น้ำผึ้งโพรง เขาค้อม…จากธรรมชาติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05074151058&srcday=2015-10-15&search=no

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 609

เกษตรอินทรีย์และวิถีสุขภาพ

องอาจ ตัณฑวณิช Ongart8117@gmail.com

น้ำผึ้งโพรง เขาค้อม…จากธรรมชาติ

มีข้อมูลว่า คัมภีร์ “เสินหนงเปิ่นเฉ่าจิง” ของชาวจีน เมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีก่อน ได้กล่าวถึงสรรพคุณของน้ำผึ้งไว้ว่า ถ้ากินสม่ำเสมอจะช่วยบำรุงสมอง ร่างกายจะเบาสบาย ไม่เหี่ยวย่น ไม่แก่ง่าย อ่านมาถึงตรงนี้ คนรักสุขภาพมีความสุขมากที่ได้กินน้ำผึ้ง น้ำผึ้งเป็นสารที่ให้ความหวานชนิดแรกๆ ที่มนุษย์ใช้เป็นอาหารก่อนที่จะรู้จักน้ำตาลชนิดต่างๆ ในพระไตรปิฎก คัมภีร์ไบเบิล และคัมภีร์อัลกุรอาน ยังมีเรื่องราวของน้ำผึ้งจารึกอยู่ จึงนับได้ว่าน้ำผึ้งเป็นสิ่งที่แทบทุกชาติศาสนายอมรับในความมีคุณค่าของตัวน้ำผึ้งเอง

ในน้ำผึ้งมีวิตามินหลายชนิดแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเกสรดอกไม้ที่เป็นอาหารของผึ้ง ส่วนเกลือแร่จะทำให้มีกลิ่นหอมและมีปริมาณที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย มีน้ำตาลโมเลกุลเดียวที่ย่อยง่ายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีกรดและเอนไซม์ที่มีประโยชน์ น้ำผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารฟลาโวนอยด์ คาทาเลส อัลคาลอยด์ และสารอื่นๆ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของยีน เร่งน้ำย่อย ช่วยให้เจริญอาหาร และช่วยเสริมสุขภาพทั้งในยามปกติและยามเจ็บป่วย เป็นต้น

ผึ้งโพรง เป็นผึ้งพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในป่าธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผึ้งโพรงจะมีรังขนาดเล็กๆ ซ้อนกันหลายๆ ชั้น ชอบอาศัยอยู่บริเวณโพรงไม้ โพรงใต้ดิน โพรงหิน หรือที่ค่อนข้างมิดชิด มีขนาดตัวเล็กกว่าผึ้งหลวง ซึ่งจะทำรังเดียวหรือไม่กี่รัง มีขนาดใหญ่ ในป่าที่มีต้นไม้สูง เช่น ต้นตะเคียน ต้นยาง ในป่าลึก ตัวมีขนาดใหญ่และนิสัยดุร้าย บินได้ไกลกว่าผึ้งโพรง ผึ้งโพรงจะมีการแยกรังบ่อยครั้งเมื่อมีเหตุต่างๆ เช่น ขาดแคลนอาหาร มีศัตรู หรือที่อยู่อาศัยคับแคบ แต่ผมมีความเห็นว่าผึ้งโพรงจะย้ายรังบ่อยเนื่องจากที่อยู่คับแคบมากกว่า เนื่องจากผึ้งโพรงจะสร้างรังในพื้นที่จำกัด ไม่สามารถขยายรังได้เหมือนผึ้งหลวง ซึ่งสร้างรังบนกิ่งไม้สามารถขยายขนาดของรังได้โดยไม่ถูกจำกัดพื้นที่ พอผึ้งโพรงรังขยายจนเต็มโพรงก็จำเป็นต้องย้ายรัง น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ไม่น่าจะเป็นสัญชาตญาณ เป็นเรื่องคับที่อยู่มากกว่าคับอกคับใจจนต้องย้ายรังมากกว่านิ

