25 มี.ค. 2559 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเสนอให้ตัดถ้อยคำในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ออกเสียงประชามติที่ระบุว่าการกระทำที่เสียหายใดๆไม่ว่าจะทางแพ่งหรืออาญา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไม่ต้องรับผิดชอบว่า ตนไม่ได้บอกให้ไปตัด แต่ว่าให้ดูใน 3 ประเด็นเป็นพิเศษเท่านั้นคือ

       1.ในเรื่องการใช้เครื่องนับคะแนนที่มีอยู่เพียงสิบกว่าเครื่องทั้งประเทศ หากนำไปใช้อาจขัดข้อง

       2.ที่บอกว่าต้องจัดงบประมาณให้เพียงพอ เห็นว่าเขียนแบบนี้มันมากไป กฎหมายเขาไม่เขียนกันแบบนี้

       และ 3.เรื่องความไม่รับผิดที่บอกว่า กกต.และเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา เพราะตามปกติเขาไม่เขียนกฎหมายแบบนี้ หากสุจริตก็ปลอดภัย ซึ่ง กกต.ก็จัดการเลือกตั้งมาหลายครั้ง แต่เพียงแค่การทำประชามติ กกต.คิดว่าอาจจจะเกิดความผิดพลาดจนกระทั่งต้องออกกฎหมายเหล่านี้มาป้องกัน

       เมื่อถามว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 กกต.ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยไหม นายวิษณุ กล่าวว่า หากผิดจริงก็ต้องรับผิด

       เมื่อถามอีกว่า มติที่ออกมาว่าให้ กปปส.และรัฐบาลสมัยนั้นต้องชดใช้ค่าเสียหาย หาก กปปส.และรัฐบาลในอดีตไม่ทำตาม สามารถไปฟ้องร้องได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการฟ้องร้องกัน โดย กกต.เองก็ยังไม่เดินเรื่อง แต่หากคิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ไปฟ้องกับองค์กรอิสระหรือศาลได้ว่าไม่ใช่ความผิดของเขา

       นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏฺิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 3 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มอบการบ้านให้คณะกรรมการขับเคลื่อนทั้ง 6 คณะทำคือต้องการให้เสนอผลงานทุกๆ 1 เดือน ซึ่งก่อนเดือนพ.ค. นี้จะต้องเสนอแผนปฏิรูปทั้ง 6 ด้าน ให้นายกฯรับทราบ ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆ ได้เสนอผลงานเข้ามาบ้างแล้ว โดยคสช.ได้รวบรวมว่ามีกฎหมายที่ออกมาแล้วอยู่ที่ในใจของกระทรวงที่กำลังฝันอยู่ประมาณ 300 ฉบับ ซึ่งบางเรื่องไม่สามารถขับเคลื่อนได้ เราจึงได้แต่รับทราบและมีบางส่วนอยู่ในขั้นตอนให้กฤษฎีกาตรวจสอบ ส่วนแผนปฏิรูปในระยะระหว่างขณะนี้จนถึงสิ้นสุดวาระสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือที่เรียกว่าโรดแมประยะที่ 2 ซึ่งมีกฎหมายที่เตรียมเข้าสู่สภา ที่อยู่ในกฤษฎีกาและกระทรวง เราแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1.กฎหมายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ 2.กฎหมายเกี่ยวกับพันธกรณีระหว่างประเทศ 3.กฎหมายที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ประเทศ และ4.กฎหมายที่เกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยกฎหมายทั้ง 4 กลุ่มเราจะขับเคลื่อนในเชิงปฏิรูป ซึ่งจะผลักดันเข้าสู่สนช.ก่อนหมดวาระ โดยเราพยายามจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนสิ้นปีนี้ เพราะให้เวลาสนช.พิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งกฎหมายทั้ง 4 กลุ่มมีประมาณ 30 ฉบับ แต่ไม่มีพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งความจริงอาจจะเพิ่มเข้าใจได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มี โดยกฎหมายเหล่านี้จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการทำงาน เพราะกำหนดไว้แล้วว่ากฎหมายฉบับจะเข้าสู่สนช.เดือนใดบ้าง

       ทั้งนี้นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีกฎหมายที่เข้าสู่สนช.แล้ว เช่น กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างและบริหารงานพัสดุ ซึ่งจะนำมาใช้แทนระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างในประเทศไทย กฎหมายเกี่ยวกับพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ โดยจะยกเลิกพ.ร.บ.งบประมาณที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2502 พ.ร.บ.วินัยทางการเงินการคลังภาครัฐ ประมวลกฎหมายยาเสพติด กฎหมายกลุ่มดิจิตอลทั้งหมด รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวกบพ.ร.บ.สัตว์ป่า และพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า