วันที่ 24 มี.ค.59 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า อยากถาม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ว่า การที่ท่านออกมาระบุว่าบริษัท แจส โมบาย จะต้องจ่ายส่วนต่างหาก กสทช. เปิดประมูล 4จี ใหม่และได้ราคาต่ำกว่าเดิมนั้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีกนาน และรัฐจะได้เงินส่วนต่างคืนเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้นั้น

          ท่านในฐานะมือกฎหมายของรัฐบาลช่วยตอบประชาชนผู้เป็นเจ้าของคลื่นความถี่ดังต่อไปนี้ 1.คณะกรรมการ กสทช.จะต้องร่วมรับผิดชอบต่อกรณีที่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นในการประมูลครั้งนี้ด้วยหรือไม่  2.ค่าเสียโอกาสของภาครัฐที่ต้องสูญเสียรายได้ที่พึงได้ไปใครควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ  3.การกำหนดอัตราวงเงินค้ำประกันการประมูลที่น้อยกว่าความเป็นจริงเมื่อเทียบเคียงกับมูลค่าที่แข่งกันเคาะราคาอย่างเมามันจนชนะการประมูลในราคาที่สูงลิ่ว และทิ้งคลื่นความถี่ 4จี ที่ประมูลได้ไปแบบหน้าตาเฉยเช่นนี้ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ หรือแสดงสปิริตรับผิดชอบต่อสาธารณะชนแบบลูกผู้ชาย  4.ท่านรัฐมนตรีที่กำกับดูแล กสทช.จะไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ บ้างเลยหรือ แม้กระทั่งคำขอโทษสักคำก็ไม่แสดงหรือหลุดออกมาจากปากท่านเลยหรือ  และ5.ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรัฐในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐใช่หรือไม่ หวังว่าท่านรองนายกฯจะตอบคำถามทั้ง 5 ข้อนี้ให้ประชาชนได้รับความกระจ่างด้วย

          เพราะคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ และเราก็ใช้เงินภาษีของประชาชนมาจ่ายเงินเดือนให้คณะกรรมการ กสทช.ให้มานั่งกำกับดูแลแทนพวกเราด้วยอัตราเงินเดือนที่สูงลิ่วมากกว่านักการเมืองและข้าราชการทั่วๆ ไป หวังว่าด้วยจิตสำนึกของความรับผิดชอบของคณะกรรมการ กสทช.ควรที่จะมีการแสดงความรับผิดชอบที่มากกว่าที่พวกท่านกำลังทำกันอยู่ในขณะนี้ นี่คือข้อเสนอแนะและคำแนะนำในมุมมองขอตนที่เป็นเจ้าของคลื่นความถี่ด้วยคนหนึ่ง