ผึ้ง เป็นกลุ่มสังคมที่แบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน ระหว่าง ผึ้งนางพญา ผึ้งตัวผู้ และผึ้งงาน พญาผึ้งทำหน้าที่ขยายพันธุ์ ส่วนผึ้งตัวผู้ทำหน้าที่ผสมพันธุ์แล้วก็ตาย แต่ผึ้งงานทำหน้าที่หาน้ำหวาน นับเป็นงานหนักที่สุด เพราะผึ้งต้องบินไกลเป็นกิโลเมตรเพื่อจะหาดอกไม้ที่เป็นแหล่งน้ำหวาน คาดกันว่าผึ้งงานต้องบินหาน้ำหวาน ประมาณ 50,000-100,000 เที่ยว จึงจะได้น้ำผึ้ง 1 ลิตร เมื่อผึ้งดูดน้ำหวานของเกสรดอกไม้ก็จะเก็บไว้ในกระเพาะ เมื่อผสมน้ำเอนไซม์หรือน้ำย่อยในตัวผึ้งก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้ง แล้วนำไปเก็บในรวงผึ้งที่เป็นช่องเล็กๆ จนเต็มแล้วเอาไขผึ้งปิดปากรวง เพื่อเก็บน้ำผึ้งไว้ใช้เป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนและนางพญา รังหนึ่งๆ ของผึ้งโพรงที่สร้างรังในธรรมชาติมีผึ้งอยู่ประมาณไม่เกิน 10,000 ตัว เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จึงมีประมาณ 2-5 กิโลกรัม เท่านั้น

จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่หลากหลาย เป็นภูเขา ที่ราบ ที่ดอน และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ริมปากอ่าวหรือรอบหมู่เกาะจะเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้เหมาะสมกับการเลี้ยงผึ้งตามธรรมชาติ ยิ่งเป็นผึ้งโพรงที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณป่านี้ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสม เนื่องจากผึ้งได้วิวัฒนาการพฤติกรรมจนเป็นที่คุ้นเคยกับสภาพธรรมชาติในป่านี้แล้ว

ผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งบริสุทธิ์ จากกลุ่มเลี้ยงผึ้งเขาค้อม ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อจากน้ำผึ้งที่มีรสหวานบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน เพราะเป็นน้ำผึ้งที่ผึ้งได้หาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่เกิดจากผืนป่าเขาค้อมที่อุดมสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด ทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีความหอมหวานเป็นพิเศษจากเกสรดอกไม้ในป่าของภาคใต้ ถึงแม้ว่าน้ำผึ้งที่ได้จะเป็นผึ้งที่เลี้ยงในสวนยางก็จริง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้ป่ามาก ความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้ไม่จำเป็นต้องให้น้ำตาลกับผึ้งในเวลาหน้าแล้งหรือตอนที่ไม่มีเกสรดอกไม้เหมือนผึ้งเลี้ยงที่อื่นๆ นอกจากนี้ ผึ้งที่เลี้ยงเป็นผึ้งที่มาจากธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่บริเวณเขาครามนี่เอง ไม่ใช่เป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศที่นิยมเลี้ยงกันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ น้ำผึ้งที่ได้จึงเป็นเหมือนกับน้ำผึ้งที่มีคุณค่าสูงเหมือนกับผึ้งธรรมชาติ ผิดกันแค่เราไม่จำเป็นต้องไปหาผึ้งธรรมชาติในป่า แต่หาได้ในสวนใกล้บ้านเรานี่เอง

โครงการอนุรักษ์ธรรมชาติของมูลนิธิ

คุณสันต์ และ คุณวรรณี สมบูรณ์ เป็นเกษตรกรชาวสวนยาง ที่บ้านเขาค้อม จังหวัดกระบี่ มีสวนยางในความดูแล 8 ไร่ ได้ทำกล่องสำหรับเลี้ยงผึ้งไว้ในสวนยาง ประมาณ 100 กล่อง บอกเราว่า “เมื่อ ปี 2556 มีมูลนิธิออนิกซ์และโรงแรมโวค อ่าวนาง ได้มาจัด โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไทย โดยมาจัดการอบรมการเลี้ยงผึ้งโพรงตามวิถีธรรมชาติ ที่มัสยิดของหมู่บ้านเขาค้อม เป็นเวลา 2 วัน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในการเลี้ยงผึ้งโพรงตามธรรมชาติจากจังหวัดพัทลุงมาอบรมให้ มีผู้เข้ารับการอบรม ประมาณ 20 กว่าคน หลังอบรมแล้วมูลนิธิได้คัดคนที่มีความพร้อมและสมัครใจได้ 12 คน โดยมอบกล่องให้ คนละ 2 กล่อง พร้อมอุปกรณ์ทั้งชุด ไม่รวมผึ้ง ในการอบรมจะพูดถึงเรื่องวิชาการและวิธีปฏิบัติ การดูแลรักษาและการทำเสาและกล่องให้ทั้งหมด จนกระทั่งสามารถทำเองได้ ในปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 23 คน มีกำลังการผลิตเพียงปีละ 1,200 ขวด ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ”

