‘นายกฯ’ขออย่าทะเลาะปมรธน.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160317/224279.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2559
‘นายกฯ’ขออย่าทะเลาะปมรธน.

‘นายกฯ’ ย้ำยึดโรดแม็พไม่เปลี่ยนแปลง ขออย่าทะเลาะปมรัฐธรรมนูญ สั่ง รมต.งดจ้อการเมืองเสียบรรยากาศ แนะดูซีรีย์ ‘Descendants of the Sun’ สอดแทรกรักชาติ

      17 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมนาทางวิชาการประจำปีของการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ประจำปี 2558 พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารกับความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ” ตอนหนึ่ง โดยยืนยันว่า ตนไม่ต้องการคะแนนโรดแม็พที่กำหนดไว้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ใครจะรักหรือเกลียดก็ช่าง ตนเอาประเทศเป็นที่ตั้งเพราะทุกคนคือคนไทย เชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจ แต่ต้องทำให้ใจมั่นคงด้วยอย่าไปเชื่อและถูกล้างสมองแบบเก่า หากเชื่อตนก็ต้องมาช่วยตนและช่วยรัฐมนตรีเพราะรัฐมนตรีไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจของรัฐบาลและคสช.ดีขึ้นแต่ไม่มากขึ้น เพราะยังมีคนบิดเบือนอยู่และยังทะเลาะกันเรื่องรัฐธรรมนูญ ภาษากฎหมายมันตีกันหมด ถ้าคนจะตีความซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากนี้หากทุกคนยอมรับในกระบวนการก็แก้ได้หมด ทำไมจะต้องเอาเป็นเอาตายจะกลับไปใช้มาตรา 37 หรืออย่างไร
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนมุ่งหวังแต่ทำโครงการใหญ่ ตนไม่ให้ ต้องผ่านรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ อีเอชไอเอ ให้ได้ก่อนถ้าทำโครงการใหญ่ไม่ได้ก็ทำโครงการเล็กไปก่อน อะไรที่ทำได้ก็ทำอะไรที่ทำไม่ได้ตนยึดคืนหมด ส่วนในเรื่องของการประเมินข้าราชการไม่ได้คาดหวัง แค่อยากให้ตอบคำถามสังคมในสิ่งที่ตัวเองทำได้ ไม่ใช่ข้าราชการที่ทำตามคำสั่ง รู้ว่าทุกคนอยากเติบโต ถ้าทำไม่ได้ก็จะแก้จาก คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.) เป็น คณะกรรมการพัฒนาตู่(กพต.)
      นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยดูถูกคนไทย คนไทยฉลาดโดยเฉพาะแกนนำ ส่วนคนเล็กๆ น้อยๆ ก็ถูกกดดัน ตนอยากให้คนฉลาดอยู่ภายใต้กฎหมาย ทุกคนจะได้อยู่อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แบ่งผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆตนไม่เอา วันนี้ขออย่าปลุกระดมเหมือนสมัย 2514 ให้เกิดความขัดแย้ง ประชาธิปไตยก็ได้แล้วจะเอาอะไรอีก อย่าให้คนไม่ดีมาสร้างความขัดแย้งหรือเข้ามามีบทบาท มาบอกว่าหวังดีแต่แย้งทุกเรื่องค้านทุกเรื่อง ตนก็แปลกใจทำไมมาพูดทุกเรื่อง ที่ผ่านมาไม่พูดมากและเหนื่อยขนาดนี้ ไปต่างประเทศก็แค่ เยสๆ และก็จับมือ แต่ตนพูดจนปากเปียกปากแฉะ
      ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยทำอะไรเสียหาย ถ้าทำอะไรขอให้บอก หรือเขียนจดหมายมา อย่าไปเขียนในโลกโซเชียล ตนจะรับทุกเรื่องมาแก้ปัญหา และหลังจากนี้ตนจะไม่พูดเรื่องการเมือง วันนี้ใครถามเรื่องการเมืองตนจะเล่นงาน พร้อมสั่งรัฐมนตรีทุกคนงดตอบเรื่องการเมือง เพราะน่ารำคาญ เสียบรรยากาศเปล่าๆ
‘นายกฯ’ ฉะ ‘ไทยพีบีเอส’ ใช้งบรัฐเสนอข่าวปัญหาปชช.ด้านเดียว ยกซีรีย์เกาหลีสอดแทรกรักชาติ
      17 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมนาทางวิชาการประจำปีของการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ประจำปี 2558 พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารกับความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ” โดยระบุตอนหนึ่งว่า
