มีอะไรใน5ปีที่คสช.ขอเวลา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160318/224318.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2559
มีอะไรใน5ปีที่คสช.ขอเวลา

มีอะไรใน5ปีที่คสช.ขอเวลา : ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน

              ถึงแม้ว่า คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือกรธ.จะยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “ข้อเสนอ” ของ คสช.ให้มีบทเฉพาะกาล สรรหาวุฒิสภาจำนวน 250 คนเอาไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังทำการแก้ไขครั้งสุดท้ายหรือไม่ แต่คำถามก็คือ คสช.ต้องการอะไร อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ถึงได้ขอเวลาให้วุฒิสภาที่มาจากการสรรหานี้อยู่นานถึง 5 ปี

หากมองย้อนไป ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศนานนับสิบปี มีการเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะระบบราชการ ตำรวจ ทหาร องค์กรอิสระ

แม้กระทั่ง ศาลยุติธรรม ที่ไม่เคยมีเรื่องราวไม่ดีไม่งามปรากฏต่อสาธารณะ แต่ก็กลับมีเรื่องที่ว่าเมื่ออดีตนายตำรวจยศพันตำรวจเอกถูกศาลสั่งจำคุก โดยไม่รอลงอาญา 2 ปี เพราะไปเสนอสินบนให้ศาล

การที่ คสช.ทำหนังสือข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ไปยัง “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ได้มีการหารือจาก 4 ฝ่าย คือ หัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า ครม. ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)

แหล่งข่าวจาก คสช.เปิดเผยถึงเบื้องหลังข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สาย ว่า ข้อเสนอของ คสช.ที่ออกมาอย่างนั้น ก็เพราะระบบและโครงสร้างประเทศไทยไม่เปิดทางให้มีการแก้ไขภายในระยะเวลาสั้นๆ บางอย่างต้องแก้กฎหมาย บางอย่างต้องรอระยะเวลา ถึงแม้หัวหน้า คสช.จะมีอำนาจพิเศษ แต่การใช้อำนาจบ่อยเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

โดยเฉพาะช่วงของการ “เปลี่ยนผ่าน” ของบ้านเมือง การใช้อำนาจพิเศษอาจไม่ช่วยให้บ้านเมืองเกิดความสงบ สามัคคี แต่อาจทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น

นั่นคือที่มาของคำสั่งให้ฝ่ายกฎหมายของ คสช.ไปทำข้อเสนอไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

แต่ระยะเวลา 5 ปี ที่ คสช.ขออยู่ดูแลประเทศไทยนั้น มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะของตำรวจดูเหมือนการวางตัว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้นนับเป็นสัญญาณอ่อนๆ แล้ว เนื่องจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีอายุราชการยาวไปถึงปี 2563 มากพอที่จะทำให้ “สีแดง” เลือนหายไปจาก “สีกากี”

ส่วนกองทัพไม่ต้องพูดถึง เอกภาพของเหล่าทัพทุกเหล่าในวันนี้จะส่งผ่านไปยังรุ่นน้องๆ ที่กำลังเติบโตก้าวขึ้นตามไลน์ที่ได้มีการวางเอาไว้อย่างมั่นคง และเป็นกำแพงเหล็กป้องกัน “ส.ว.สรรหา” ได้อย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชการหน่วยงานอื่นๆ ก็จะค่อยๆ ถูกกลืนเข้าไปตามกรอบที่ คสช.มอบหมายให้สภาปฏิรูปแห่งชาติได้วางเอาไว้ เพียงแต่ในระดับหัวแถวนั้น ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงนับแต่ที่ คสช.ก้าวเข้ามาบริหารประเทศแล้ว

ทั้งนี้ เวลา 5 ปี มากพอที่จะเปลี่ยนปลัดกระทรวงได้อย่างน้อย 3 คน ถ้าเป็นกระทรวงมหาดไทยที่ใกล้ชิดประชาชนก็เปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดได้ครบ 77 จังหวัดกันเลยทีเดียว

เป้าหมายใหญ่ที่ คสช.มุ่งหมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกกลุ่มก็คือ “นักการเมือง” ที่เคยเป็นตัวการสร้างความแตกแยก แต่ในบทเฉพาะกาลที่มีอายุ 5 ปี ตามข้อเสนอของ คสช.ไม่ได้ร้องขอเอาไว้ แต่ในตัวร่างรัฐธรรมนูญหลัก ได้กำหนดคุณสมบัตินักการเมืองไว้มากพออยู่แล้วว่า นักการเมืองสายพันธุ์ก่อนหน้าที่จะมีการยึดอำนาจ หากยังไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรม นอกจากจะไม่มีที่ยืนแล้วยังอาจจะต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ในสถานกักกัน จะมาหาเสียงพูดจาตามอำเภอใจ เพื่อเอาคะแนน แล้วเข้าไปทำเรื่องราวจนสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองอย่างที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว

“ความผิด” อาจจะเกิดตั้งแต่หลุดปากพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือน่าจะสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมืองเสียด้วยซ้ำไป

นั่นคือสาเหตุสำคัญที่ คสช.ต้องการให้ ส.ว.สรรหา อยู่นานถึง 5 ปี เพราะ ส.ว.สรรหา จะเป็นหลักประกันให้รัฐธรรมนูญที่กรรมการยกร่างกำลังแก้ไขตามข้อเสนอแนะอยู่นี้ ไม่ถูกยกเลิกหรือถูกแก้ไขได้ง่ายๆ

อย่างน้อยๆ ก็จนกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งชุดที่ 2 หลังรัฐธรรมนูญบังคับใช้จะเข้ามาประกาศแนวนโยบายแห่งรัฐจะไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้อยู่ เพราะส่วนหนึ่งที่ คสช.กังวลก็คือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่มักจะถูกรื้อ ยกเลิก ชะลอ โดยรัฐบาลใหม่ จนทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปอย่างล่าช้า หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มทั้งที่ไม่ควรจะมี

เรื่องสำคัญที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอให้ คสช.แก้ไข และให้ สนช.พิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผ่านร่างกฎหมายก็คือเรื่องการปฏิรูปสงฆ์และกิจการของวัดที่ถูกปล่อยปละละเลยกันมานาน จนเกิดการบิดเบือนพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก ส่งผลให้สังคมแตกแยก ซึ่งการแก้ปัญหานี้จำเป็นต้องใช้เวลา

ทั้งหมดนี้…คือเหตุผลที่ต้องขอเวลา 5 ปี ที่แหล่งข่าวจาก คสช.ยืนยันว่ามีเจตนาเช่นนั้น!

Leave a comment