ยุติธรรมเน็ตเวิร์ก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160322/224510.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 22 มีนาคม 2559
ยุติธรรมเน็ตเวิร์ก

ยุติธรรมเน็ตเวิร์ก : ขยายปมร้อน โดยศรุติ ศรุตา

             บนความสูญเสียจากกรณีต่างๆ นอกจากความเศร้าโศกเสียใจแล้ว ช่วงนี้ น่าฉกฉวยให้เป็นโอกาสของความเบ่งบานของ “ความยุติธรรม” ที่ผู้คนในสังคมพุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

เป็นทิศทางที่ไม่อนุญาตให้ “ความจริง” ถูกบิดเบือน ไม่อนุญาตให้ “ความยุติธรรม” มีได้เฉพาะแค่คนบางกลุ่ม

ไม่ว่าจะเป็นกรณีเบนซ์เล่นบทซิ่งทะลุฟอร์ดจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ไม่ว่าจะเป็นกรณีดีเจวัยรุ่นถอยรถกระบะชนคู่กรณีแล้วทำดราม่าสวนกับความจริงที่ปรากฏต่อผู้คนบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก

แม้กระทั่งกรณี “เด็กสาว” ที่ขับรถเก๋งซีวิคเสยท้ายรถตู้สาธารณะจนมีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ เมื่อหลายปีก่อน

พลังของโลกโซเชียลนั้น กำลังเปลี่ยนความคิดของคนที่พยายามบิดเบือนความจริง และปรับให้สังคมเดินไปตามครรลองที่มันควรจะเป็น

ถึงแม้จะมีผู้ที่พยายามจะท้าทาย หรือพยายามจะบรรเทาความผิดพลาดของตนด้วยการบอกว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ตั้งใจ หรือบอกว่า มันเป็นอุบัติเหตุ แต่โซเชียลเน็ตเวิร์กก็ทำลายเหตุผลที่ไม่ได้เกิดจากสำนึกทางสังคมเหล่านั้น

คดีดีเจวัยรุ่นนั้น คลี่คลายลงไปแล้ว เมื่อศาลได้มีคำพิพากษา

คดีเบนซ์ชนฟอร์ด ก็เชื่อว่า ไม่นานศาลก็คงได้มอบความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วนคดีเด็กสาวซีวิคนี่สิ แม้ศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่า จะยังไม่จบ

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกแต่เพียงว่า ต้องไปดูข้อมูลหลักฐานว่า จำเลยในคดีปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือไม่

ส่วน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ บอกว่า การไปทำประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น จะต้องได้รับความเห็นชอบกันทั้งสองฝ่าย คือทั้งฝ่ายจำเลย และฝ่ายเจ้าพนักงานคุมประพฤติ

แต่เท่าที่กรมคุมประพฤติได้รับรายงานมาก็คือ จำเลยไปบริจาคเลือด ซึ่งถือว่าได้ทำงานเพื่อสังคมไปแล้ว 6 ชั่วโมง ซึ่งก็ยังไม่ครบตามที่ศาลมีคำพิพากษา

ปัญหาก็คือ มีหนังสือรับรองจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าไปว่า “เด็กสาวซีวิค” ได้ทำงานบริการสังคมเกือบครบแล้ว และกำหนดคุมประพฤติก็เลย 3 ปีมาแล้ว

ขั้นตอนจะทำกันอย่างไร จะไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ไหน เป็นเรื่องของกรมคุมประพฤติกับจำเลย ที่จะต้องว่ากันต่อไป

แต่ประเด็นก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบก

จะชี้แจงได้หรือไม่ว่า “เด็กสาวซีวิค” ได้มาทำงานบริการสังคมที่โรงพยาบาลแล้วจริงๆ

เรื่องนี้ ทางทีมงานโฆษกกองทัพบก บอกว่า ให้สอบถามไปยังโรงพยาบาลได้เลย และเมื่อนักข่าวสอบถามไปก็ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลว่า “เด็กสาวซีวิค” ได้มาทำงานที่โรงพยาบาลจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลจริง

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นข้อยุติในการตรวจสอบ ในเมื่ออธิบดีกรมคุมประพฤติบอกว่า ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าจำเลยจะไปทำงานบริการสังคมที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และได้ตั้งกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติไปแล้ว

แม้จะเชื่อว่า ในยุค คสช.เรื่องอย่างนี้คงจะไม่เงียบหายไปเป็นแน่ เพราะเป็นโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบก

แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะค้นหาความจริง เพราะ พล.อ.ไพบูลย์ ทีี่กำกับดูแลกรมคุมประพฤติ ก็เติบโตมาจากกองทัพบก และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าแห่งนี้ ก็เป็นที่ภาคภูมิใจของกองทัพบก ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่เพียงเจ้าหน้าที่ทหารที่ไปรับบริการ ประชาชนทั่วไปก็ไปด้วย เพราะบุคลากรที่นี่มีคุณภาพ

ถึงแม้จะเชื่อมั่นในความดี ความมีคุณภาพ แต่ก็ยังอยากรอดูว่า พลังของโซเชียลเน็ตเวิร์กจะเป็นอย่างไร!

Leave a comment