      “สื่อมวลชนต้องช่วยตนทำความเข้าใจ อย่างช่อง ไทยพีบีเอสที่ใช้เงินภาษีใช้เงินรัฐ แต่กลับนำเสนอปัญหาของประชาชนเพียงด้านเดียว ควรจะให้งบประมาณต่อไปอีกหรือไม่ ส่วนช่อง 11 ตนก็สั่งให้ปรับผังรายการทั้งหมดจนไม่มีคนดู เพราะเป็นวิชาการมากเกินไป ส่งผลให้เรตติ้งตกรั้งท้ายร่วมกับช่อง 5 สู้เรตติ้งช่องธุรกิจอื่นๆไม่ได้ เพราะช่อง 11 ไม่มีงบประมาณเพียงพอทำได้เพียงละครสั้นเท่านั้น โดยเปรียบเทียบกับซีรีย์เกาหลีเรื่อง “Descendants of the Sun” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับทหารสอดแทรกความรักชาติ รักประชาชน หน้าที่พลเมือง และกำลังเป็นที่นิยมขณะนี้ ซึ่งตนมองว่า ทะเลาะกันขัดแย้งกันก็รักกันได้ ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ได้ ต่างจากคนไทย ที่ดูแล้วทำตามโดยไม่รู้ว่าคืออะไร ใครเรียกชุมนุมก็ไป จึงต้องสร้างความการรับรู้ใหม่ หากใครอยากสร้างละครตนก็จะออกทุนให้ เพื่อให้คนรักชาติ พร้อมฝากอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ดูแลกรณีมีภาพโป๊เปลือยออกอากาศในขณะนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าหลุดหรือตั้งใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
‘นายกฯ’ เปิดงาน ‘การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารกับการสร้างความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ’
      17 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.20 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารกับการสร้างความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ” และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการต้นแบบโดดเด่นให้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และจ.หนองคาย โดยมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง
      นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนตั้งคำถามว่า พ.ร.บ.นี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2540 ผ่านมา18 ปี มีแค่ 2 หน่วยงานที่ได้รับรางวัล จาก 8,000 กว่าหน่วยงานที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล หรือต้องรออีก 18 ปีข้างหน้าถึงจะมีอีก 2 หน่วยงานที่ได้รับรางวัล ตนขอให้ยกเลิก สโลแกน “เปิดเผยคือโปร่งใสปกปิดคือยกเว้น” โดยขอให้ตัดคำว่า “ปกปิดคือข้อยกเว้นออก” ออกเพราะจะยิ่งดูน่าสงสัย และข้อมูลของข้าราชการเปิดเผยได้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีกฎระเบียบแต่ปฏิบัติไม่ได้จึงสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ประชาชน แม้ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ได้รับรางวัลยังมีการร้องเรียนกัน แสดงว่าประชาชนไม่เข้าใจและใช้ความรู้สึกมากกว่าจึงถือเป็นความท้าทายของข้าราชการที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจมากกว่าการรับรู้จากโซเชียลมีเดียหรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยเริ่มจากกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องหาทางแก้ไขให้ได้ภายใน ปีงบประมาณ 2560 และวันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่านำร่องหรือต้นแบบ แต่ให้ทุกหน่วยงานทำไปพร้อมๆกัน
