หันมาเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เสริมรายได้ชาวสวนยาง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160121/220899.html

เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2559
หันมาเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เสริมรายได้ชาวสวนยาง

ทำมาหากิน : หันมาเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เสริมรายได้ชาวสวนยาง : โดย…สุวรรณี บัณฑิศักดิ์

                      วิกฤติราคายางพาราตกต่ำ ยังเป็นปัญหาหลักสำหรับเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใต้ แต่หลายครอบครัวก็พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว อย่างสามีภรรยาเกษตรกรชาวสวนยาง ลุงลิขิต บุญมาก อายุ 63 ปี และป้าวิญญา บุญมาก อายุ 62 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา บ้านควนพระ หมู่ 2 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เลี้ยงเพาะขยายพันธุ์จิ้งหรีดขายได้ราคางามจนสามารถปลดหนี้ ธ.ก.ส. หนี้กองทุนหมู่บ้านและหนี้เงินล้าน ได้โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากสวนยางพารา แถมยังมีเงินเหลือส่วนหนึ่งเก็บสะสมไว้ใช้ยามจำเป็นอีกด้วย
                      โดยได้เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์จิ้งหรีดขาวและจิ้งหรีดดำในปล่องซีเมนต์ ขายให้กลุ่มนักตกปลาและกลุ่มผู้เลี้ยงนก มีรายได้ประมาณวันละ 500 บาท สร้างกำไรงาม สามารถนำเงินรายได้มาปลดหนี้สิน ธ.ก.ส. หนี้กองทุนหมู่บ้านและหนี้เงินล้าน ที่ทั้งคู่ต้องปลดหนี้กว่าปีละ 80,000 บาท โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากสวนยางพารา
                      ลุงลิขิต บอกว่า ตนมีอาชีพเป็นเกษตรกรชาวสวนยางตั้งแต่บรรพบุรุษเมื่อรายได้จากยางพาราตกต่ำ ไม่พอเลี้ยงครอบครัวจึงยกรายได้จากการขายยางพาราให้ลูกสาว จากนั้นหันมาขายน้ำชากาแฟในช่วงเช้า ต่อมามีญาติแนะนำให้ทดลองเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดขาย จึงทดลองเพาะขยายพันธุ์จากปล่องซีเมนต์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 เซนติเมตรจำนวน 2 บ่อ จนมีความชำนาญจึงเพิ่มปริมาณการเลี้ยงขึ้นในปล่องขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 120 เซนติเมตร โดยทำมา 2 ปีจนปัจจุบันนี้มีจำนวนถึง 14 ปล่อง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการเพาะจิ้งหรีดขายได้วันละ 300-400 บาท บางวันขายได้สูงถึงวันละ 800 บาท
                      นอกจากนั้นยังมีเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่งไว้ใช้ยามฉุกเฉินอีกด้วยเนื่องจากทั้งคู่อายุมากแล้ว ทั้งนี้หากจะเปรียบเทียบรายได้จากการขายผลผลิตยางพาราในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการประกอบอาชีพเสริมด้วยการเพาะจิ้งหรีดขายมีรายได้ดีกว่าการทำสวนยางพารา ซึ่งตลาดยังมีความต้องการอีกมาก เนื่องจากเป็นที่นิยมของกลุ่มนักตกปลาและกลุ่มผู้เลี้ยงนก
                      “เกษตรกรรายใดต้องการนำไปเพาะขยายพันธุ์ขาย ตนก็มีไข่จิ้งหรีดขายในราคากระบะละ 300 บาท และสามารถเพาะขายได้ถึง 2,500 บาทต่อ 1 ปล่อง โดยใช้เวลา 45 วัน นอกจากนั้นมูลของจิ้งหรีดยังกวาดเก็บมาเป็นปุ๋ยขายในราคา กก.ละ 30 บาทอีกด้วย”
                      ลุงลิขิต ยอมรับว่า สำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีดนั้นง่ายมาก ขนาดตัวเล็กก็จะให้กินอาหารที่ใช้เลี้ยงหมู ใบมัน มะละกอสุก และผลไม้เกือบทุกชนิด แต่การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดเกษตรกรจะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงวิธีการเลี้ยงและให้น้ำจิ้งหรีดกินที่เหมาะสม มิฉะนั้นจิ้งหรีดตายทำให้ขาดทุนได้
                      ด้านกุศล บุญกล่อม ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาบ้านนาเดิมกล่าวถึงลุงลิขิต บุญมาก และป้าวิญญา บุญมาก เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.มานานและเป็นลูกค้าชั้นดี ธ.ก.ส.จะให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุนในการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดเพิ่ม แต่ทั้ง 2 คนปฏิเสธโดยบอกว่าตอนนี้รายได้ดีพอสามารถเลี้ยงครอบครัวและส่งเงินกู้ได้อย่างไม่ขัดสนไม่ต้องกู้เพิ่ม
                      “สำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีดสร้างรายได้เสริมนั้น ยังขาดการสนับสนุนจากภาคราชการอย่างจริงจัง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นทางเลือกทางหนึ่งของเกษตรกรชาวสวนที่จะประกอบอาชีพเสริม พร้อมร้องขอเกษตรกรชาวสวนอย่าเพิ่งสิ้นหวังกับสวนยางพารา ให้หันมามองหาการทำอาชีพเสริมแบบภูมิปัญญานำมาทดลอง เช่น การเลี้ยงไก่ชน หรืออื่นๆ ที่สามารถเสริมรายได้มาจุนเจือครอบครัวในยุคราคายางพาราตกต่ำ” ผู้จัดการธ.ก.ส.คนเดิมกล่าวย้ำ
                      การเลี้ยงจิ้งหรีดนับเป็นทางเลือกอีกอาชีพที่สร้างรายได้เสริมให้แก่ชาวสวนยางในห้วงเวลาที่ราคายางกำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้
———————–
(ทำมาหากิน : หันมาเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เสริมรายได้ชาวสวนยาง : โดย…สุวรรณี บัณฑิศักดิ์)

Leave a comment