ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05099151058&srcday=2015-10-15&search=no
| วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 609 |
กศน. ทั่วไทย
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
ปฏิวัติเศรษฐกิจ ด้วย “วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง” ผลงาน “กศน. สว่างวีระวงศ์” อุบลราชธานี
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสว่างวีระวงศ์ (กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์) จังหวัดอุบลราชธานี เดินหน้าสร้างโอกาสทางการศึกษาที่มีความเป็นธรรมให้กับประชากรทุกกลุ่มในพื้นที่อำเภอสว่างวีระวงศ์ มาตั้งแต่ ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และการมีงานทำ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปฏิวัติเศรษฐกิจ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ มุ่งมั่นพัฒนาคน โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษา เพื่อฝึกฝนอบรมตนเองให้ คิดเป็น ทำได้ ใฝ่เรียน ใฝ่รู้ มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและสังคม
ผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้ง ทำให้ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล รวมทั้งปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสว่างวีระวงศ์ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าวทำนา ทำสวนยางพารา ประสบปัญหาขาดแคลนรายได้ สวนทางกับภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ จึงดำเนินโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เพื่อช่วยเหลือให้ชาวบ้านในท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ
คุณอดิศักดิ์ คัมภีระ ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้คณะครู กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ สำรวจข้อมูลพื้นฐานเพื่อดำเนินกิจกรรมส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชนในชุมชน โดยจัดตั้งในลักษณะ “ศูนย์เรียนรู้บ้านสว่างออก หมู่ที่ 8” เมื่อปี พ.ศ. 2556 ในบริเวณบ้านของ ลุงแสงจันทร์ บุญแก่น บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 8 ตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี
ต่อมา กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ จัดโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ บ้านสว่างออก หมู่ที่ 8 โดย ลุงแสงจันทร์ บุญแก่น ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวกล้องหอมนิล เป็นวิทยากร โดยได้รับเกียรติจาก คุณทวีชัย ลัทธิรมย์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ เป็นประธานเปิดโครงการดังกล่าว กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายต่างๆ ในท้องถิ่น อาทิ คุณวิจารย์ สิงหาภู เทศบาลตำบลสว่าง ปลัดศักดา สมสุข คุณสมพงษ์ วงษาพรม ประธานสภาฯ คุณสำรวย ประทุมพิมพ์ เจ้าหน้าที่เกษตรจากเทศบาลตำบลสว่าง และสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี
ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ทาง กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ ได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างอาชีพชุมชน หลักสูตรแปรรูปอาหาร (การทำน้ำพริกสมุนไพร) ณ บ้านสว่างออก หมู่ที่ 8 โดย ป้าปราณี บุญแก่น เป็นวิทยากร โดยมีชาวบ้านสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กันอย่างคึกคัก
ฐานการเรียนรู้ “เกษตรพอเพียง” ณ บ้านสว่างออก หมู่ที่ 8
“ลุงแสงจันทร์ บุญแก่น” โทร. (087) 246-9640 เกษตรกรดีเด่น สาขาการทำนา ของพื้นที่อำเภอสว่างวีระวงศ์ เล่าให้ฟังว่า พื้นที่แห่งนี้ อยู่ในทำเลแหล่งปลูกยางใหม่ ของโครงการส่งเสริมปลูกยางพาราหนึ่งล้านไร่ของรัฐบาล ช่วงปี 2547/2548 เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งน้ำชลประทานที่อุดมสมบูรณ์ จึงสามารถเพาะปลูกพืชได้ตลอดทั้งปี ชาวบ้านส่วนใหญ่ เลือกประกอบอาชีพทำสวนไร่นา ปลูกพืชผัก ปลูกข้าว มันสำปะหลังและปลูกแตงโมขายเมล็ด เป็นรายได้หลักเลี้ยงครอบครัว และปลูกยางพาราเป็นรายได้เสริม
ชาวบ้านในอำเภอสว่างวีระวงศ์ นิยมผลิตยางแผ่นดิบและยางก้อนถ้วยออกขายให้แก่พ่อค้ารับซื้อยาง มีกำลังการผลิตโดยเฉลี่ย เดือนละ 2,000 ตัน ในภาวะราคายางตกต่ำ เจ้าหน้าที่ สกย. ได้เข้ามาแนะนำให้เกษตรกรชาวสวนยางหันมารวมกลุ่มกันประมูลขายยางทุกๆ วันที่ 1 และ 15 เพื่อสร้างอำนาจต่อรองราคาขายยางกับพ่อค้าที่เข้ามารับซื้อยางในท้องถิ่น ทำให้ชาวบ้านขายยางในราคาดีขึ้น ไม่ต้องถูกกดราคารับซื้อเหมือนในอดีต
หลังจากที่นี่เปิดเป็น ฐานการเรียนรู้ “เกษตรพอเพียง” เปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรพอเพียง ในด้านต่างๆ เช่น การเลี้ยงแหนแดง การเลี้ยงไส้เดือน การทำปุ๋ยหมักแห้ง การทำปุ๋ยน้ำหมัก เป็นต้น โดยคาดหวังว่า ความรู้ดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลไร่นาของตัวเอง