การล่อผึ้ง ให้เข้ารัง

การเอากล่องเปล่าไปล่อให้ผึ้งเข้ามาของคุณสันต์ โดยการทาขี้ผึ้งที่ฝากล่องเปล่า แล้วนำไปวางไว้บริเวณข้างแหล่งน้ำข้างห้วย ข้างคลอง เชิงเขาชายป่า โดยไม่จำเป็นต้องดูว่ามีผึ้งอยู่หรือไม่ เพราะสำหรับคนที่ไม่ชำนาญการสำรวจว่าผึ้งมีอยู่หรือไม่เป็นเรื่องยาก ให้ดูที่ความอุดมสมบูรณ์ของป่าและแหล่งน้ำเป็นสำคัญ กล่องที่วางไว้ควรจะร่ม ไม่ควรวางไว้ในที่แดดส่อง คุณสันต์ บอกว่า จากประสบการณ์ในป่าที่คิดว่าผึ้งไม่มี ก็มีผึ้งมาเข้าในกล่องเช่นกัน ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ผึ้งมักจะแยกรัง ช่วงนี้เป็นโอกาสทองที่นักเลี้ยงผึ้งมักนำรังไปล่อผึ้ง บางครั้งเพียงวันเดียวผึ้งก็เข้ามาอยู่ในรังแล้ว แต่ถ้าเป็นนอกฤดู จะใช้เวลาเป็นสัปดาห์จึงจะมีผึ้งเข้ามาทำรัง

เมื่อได้ผึ้งรังใหม่มา ก็จะนำมาวางไว้ในสวนยาง โดยจะวางไว้ในพื้นที่ที่เหมาะสม คือเป็นสถานที่โปร่ง ร่ม ใกล้กับพื้นที่หาอาหาร ส่วนของคุณสันต์จะเพิ่มกระเบื้องมุงหลังคาอีก 1 แผ่น เพื่อกันฝน ส่วนตับจากที่วางทับไว้บนเนื่องจากต้นยางในช่วงผลัดใบ แสงแดดจะส่องลงมา ทำให้อุณหภูมิในรังร้อนเกินไป จึงจำเป็นต้องพรางไม่ให้มีแสงมากเกินไป นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีเสียงอึกทึกครึกโครม และมีแสงไฟส่องตลอดคืน อาจทำให้ผึ้งย้ายรังหนีไปได้ง่าย

การดูแลรักษาผึ้งแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากคอยดูว่าน้ำขาดหรือไม่ เพราะบางครั้งผึ้งได้อาศัยน้ำบนเสากินและเป็นการกำจัดมด ศัตรูของผึ้งได้ด้วย ถ้าสามารถนำผ้าชุบน้ำมันเครื่องเก่าคาดเอาไว้ที่เสาอีกที ก็จะเป็นการป้องกัน 2 ชั้น นอกจากนี้ ก็ควรดูเรื่องแสงไม่ให้จ้าเกินไป ในบางฤดูที่มีแสงมากก็ควรพรางแสงให้ผึ้ง เพื่อไม่ให้ในรังร้อนมาก

ในบางช่วงถ้าอาหารของผึ้งไม่สมบูรณ์ ผึ้งในรังก็จะย้ายไปอยู่ใกล้แหล่งอาหาร แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเมื่ออาหารแถบนั้นไม่สมบูรณ์ ผึ้งจะย้ายกลับมาเอง อีกพร้อมทั้งน้ำหวานที่กินมาเต็มท้อง ในส่วนของการเก็บผลผลิต ทางกลุ่มจะเก็บประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยจะค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ จนหมด วันละ 4-5 รัง โดยจะใช้ควันรมไล่ผึ้ง แล้วก็จะตัดรังผึ้งออกมา รังที่มีขนาดใหญ่สุดของคุณสันต์ได้ถึง 13 รัง ใน 1 กล่อง และมีน้ำผึ้งมากถึง 18 ขวด ในจำนวนรังทั้งหมดที่ตัดออก ควรจะเหลือไว้อย่างน้อย กล่องละ 2 รัง เพื่อให้ผึ้งสามารถอยู่ได้ในรังเก่า ในจำนวน 100 กล่อง ของคุณสันต์จะเก็บน้ำผึ้งได้ปีละประมาณ 200 กว่าขวด

