14 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.45 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ทำจดหมายเขียนด้วยลายมือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอพักการลงโทษให้ผู้ต้องโทษรายหนึ่ง เป็นการกระทำที่เข้าข่ายฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรืออำนาจหน้าที่ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ตามมาตรา 123 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมายราชทัณฑ์อำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพักการลงโทษให้ผู้ต้องโทษนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของนายวิษณุ จึงมีความชัดเจนเมื่อเทียบกับกรณีการทำจดหมายน้อยของนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล อดีตประธานศาลปกครองสูงสุดด้วย ส่วนกรณีที่นายวิษณุ ชี้แจงว่าเป็นการขอให้ทำตามระเบียบที่ให้นักโทษซึ่งรับโทษเกินกึ่งหนึ่งแล้ว สามารถรับการผ่อนผันโทษได้นั้น แม้จะมีระเบียบดังกล่าวอยู่จริง แต่กรณีของนายวิษณุ เหมือนเป็นการขอให้พักการลงโทษเลยไม่ใช่ผ่อนผันโทษ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้อง

      ทั้งนี้อยากให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบโดยเร็ว เพราะเชื่อว่ามีข้อมูลข้อเท็จจริงเพียงพอ และตนยังได้แนบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในกรณีที่ใกล้เคียงมาด้วย 2 เรื่อง ในการกระทำการให้นักโทษที่อยู่ระหว่างคุมขังหลุดพ้นจากการคุมขังโดยมิชอบ และอยากเรียกร้องให้นายวิษณุเข้ามาชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ช.อย่างเป็นทางการ ในฐานะนักการเมืองก็ควรจะต้องถูกตรวจสอบจากสาธารณะได้

      นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ขอให้ป.ป.ช. ตรวจสอบจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีด้วยว่า ได้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 หรือไม่ และถ้าหากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ควรพิจารณาว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการในลักษณะปล่อยปะละเลยหรือไม่อย่างไร