‘พท.’ค้านร่างรธน.ฉบับมีชัย-ข้อเสนอคสช.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160317/224269.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2559
‘พท.’ค้านร่างรธน.ฉบับมีชัย-ข้อเสนอคสช.

‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยและข้อเสนอของ คสช.

      17 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ของพรรค เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและข้อเสนอของคสช. โดยมีใจความสรุปว่า ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกต่อสาธารณชน และอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นร่างสุดท้ายหลังจากได้รับฟังข้อเสนอของภาคประชาชนและองค์กรต่างๆ โดยมีการแถลงผลสรุปของการแก้ไขปรับปรุงมาโดยตลอด จนล่าสุด คสช.ได้มีข้อเสนอเป็นหนังสือให้ กรธ.ปรับปรุงแก้ไขบทเฉพาะกาลด้วยนั้น
      พรรคเพื่อไทยได้ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.มาโดยตลอดเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาหลายประการที่จะทำให้ประชาธิปไตยของประเทศถดถอย รัฐบาลขาดเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน กระบวนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารถูกแทรกแซงจากศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ กลไกในรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการพัฒนาประเทศอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลไม่สามารถกำหนดนโยบายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนหรือนโยบายที่มีลักษณะของการช่วยเหลือดูแลประชาชนได้ มีการสร้างกลไกเพื่อมุ่งสืบทอดอำนาจของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มิได้เป็นส.ส.เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ที่มาของส.ว.ก็มาจากการสรรหาแทนที่จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขณะที่รัฐธรรมนูญก็มีการกำหนดเงื่อนไขให้แก้ไขยากมาก โดยพรรคได้เสนอข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญต่อกรธ.แล้ว แต่ข้อเสนอของพรรคก็ไม่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงแต่ประการใด ขณะที่คสช.ได้มีข้อเสนอไปยัง กรธ. ดังนี้
      1.ให้มีส.ว.จำนวน 250 คนมาจากการแต่งตั้งของคณะบุคคลเพียง 8 – 10 คน โดยคณะบุคคลที่ทำหน้าที่คัดเลือกส.ว. 8 – 10 คนไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชนแต่อย่างใดเลย ส่วนใหญ่คงเป็นคนที่คสช.คัดเลือกมา จึงอาจกล่าวได้ว่าคสช.เป็นผู้เลือกส.ว.นั่นเอง นอกจากนี้การให้ผบ.เหล่าทัพรวมถึงผบ.ตร.เป็นส.ว.ด้วยยิ่งมีปัญหา เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นข้าราชการประจำต้องทำหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาล กลับให้มาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเสียเอง และบุคคลเหล่านี้มีอำนาจคุมกำลังทั้งทหารและตำรวจ การให้มาทำหน้าที่ส.ว.จะทำให้สามารถชี้นำการทำหน้าที่ของส.ว.และชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นการขัดต่อสถานะของผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ส่วนข้อเสนอที่ให้เพิ่มอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.มีอำนาจในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ อำนาจในการขับเคลื่อนการปฏิรูป ซึ่งก็ไม่ต่างจาก คปป.ในร่างของนายบวรศักดิ์ มีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ เป็นประเด็นที่ขัดแย้งต่อหลักการประชาธิปไตยของทั่วโลก เพราะ คสช.ให้บุคคลที่มาจากการแต่งตั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้
      2. การเสนอให้มีการเลือกตั้งแบบเขตใหญ่ 3 คน แต่ให้ประชาชนเลือกผู้สมัครได้เพียงคนเดียว ข้อเสนอตรงนี้พบว่ามีปัญหามาก ซึ่งมีข้อเสียมากกว่าข้อดี การใช้เขตละคนซึ่งเคยใช้ในการเลือกตั้งทุกครั้งในระยะหลังเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เป็นระบบที่ง่าย สะดวก และเป็นธรรม พรรคมองเจตนาได้ว่าข้อเสนอดังกล่าวต้องการสกัดพรรคการเมืองใหญ่ให้มีส.ส.เขตลดลง และ 3.การขอให้ยกเว้นไม่ต้องให้พรรคการเมืองเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อในการเลือกตั้ง ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องเสนอก็ได้ เพราะร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้บังคับว่าพรรคต้องเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสมอไป จะเสนอหรือไม่เสนอก็ได้ เหตุที่คสช.เสนอดังกล่าวยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นส.ส.เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ง่ายขึ้น และประชาชนไม่สามารถทราบได้เลย
      พรรคจึงเห็นว่าข้อเสนอของคสช.ข้างต้นเป็นความต้องการของคสช.โดยตรงที่ต้องการจะควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป โดยผ่านตัวแทนที่ตนเองแต่งตั้งขึ้นโดยทางอ้อม คือส.ว.และนายกรัฐมนตรี แม้จะอ้างว่านายกรัฐมนตรีต้องผ่านการเห็นชอบของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่ด้วยกระบวนการและกลไกที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นไปได้สูงว่าจะมีปัญหาการเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน สุดท้ายก็ต้องเอาคนที่คสช.เห็นชอบ เพราะ คสช.ยังมีอำนาจในการควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินไปจนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่
      พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ปรากฏ นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีส.ว.จากการแต่งตั้งทั้งหมด มีอำนาจควบคุมรัฐบาลแล้ว ยังมีประเด็นของการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมีอำนาจเหนือรัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นการผิดหลักการประชาธิปไตยอีกด้วย ร่างรัฐธรรมนูญเช่นนี้มีความตั้งใจที่จะสืบทอดอำนาจ ต้องการจะควบคุมและมีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนของปวงชน จึงเป็นการไม่ให้ความเคารพในอำนาจของประชาชนเลยแม้แต่น้อย
      ด้วยเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา รวมถึงข้อเสนอของคสช.ที่จะเพิ่มปัญหาในร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้นข้างต้น ประกอบกับการที่ กกต.ได้เสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดความผิดและโทษของฝ่ายที่รณรงค์ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง ขณะที่มีการใช้กลไกของรัฐเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเป็นไปอย่างกว้างขวาง พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่ากระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงกระบวนการลงประชามติ มิได้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยด้วยความสุจริต โปร่งใส และชอบธรรมแต่อย่างใด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนของพรรคว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับของกรธ.และข้อเสนอของคสช.ดังกล่าวข้างต้น

Leave a comment