วิธีการเก็บน้ำผึ้ง

เมื่อนำรังผึ้งที่ตัดได้มา ก็จะใช้มีดคมปาดรังออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้ง ถือเป็นน้ำหนึ่ง ก็จะแยกใส่ภาชนะต่างหาก ส่วนล่างที่มีขี้ผึ้งมากก็จะแยกออกไป ส่วนที่เป็นหัวรังก็จะใช้มีดคมปาดให้เป็นชิ้นเล็กๆ วางบนผ้าขาวบาง 2 ชั้น ที่มีภาชนะสเตนเลสวางไว้ด้านล่าง ปล่อยให้น้ำผึ้งหยดลงไปเองโดยไม่บีบ เนื่องจากจะทำให้น้ำผึ้งขุ่นไม่ใสสวย ใช้เวลาประมาณ 2 วัน น้ำผึ้งจึงจะหยดหมด หลังจากนั้น จะกรองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น อีก 2 ครั้ง จนได้น้ำผึ้งที่ใสไม่มีสิ่งเจือปน แล้วจึงจะนำไปเก็บไว้ในถังบรรจุ เมื่อต้องการถ่ายใส่ขวดแก้วบรรจุขาย หลังจากใส่แล้วห้ามปิดฝา เนื่องจากจะเกิดแรงดันจนฝาหลุดได้ จึงต้องทิ้งเวลาไว้ประมาณ 5 วัน จึงผนึกฝาให้สนิท ส่วนรังด้านล่างที่มีขี้ผึ้งปนมาก จะบีบใส่ผ้าขาวบางกรองเก็บไว้ต่างหาก เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ผึ้ง เช่น สบู่น้ำผึ้ง เนื่องจากน้ำผึ้งด้านล่างนี้จะมีสิ่งปลอมปนมาก หากนำไปรวมกันจะทำให้น้ำผึ้งเปรี้ยวเสียได้ง่าย ส่วนขี้ผึ้งได้นำไปเคี่ยวจนได้เป็นผลิตภัณฑ์ขี้ผึ้งอีกอย่างหนึ่ง

ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มปัจจุบันมี น้ำผึ้งบรรจุขวดแก้วอยู่ 3 ขนาด คือ ขนาด 750 มิลลิลิตร ราคาจำหน่าย ขวดละ 500 บาท ขนาดบรรจุ 500 มิลลิลิตร ราคาจำหน่าย 400 บาท ขนาดเล็กบรรจุ 150 มิลลิลิตร ราคาจำหน่าย 120 บาท และขนาดที่บรรจุในหลอดพลาสติกแบบพกพา บรรจุ 70 มิลลิลิตร ราคาจำหน่าย 60 บาท ส่วนผลิตภัณฑ์สบู่น้ำผึ้ง จำหน่ายก้อนละ 50 บาท น้ำผึ้งธรรมชาติเขาค้อมและผลิตภัณฑ์ มีวางจำหน่ายที่โรงแรมในเครือของโว้ค 20 กว่าแห่ง ในกรุงเทพฯ กระบี่ ภูเก็ต หัวหิน และจังหวัดเลย แต่ท่านที่สนใจก็ติดต่อได้ที่ คุณสันต์ เบอร์โทรศัพท์ (086) 283-2286

คุณสันต์ สมบูรณ์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “น้ำผึ้งเขาค้อม เป็นน้ำผึ้งที่ผลิตมาจากธรรมชาติจริงๆ โดยไม่มีการใช้น้ำตาลผสมให้ผึ้งกินในช่วงที่ขาดแคลนอาหารเลย เพราะเราถือว่าเราต้องการผลิตเลียนแบบธรรมชาติจริง น้ำผึ้งที่ได้จึงเป็นน้ำผึ้งที่ผลิตมาจากเกสรดอกไม้ที่มีอยู่ในป่าข้างเคียง ที่เป็นสวนเงาะ สวนทุเรียน สวนมะพร้าว และดอกไม้ในป่า ดอกโกงกางและที่สำคัญคือ น้ำหวานจากใบยางพารา เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าน้ำผึ้งเขาค้อมเป็นผึ้งบริสุทธิ์จากธรรมชาติจริงๆ”

Leave a comment