สำหรับผู้สนใจวิธีการทำปุ๋ยหมักแห้ง ลุงแสงจันทร์ ให้คำแนะนำว่า ควรกองปุ๋ยหมัก 1 ตัน ให้มีขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร สูง 1.5 เมตร กระจายในกระทงนา การกองปุ๋ยมี 2 วิธี ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ สำหรับวัสดุที่มีขนาดเล็กให้คลุกเคล้าวัสดุให้เข้ากันแล้ว จึงกองเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สำหรับวัสดุที่มีชิ้นส่วนยาวให้กองเป็นชั้นๆ ประมาณ 3-4 ชั้น โดยแบ่งส่วนผสมที่จะกองเป็น 3-5 ส่วน ตามจำนวนชั้นที่จะกอง
การทำปุ๋ยหมักแห้ง มีวิธีกอง ดังนี้ 1. ผสมสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 ในน้ำ 20 ลิตร นาน 10-15 นาที เพื่อกระตุ้นให้จุลินทรีย์ออกจากสภาพที่เป็นสปอร์ และพร้อมที่จะเกิดการย่อยสลาย 2. การกองชั้นแรกให้นำวัสดุที่แบ่งไว้ส่วนที่หนึ่งมากองเป็นชั้น มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร สูง 30-40 เซนติเมตร ย่ำให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม นำมูลสัตว์โรยที่ผิวหน้าเศษพืชให้ทั่ว โรยปุ๋ยไนโตรเจนทับบนชั้นของมูลสัตว์แล้ว ราดสารละลายสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 ที่ผสมน้ำไว้ให้ทั่วกอง แบ่งใส่เป็นชั้นๆ หลังจากนั้น นำเศษพืชมากองทับเพื่อทำชั้นต่อไป ปฏิบัติเหมือนการกองชั้นแรก ทำเช่นนี้อีก 2-3 ชั้น ชั้นบนสุดของการกองปุ๋ยควรปิดทับด้วยเศษพืชที่เหลืออยู่เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้น กลับกองทุกๆ 10 วัน แล้วจะนำไปใช้ตามที่ต้องการ
ส่วนการทำปุ๋ยน้ำหมัก ลุงแสงจันทร์ กล่าวว่า เตรียมเศษวัสดุหมักที่เหลือจากการบริโภคในครัวเรือน เช่น เศษอาหารจากการรับประทานทุกมื้อ เศษเปลือกผลไม้ หากไม่สามารถหาได้ในปริมาณมากในคราวเดียว ก็ให้รวบรวมใส่ถังในทุกมื้อที่มีเศษอาหาร แล้วเทกากน้ำตาลคลุกไว้ทุกครั้ง แต่หากสามารถหาเศษอาหาร วัสดุหมักได้ในคราเดียว ก็ให้ใส่ลงในถังหมัก ประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของถัง แล้วละลายกากน้ำตาล 10 ลิตร กับน้ำ 50 ลิตร และสาร พด.2 ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วเทลงในถัง ปิดถังหมักทิ้งไว้ 10-15 วัน จึงสามารถนำไปใช้งานได้ โดยฉีดพ่นในอัตรา 300 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ปฏิวัติการศึกษา ด้วย ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย
ปัจจุบัน ศูนย์เรียนรู้บ้านสว่างออก หมู่ที่ 8 แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรม “ปฏิวัติการศึกษา” ในโครงการ “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” อีกด้วย ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ศูนย์พัฒนาคุณธรรมป่าดงใหญ่วังอ้อ ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมยุวเกษตรกรไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทำบันทึกความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน 60 หมู่บ้าน ของจังหวัดอุบลราชธานี โดยมุ่งเน้นทางด้านคุณธรรมและจิตอาสาแบบบูรณาการ โดยยึดแนวทางตามบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง “พระมหาชนก” เป็นกรอบในการจัดกระบวนการเรียนรู้และฝึกอบรมกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ คือ 9 มรรควิธี ในการฟื้นฟูหมู่บ้าน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายให้เกิด “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการฟื้นฟูหมู่บ้าน ชุมชน ให้ชาวบ้านอยู่เย็น เป็นสุข มั่งคั่ง และยั่งยืน มีฐานการเรียนรู้ในบ้าน วัด โรงเรียน มีคำย่อเรียกง่ายๆ ว่า โครงการ “บวร.” (บ้าน วัด โรงเรียน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาส ปีมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ ครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ. 2558
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29, ครูจิตอาสา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 และ กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น 1. โครงการเยาวชนอาสาค้นหาความดี 2. โครงการฝึกอบรมเยาวชนอาสาพัฒนากลุ่มคนดี 3. โครงการรวมใจ ทำความดีฟื้นวิถีการให้ต่อ และ 4. โครงการรวมใจปลูกคุณธรรมในบุคคล สร้างชุมชนสวัสดิการ มาบูรณาการ พัฒนาเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ ยังได้จัด โครงการความร่วมมือ บวร. (บ้าน วัด โรงเรียน) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น พิธีบายศรีสู่ขวัญ เปิดถนนสายวัฒนธรรม ส่งเสริมให้ชาวบ้านร่วมทำบุญตักบาตร ขับเคลื่อนสิ่งที่งดงามสู่ชุมชน ฯลฯ
อนึ่ง ผู้เขียนขอขอบคุณ ท่านผู้อำนวยการ กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ “คุณอดิศักดิ์ คัมภีระ” คณะข้าราชการครู กศน. อำเภอสว่างวีระวงศ์ และคุณครูวรวรรณ ทาระธรรม ที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูลและรูปภาพ มา ณ โอกาสนี้