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกันไม่ใช้ให้ข้าราชการรับผิดชอบทั้งหมด ถ้าหากเราไม่เอาจริงเอาจริงทุกอย่างจะล้มเหลว จึงต้องเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยฝากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในการร่างแผ่นฉบับที่ 12 ว่าหน่วยงานจะต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิผลสามารถจับต้องได้โดยยึดหลักความโปร่งใส กระจายอำนาจในการตรวจสอบ ถือเป็นโจทย์ของรัฐบาลนี้ในการแก้ไขปัญหาทุจริตให้หมดไป โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลยังอยู่ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมให้ได้เพื่อไม่ให้ประเทศชาติเสียหายไม่ใช่มุ่งเน้น แต่เรื่องสิทธิจนลืมคำว่าหน้าที่ ทำให้เกิดความขัดแย้ง
      นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไทยและหลายประเทศประสบปัญหาการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งหลายประเทศชื่นชมรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาในช่วงปฏิรูปและรอดูการปฏิบัติการประเมินผลซึ่งทุกอย่างจะวัดจากจีดีพีอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องวัดจากความพอใจและความสุขของประชาชน พร้อมขอให้สื่อมวลชนทำความเข้าใจสร้างการรับรู้ตนก็พูดไปเยอะแต่ก็ยังเป็นแบบนี้ อย่าวิเคราะห์วิจารณ์ไปตามความรู้สึกให้เกิดความสับสนจนเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก ขัดแย้งเกิดผลประโยชน์ทางการเมือง ตีกันจนเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งหากคิดว่าที่ตนพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็อยากให้ทำตาม แต่ถ้าคิดว่าไม่ถูกก็รอวันหน้า
      ในส่วนการเปิดเผยว่ามีการทุจริต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขออย่าพูดโดยไร้หลักฐานและขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณา เพราะจะทำให้ประชาชนไม่เข้าใจ สื่อ เอ็นจีโอไม่เข้าใจ เพราะต่างคนต่างทำ ทำแต่เรื่องของตัวเองไม่สนใจคนอื่น ตนก็จนใจ เพราะทุกสิ่งที่ทำต้องเริ่มจากหัวใจของทุกคนไม่ใช่ความรู้สึกอย่างเดียวต้องคำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ทีเสียหายก็ต้องมีการเยียวยาแต่ต้องทำครั้งเดียวให้เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืน ไม่ใช่ทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น
      “ที่ผ่านมา 2 ปีเจอปัญหามาร้อยๆเรื่อง แก้แรงไปไม่ได้แก้อ่อนไปก็ว่าเสียของ เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยลดแรงกดดันและขอให้เห็นใจผมด้วย เพราะผมเข้ามาตั้งใจจะแก้ปัญหา คนต้องการให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่บางทีข้าราชการล่างๆไม่สนใจ สนใจแต่งานตัวเอง ไม่รู้เรื่องที่เกี่ยวโยงกับกระทรวงอื่น ทั้งที่เป็นปัญหาเดียวกัน เช่นเรื่องน้ำจะให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงเดียวรับไหวหรือไม่ ทุกกระทรวงต้องเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันเพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องทำงานให้ประชาชน ให้ประเทศ ทำให้เข้าใจและพอใจ หรือมีคะแนนเสียงของแต่ละกระทรวงไม่ได้ ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุข ไม่ใช่บำบัดสุข บำรุงทุกข์ ” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
      นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำขาดเขื่อน ทำอะไรไม่ได้ทั้งที่เรื่องนี้มีมานานแล้ว ตอนนี้ควรบริหารจัดการเท่านั้น วันนี้ให้ดูการระบายน้ำส่งน้ำวุ่นวายไปหมด แต่ตอนนี้ก็ยังมีเวลาให้ช่วยกันจัดการก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ จนทำให้เกิดการทุจริต

Leave a comment