ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160325/224742.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2559
‘ไพบูลย์’ เปรย อาจมี รมต.ในรัฐบาลชุดนี้ ประเดิมขึ้น ‘ศาลทุจริต’ ปัดต่อล้อต่อเถียงปมผลสอบ ‘ราชภักดิ์’ ไม่กลัวม็อบพระล่าชื่อถอดถอน
25 มี.ค. 59 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทางรอดประเทศไทยกับบทบาทเครือข่ายต้านทุจริต” ตอนหนึ่งว่า การจะแก้ปัญหาการทุจริตได้จะต้องเริ่มแก้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาทุจริตที่ผ่านมา รัฐบาลแก้ปัญหาทุจริตโดยตั้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มีการบูรณาการทุกหน่วยงาน รวมทั้งเอกชนมาร่วมกันแก้ปัญหาการทุจริต มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการทุจริตออกมาเกือบ 10 ฉบับ รวมทั้งมีการตั้งศาลทุจริต ซึ่งตนดีใจในการที่มีการตั้งศาลทุจริต และอยากรอดูว่าใครจะเป็นคนขึ้นศาลนี้เป็นคนแรก ซึ่งคงไม่ใช่ตน แต่ไม่แน่อาจมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำทุกอย่างที่จะสร้างระบบป้องกันการทุจริตและการรับรู้ปัญหา แต่ตนก็ไม่ได้พูดว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีผลงานที่เลิศเลอ แต่เราตั้งใจทำจริงๆ
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เชื่อว่าในปีนี้ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะดีขึ้น และน่าจะได้ 50 คะแนนตามที่เราต้องการจริงๆ เพราะที่ผ่านมา เราพยายามทำทุกอย่าง แต่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนเราต่ำเพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้มีที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ในปี 2560 หากเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็มั่นใจว่าดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะอยู่ที่ 50 – 54 คะแนน ทั้งนี้ ตนจะรอดูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งว่าจะสามารถทำได้เหมือนที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ แต่ขอแค่ว่าอย่าได้คนชั่วมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน
ปัดต่อล้อต่อเถียงปมผลสอบราชภักดิ์
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ของ ป.ป.ช. ว่า ประเด็นของหน่วยงานในโครงการราชภักดิ์ไม่มีเรื่องทุจริต แต่ที่ ป.ป.ช.สอบ เนื่องจากอาจจะมองเห็นจุดอื่น อาทิ เรื่องเซียนอุ๊ที่เป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นเรื่องของข้าราชการไปรับเงินได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว และอีกเรื่องคือ ราคากลาง ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กับผู้ร้องต้องคุยกัน เพราะไม่มีบรรทัดฐานเรื่องราคากลาง ตรงนี้ก็รับฟัง อย่างไรก็ตาม ในส่วนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.นั้น ป.ป.ช.เมื่อรับเรื่องแล้ว ป.ป.ช.จะเข้าไปดำเนินการ และคุยกันเองกับ สตง. ไม่ต้องผ่านตน เพราะหน่วยงานเหล่านี้มีระบบปกติอยู่แล้ว ศอตช.ทำหน้าที่เพียงบูรณาการเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีแกนนำเสื้อแดงยังกังขาผลสอบของ สตง.อยู่ ประธาน ศอตช.กล่าวว่า ถ้ามีอะไรที่ไม่เห็นด้วยในจุดของการตรวจสอบให้เสนอมา แต่ถ้าเป็นเรื่องทัศนคติที่ไม่เห็นด้วย ตนไม่ขอไปต่อล้อต่อเถียงด้วย ไม่ไปกล่าวอะไรกับคนที่พูดในเชิงทัศนคติ เพราะเป็นวิจารณญาณของประชาชนต่อความน่าเชื่อถือต่อองค์กรที่ตรวจสอบว่ามีมากแค่ไหน
ไม่กลัวม็อบล่าชื่อถอดถอน
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีเครือข่ายพระสงฆ์เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อถอนถอดออกจากตำแหน่ง จากกรณีตรวจสอบรถเบนซ์ของ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ว่า ตนไม่เคยศึกษาว่าเรื่องดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม่ แต่ขออย่านำไปเชื่อมโยงกับคณะที่เคลื่อนไหวอยู่ อย่างไรก็ตาม จุดยืนของตนชัดเจน คือ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง นายกฯ จึงมีสิทธิ์ให้ตนอยู่หรือไม่ ต้องมองภาพรวมและให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตนไม่เคยเสนอตัวเป็นรัฐมนตรี และเคยพูดด้วยซ้ำว่า ไม่อยากเป็น แต่ นายกฯ ขอให้มาช่วยทำงาน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาต้องปรับคณะรัฐมนตรี จึงไม่ต้องเกรงใจ หากมีความจำเป็นก็ไม่ต้องคิดว่าตนจะอยู่อย่างไร พร้อมขอให้ประชาชนพิจารณาถึงการเคลื่อนไหวว่ามีจุดยืนที่เหมาะสมหรือไม่ และเชื่อว่าสังคมแยกแยะได้ว่าใครมีจุดยืนเพื่อใคร ตามสิทธิ์ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่ต้องดูว่าเหมาะสมกับหน้าที่หรือไม่ หากมองภาพรวมจะรู้ว่าใครทำเพื่อผลประโยชน์
“ผมยืนหยัดบนความถูกต้อง ไม่เคยกลัว ถ้าทำถูกต้องไม่ต้องกลัว ถ้าทำชั่วก็สมควรถูกโยก หากกลัวก็คงไม่มาดูเรื่องกฎหมาย และไม่มายืนจุดนี้ เรื่องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวผมไม่ได้เป็นคนเดินเข้าไปหา แต่เป็นคดีที่วิ่งเข้ามาหาหน่วยงานเอง ผมในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องพิจารณาความเหมาะสม ไม่สามารถปฏิเสธการทำคดีได้ ไม่ควรมีใครมีสิทธิ์เหนือผู้อื่นบนพื้นฐานสถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกัน”
เผย 3 หน่วยงานลงพื้นที่ลุยสอบข้อร้องเรียน อผศ.เรียกหัวคิวขุดแหล่งน้ำ
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีร้องเรียนองค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เรียกรับผลประโยชน์และเก็บค่าหัวคิวโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ว่า ทราบว่าสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบแล้ว เขากำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ มีการลงพื้นที่ตามต่างจังหวัดต่างๆ ขณะนี้ยังไม่จบ ซึ่งหน่วยงานปกติเขาตรวจสอบอยู่แล้ว
