ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20151111/216688.html
พัฒนา“คน”ทุกระดับเสียงสะท้อนคน“เขตพื้นที่ฯ”ถึง“บิ๊กตู่” : กมลทิพย์ ใบเงินรายงาน มนุษย์พันธุ์38ค(2)ภาพ
“ใครที่ไม่ได้ฟังผมวันนี้ ใครที่ฟังก็ไปบอกเขาด้วย บางครั้งผมเห็นครูบางคน สถานศึกษาบางแห่ง บอกไม่รู้เรื่อง ดีแต่สั่งการลงไป นี่เขาทำให้หมดแล้ว เพียงแต่ท่านต้องขวนขวายบ้าง เขตการศึกษาท่านต้องมารับผิดชอบด้วย ไม่อย่างนั้นเขตการศึกษาก็เหมือนเดิม ท่านต้องปรับปรุงวิธีการทำงานของท่าน ผมไม่ได้ตำหนิท่านว่าไม่ได้ทำงาน แต่ท่านต้องทำให้ตรงกับนโยบายของเรา”
ถ้อยความจากปาก “บิ๊กตู่“ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อหัวค่ำวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา สื่อสารถึงผู้นำหน่วยงานการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
นับเป็นครั้งแรกที่ “บิ๊กตู่” ประธานซูเปอร์บอร์ดการศึกษา ทะลุทะลวงไปถึง “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)” ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย “สพท.” เป็นหน่วยขับเคลื่อนนโยบายจากส่วนกลางสู่พื้นที่ภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม ส่งต่อกระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน มีโรงเรียน ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง องค์คณะบุคคลทางการศึกษาเป็นองคาพยพขับเคลื่อน
“ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี 100% และอยากจะสนับสนุนความคิดของนายกฯ ในฐานะประธานซูเปอร์บอร์ดการศึกษา ที่สั่งเดินหน้าการปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.ควบคู่ไปกับการปฏิรูปเนื้อหาหลักสูตรด้วย ความจริง สพท.ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 เป็นนวัตกรรมท้องถิ่นด้านการศึกษา ที่มีบทบัญญัติถึงวิธีการปฏิบัติที่หลากหลาย แต่มีจุดมุ่งหมายไปสู่เอกภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ในการปฏิบัติจริงและการปฏิรูปการศึกษาหลายๆ รอบที่ผ่านมา สพท.ในฐานะหน่วยปฏิบัติพัฒนาการศึกษาก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น
เมื่อครั้งที่สภาการศึกษาทำวิจัย สพท.เมื่อปี 2556 ผลปรากฏว่า ไม่มีสพท.ผ่านการประเมินในระดับดีมากเลยสักเขต มีเพียงเขตระดับดีอยู่ 16 เขต ระดับพอใช้ 155 เขต นอกนั้นคืออะไร? นี่คือผลสะท้อนถึงความเข้มแข็งของ สพท.ที่ซูเปอร์บอร์ดการศึกษาต้องใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.ด้วย” นายชาญ คำภิระแปง ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 2 (สพป.เชียงใหม่เขต 2) ผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาสายบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38ค(2) หรือมนุษย์พันธุ์ 38ค(2) ใน ก.ค.ศ., ประธานสมัชชาบุคลากรทางการศึกษา, นายกสมาคมนักวางแผนการศึกษาไทย ระบุุ
ไม่เพียงเท่านั้น นายชาญ ยังต้องข้อสังเกต สพท.มีหน้าที่ต้องไปทำหน้าที่ให้โรงเรียนเข้มแข็ง ทำให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคล แต่ข้อเท็จจริงสพท.อยู่ในสภาพอ่อนปวกเปียก ไม่เข้มแข็ง การปฏิรูป สพท.จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เมื่อนายกฯ มีคำสั่งให้ปฏิรูปโครงสร้าง ศธ. ปรากฏว่ากลุ่มอำนาจเก่าออกมาตีปี๊บ โชว์กึ๋น โชว์ข้อเสนอ พิมพ์เขียวหลายอย่างๆ กระทั่งข้อเสนอย้อนรอยกลับไปสู่โครงสร้างศึกษาธิการจังหวัด และศึกษาธิการอำเภอ เหมือนเดิม
“ผมถามว่า ในอดีตก็เป็นเช่นนี้แล้ว คุณภาพการศึกษาดีหรือไม่? ทุกคนก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจดี แล้วทำไมต้องมีการปฏิรูป ยุบรวมโครงสร้างมาเป็นปัจจุบัน ดังนั้น ข้อเสนอของผมก็คือ ให้คงความเป็น 5 แท่งไว้เหมือนเดิม ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) แต่ให้บริหารงานในรูปแบบของ “คณะกรรมการ” หรือบอร์ดศธ. เชื่อมการทำงาน 5 แท่ง ทำหน้าที่คอยกำกับดูแลและรับผิดชอบ ส่วนในระดับจังหวัดให้มีสภาการศึกษารับนโยบายไปปฏิบัติ รับผิดชอบตามโครงสร้างตามระบบซิงเกิล คอมมานด์ (คำสั่งเดียว) จากส่วนกลางถึง สพท. ด้านวิชาการก็ให้เป็นหน้าที่ของกรมวิชาการ อย่างนี้ความเป็นเอกภาพถึงจะเกิด”
เหนืออื่นใด นายกสมาคมนักวางแผนการศึกษาไทย ชี้ว่า ที่สำคัญระบบบริหารงานบุคคลต้องมีการพัฒนา มิใช่เป็นแบบปัจจุบัน ที่ข้างบนรักษาอำนาจ ข้างล่างก็กินเลือดกินเนื้อครู ต้องมีมาตรการคัดกรองเพื่อสกัดกั้นผู้บริหารการศึกษาประเภทจี้ตาไม่กะพริบ ได้ตำแหน่งมาเพราะการวิ่งเต้น หากการแก้ปัญหาคนในแวดวงการศึกษาไม่ได้ ก็เห็นด้วยและสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารการศึกษา
