นับเป็นประสบการณ์แห่งความเศร้าสลด กับโศกนาฏกรรมที่เอสซีบีปาร์ค สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ผลาญคร่าชีวิตคนงาน ช่างประจำอาคาร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปมากถึง 8 ศพ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตกตะลึงให้แก่สังคมไทยในวงกว้าง ไม่เพียงเพราะชวนสังเวชหดหู่ใจเท่านั้น หากแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการดับเพลิงที่เป็นต้นเหตุก็เป็นอุปกรณ์ป้องกันภัยรูปแบบใหม่ ที่ถูกนำมาใช้กับอาคารต่างๆ ที่ต้องการความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ เมื่อเป็นของใหม่ ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ทุกฝ่ายที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีหน้าที่กับระบบใหม่นี้ ได้เรียนรู้ หรือว่าได้รับการแจ้งเตือน ไปจนถึงการฝึกฝนเพื่อเอาตัวรอดกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่ อย่างไร

โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากการก่อสร้างต่อเติมปรับปรุงห้องมั่นคงของอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ระหว่างการทำงานได้เกิดประกายไฟหรือมีฝุ่นละอองเกิดขึ้นมากพอที่จะทำให้ระบบดับเพลิงอัตโนมัติทำงานพ่นสารไพโรเจนออกมากำจัดออกซิเจน จนเป็นเหตุให้ผู้อยู่ในบริเวณนั้นได้รับอันตรายถึงเสียชีวิต และบาดเจ็บอีกหลายราย เมื่อข้อมูลนี้เผยแพร่สู่สาธารณชนในช่วงเช้ามืดหลังวันเกิดเหตุ หลายฝ่ายจึงให้ความสนใจกับระบบดับเพลิงแบบใหม่นี้ว่า ได้รับการติดตั้งไว้ในอาคารประเภทไหนบ้าง ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบและออกคำเตือนหรือให้ความรู้แก่ผู้ที่จะต้องเข้าไปทำงานที่เกี่ยวข้องกับระบบใหม่นี้มากน้อยเพียงใด นอกเหนือไปจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจว่า เกิดจากความผิดพลาดในส่วนใด และใครบ้างที่ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบ

ประเด็นที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาคนผิดและผู้รับผิดชอบแล้ว กรณีนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์ความรู้ตลอดกระบวนการที่มีนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในหลายๆ กรณีที่สังคมของไทยรับเอาเทคโนโลยีใหม่เข้ามา บางครั้งก็เป็นปัญหาถึงขั้นเป็นอันตรายได้ เพราะการใช้เทคโนโลยีใดๆ นั้น ย่อมต้องควบคู่ไปกับความรู้เท่าทัน เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า คนไทยมักใช้สินค้าโดยไม่อ่านคู่มือให้เข้าใจกระจ่าง ทั้งเพื่อประโยชน์สูงสุดของสินค้านั้น และเพื่อความปลอดภัยจากอันตรายที่อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือใช้เครื่องอำนวยความสะดวกนั้นอย่างผิดๆ

โศกนาฏกรรมที่เอสซีบี ปาร์ค เป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งทุกฝ่ายควรจะถือเป็นบทเรียนเพื่อนำไปสู่แนวทางการป้องกัน ไม่เพียงเฉพาะแต่กรณีเหตุเพลิงไหม้เท่านั้น หากแต่หมายถึงการเข้าถึงองค์ความรู้ของเทคโนโลยีอย่างเท่าทันด้วย กระนั้นก็ตาม การสืบสวนสอบสวนในทางคดีก็จะต้องเร่งสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้นโดยด่วนที่สุด เพราะจะเป็นต้นธารนำไปสู่แนวทางการป้องกัน สำคัญที่สุดก็คือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเจ้าของสถานที่ ผู้รับเหมาติดตั้งระบบและบริษัทรับช่วงจะต้องให้ความกระจ่างในทุกแง่มุม อันจะนำไปสู่มาตรการป้องกันอย่างรัดกุมมากที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทั้งในด้านการป้องกันเหตุร้าย และกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกัน เหมือนเช่นที่นักประดิษฐ์คิดค้นก๊าซโพโรเจนขึ้นมาดับไฟได้ ผู้ใช้ก็ต้องตระหนักด้วยว่า ในอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นโทษมหันต์ถึงชีวิตได้ในเวลาเดียวกัน