วันที่ 21 มี.ค.59 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมนำข้อเสนอแนะต่อการปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญในส่วนบทเฉพาะกาลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาพิจารณา ว่า ข้อเสนอดังกล่าวถือว่าเป็นข้อเสนอแนะของเครือข่ายแม่น้ำ 4 สาย คือ คสช., คณะรัฐมนตรี (ครม.),  สนช. และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่เฉพาะของ คสช. ซึ่งตนเชื่อว่ากรธ.จะนำเนื้อหามาพิจารณาเพราะสิ่งที่เครือข่ายได้นำเสนอได้คำนึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ วันที่ 22 พ.ค.?57 ที่พบว่า ส.ว.ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วงดังกล่าวไม่สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้และพบว่าส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากการสรรหานั้นมีความขัดแย้งกัน ดังนั้นสิ่งที่เป็นข้อเสนอเพื่อต้องการไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีตและวางบทบาทให้ส.ว.สรรหาเป็นสภาที่ทำหน้าที่ห้ามล้อ หรือเบรก รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการพิจารณาของ กรธ. จะออกแบบอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับ กรธ. พิจารณา

          ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ กรธ.เตรียมเขียนที่มาของ ส.ว.สรรหา จะกำหนดให้เป็นอำนาจของนายกฯ คนปัจจุบัน นายพรเพชร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ในการประชุมของแม่น้ำ 4  สายไม่เคยหารือเรื่องดังกล่าวหรือส่งเสปคใดๆ เพราะต้องการให้เกียรติกับ กรธ.แต่สิ่งที่สอบถามนั้นคงเป็นการได้ยินผู้ที่ไปเสนอ กรธ. ตนยืนยันว่าไม่เคยหารือไปถึงประเด็นดังกล่าว คงมีเพียงว่าการสรรหานั้นต้องสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิที่เหมาะสม ซึ่งตามหลักการปกติต้องให้นายกฯหรือ คสช.มีบทบาทในการสรรหาดังกล่าวด้วย ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ระบุว่าต้องการให้ ส.ว.สรรหามาจากผู้มีความรู้ 6 กลุ่มถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ที่มองตามองค์ประกอบที่ทหารมอง ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และโดยเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญต้องบัญญัติไว้ด้วย เป็นหลักการกว้างๆ ขณะที่รายละเอียดต้องนำไปเขียนไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

          ผู้สื่อข่าวถามถึง ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนต่อประเด็นการกำหนดให้ผู้นำเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าดำรงตำแหน่ง ส.ว.สรรหา ที่เสียงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยใกล้เคียงกัน นายพรเพชร กล่าวว่า เหตุผลสำคัญคือในบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.ไม่ได้ให้สิทธิข้าราชการประจำเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ และเมื่อพิจารณาเหตุการณ์ในอดีตที่เมื่อเกิดปัญหาสิ่งที่ทุกคนเรียกร้องคือให้กองทัพเข้าไปปฏิวัติซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นการประชุม 4 ฝ่ายจึงเห็นว่าหากให้ผู้นำเหล่าทัพ ที่เป็นผู้นำการปฏิวัติเข้ามาทำหน้าที่ เพื่อให้รับฟังความเห็นจะดีกว่า ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวมีเพียงเท่านั้น และให้ กรธ. นำไปพิจารณา