้างและปรับปรุงลานตากผลผลิตเกษตร เช่น ข้าว และมันสำปะหลัง ซึ่งรองรับผลผลิตได้ ประมาณ 1.90 ล้านตัน/ฤดูกาลผลิต
4. การจัดการเพื่อลดความสูญเสียผลผลิตเกษตร จำนวน 261 โครงการ สามารถรองรับการจัดการศัตรูพืชในพื้นที่เกษตร จำนวน 811,010 ไร่ คาดว่า จะมีการขยายผลต่อยอดเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง ทั้งในระยะกลางและระยะยาวต่อไป
ด้าน นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ประเมินผลการดำเนินโครงการสร้างรายได้ฯ ในภาพรวม พบว่า ชุมชนเกษตรที่เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจมาก ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งยังช่วยสร้างความเข้มแข็ง ความปรองดอง ความสามัคคี และมีเงินหมุนเวียน ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของชุมชนได้ถึง 2,048 ล้านบาท คิดเป็น 84% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,442 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังเกิดการบูรณาการทำงานของหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อน ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบของการบริหารโครงการสำคัญในระดับชุมชนได้
“กรมส่งเสริมการเกษตร ได้คัดเลือกโครงการของชุมชนเกษตร จำนวน 32 โครงการ ที่อยู่ภายใต้โครงการสร้างรายได้ฯ มาเผยแพร่สู่สาธารณะเพื่อเป็นต้นแบบแก่ชุมชนอื่นๆ และเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการทำงานของ ศบกต. รวมทั้งกลุ่ม/องค์กรเกษตรกรในการพัฒนาชุมชนเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้มีการขยายผลการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม สามารถช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ในช่วงหน้าแล้ง และลดปัญหาเคลื่อนย้ายแรงงานสู่เมืองใหญ่ได้”
“อนาคต กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีแนวคิดนำหลักการของโครงการสร้างรายได้ฯ ไปขยายผลต่อยอดสู่การสร้างฟาร์มชุมชน เป้าหมายนำร่อง อำเภอละ 1 ฟาร์ม ใน 882 อำเภอ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนมีการจัดการฟาร์ม เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมสร้างอาชีพและสร้างรายได้ ในช่วงที่ไม่สามารถทำการผลิตในภาวะปกติของครัวเรือน เป็นการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภาวะภัยแล้งด้วย” นายโอฬาร กล่าว
ทั้งนี้ ฟาร์มชุมชนมีรูปแบบการดำเนินกิจกรรม 4 กิจกรรม ขึ้นอยู่กับความต้องการของชุมชนเป็นหลัก คือ
1. การสร้างและพัฒนาแหล่งน้ำการเกษตรของชุมชน
2. การผลิตพืช ปศุสัตว์ และประมง
3. การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และ
4. การฝึกอาชีพการเกษตรและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร
ซึ่งคาดว่า จะทำให้เกิดแหล่งสำรองอาหารของชุมชน ทั้งยังเกิดแหล่งฝึกอาชีพและสร้างรายได้ของเกษตรกร และเกิดทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินกิจกรรมฟาร์มชุมชน เป็นต้น