ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160229/223283.html
เปิดรั้ว’แม่โจ้’ชี้นำความจริงภาคเกษตรไทยแห่งอนาคต : ดลมนัส กาเจ
หากย้อนไปเมื่อ 68 ปีก่อน งาน “วันเกษตรแห่งชาติ” เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2491 โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ขณะนั้น) จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “ตลาดนัดเกษตรกลางบางเขน” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรไปสู่ประชาชน และเน้นให้บุคคลในอาชีพอื่นได้เห็นความสำคัญของอาชีพการเกษตรว่าเป็นอาชีพที่ช่วยเสริมสร้างชาติไทยให้อยู่รอด ต่อมาสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รื้อฟื้นและยกระดับเป็นงาน “งานเกษตรแห่งชาติ” ในปี 2505
หลังจากปี 2510 กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำหนดจัดงานวันเกษตรแห่งชาติเป็นประจำทุกปี จนถึงปี 2528 คณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันเกษตรแห่งชาติ ได้มีมติให้กระจายการจัดงานวันเกษตรแห่งชาติไปยังมหาวิทยาลัยในภาคต่างๆ ที่มีคณะเกษตรตั้งอยู่ สลับกับส่วนกลางที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปีเว้นปีโดยมีกระทรวงเกษตรฯ ยังเป็นแม่งานหลัก กระทั่งปี 2548 จึงให้มีการหมุนเวียนการจัดงานไปยังมหาวิทยาลัยที่มีคณะเกษตรทั้ง 4 ภาคเริ่มตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา และปีนี้ (2559) มาครบบรรจบถึงคิวของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “คนไทยใจเกษตร” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-วันที่ 6 มีนาคม
การจัดงานเกษตรแห่งชาติ 59 นายโอภาส กลั่นบุศย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ ผศ.พาวิน มะโนชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและเครือข่าย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อนหน้านี้ว่า วัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2559 รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและเทคโนโลยีด้านการเกษตร การเผยแพร่ และถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยี โดยเน้นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ให้ปี 2559 ซึ่งเป็นปีแห่งการลดต้นทุน และเกษตรอินทรีย์ โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ 22 หน่วยงานร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขยายตัวของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเกษตร และให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของอาชีพเกษตรกรรมในฐานะผู้ผลิตอาหารและเป็นครัวของโลกในอนาคต
สอดคล้องแนวคิดของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งผศ.พาวิน กล่าวระหว่างนำสื่อมวลชนไปดูความพร้อมในการเตรียมงานว่า งานวันเกษตรแห่งชาติ 59 เป็นงานยิ่งใหญ่ที่รวบรวมองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรในทุกรูปแบบและทุกมิติมาเผยแพร่ต่อเกษตรกรและประชาชน ซึ่งทางแม่โจ้ใช้พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ในบริเวณมหาวิทยาลัย เนรมิตให้เป็นศูนย์กลางการเกษตรทางเลือกที่ครบวงจร เน้นให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ กลไกการตลาด และกระแสความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีจุดแข็งที่ดำเนินการมานานแล้ว อาทิ พืชที่เหมาะกับความแห้งแล้ง และตลาดต้องการ เป็นต้น
“แม่โจ้เราเป็นสถานการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรมายาวนานถึง 82 ปีแล้ว ทำให้เรามีจุดแข็งด้านการเกษตรระดับแนวหน้าของประเทศหรือระดับโลกก็ว่าได้ ฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานวันเกษตรแห่งชาติร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ เราถือโอกาสนี้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการการเกษตร การประมง ที่มีการเลี้ยงสัตว์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นการเลี้ยงปลาด้วยแสงอาทิตย์ มีการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ที่ตลาดต้องการ อาทิ ปลาบึกสยามแม่โจ้ รวมถึงปศุสัตว์ สมัยใหม่ที่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน อย่างเกษตรอินทรีย์ การลดต้นทุนการผลิตเราทำมานานและสอนเด็กอยู่แล้ว ฉะนั้นมาชมงานนี้จะได้ความรู้นำไปใช้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะในโซนของมหัศจรรย์พืชมีกิจกรรมหลากหลายมาก” ผศ.พาวิน กล่าว
ด้าน อ.ปรีชา รัตนัง นักวิชาการชำนาญการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ดูแลในส่วนของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นส่วนของมหัศจรรย์พืช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ทำเกษตรอินทรีย์มานานแล้ว ที่ผ่านมามีการผลิตเมล็ดพืชผักอินทรีย์สู่ท้องตลาด แต่เกษตรกรบางรายอาจข้องใจว่าเมล็ดพันธุ์ผลิตมาจากไหน จึงเปิดโอกาสให้ผู้สนใจแปลงเกษตรอินทรีย์ให้มาชมกัน และเมื่อเข้ามาแล้ว จะได้เรียนรู้ถึงการทำเกษตรอินทรีย์ด้วย และจะได้สัมผัสและเห็นกับตาถึงพันธุ์พืชใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อย่าง ถั่วแขกสีม่วง “สิรินธร 1” ถัวฟักยาวลายเสือจักรพันธ์ เป็นต้น
“ในช่วงที่จัดงานวันเกษตรแห่งชาติปี 59 เรามีพืชผักหลากหลาย มีบริษัทเมล็ดพันธุ์ชื่อดังหลายค่าย มาร่วมจัดแสดงพันธุ์พืชและเทคโนโลยีการดูแลรักษา จะมีแปลงสาธิตด้านการผลิตผัก การฝึกอบรมระยะสั้นหลายหลักสูตร และไฮไลท์สำคัญที่เราจัดเตรียมไว้เพื่อทุกท่าน คือชมตัวอย่างการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ทุกขั้นตอนกระบวนการด้วย” อ.ปรีชา กล่าว
นับเป็นมิติใหม่ของงาน “วันเกษตรแห่งชาติ” ที่ได้เน้นกิจกรรมที่เป็นการเกษตรยุคใหม่ หรือเกษตรทางเลือกที่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันในแทบทุกมิติ หากสนใจสามารถไปชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
สวิตเซอร์แลนด์แห่งแม่โจ้สำนักฟาร์มฯ
สำหรับงานวันเกษตรแห่งชาติ 59 ซึ่งจัดที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ในครั้งนี้ นอกจากจะมีกิจกรรมการจัดนิทรรศการแปลงสาธิตด้านการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตร การประกวดไม้ดอก ไม้ประดับ การจัดประชุมเสวนาวิชาการ การแสดงผลงานงานวิจัย นวัตกรรมด้านการเกษตร กิจกรรมแปลงสาธิตด้านพืช ปศุสัตว์แล้ว ผู้ที่เข้าไปชมงานตื่นตาตื่นใจลานไม้ดอกหลากหลายชนิดบานสะพรั่งตระการตารอรับผู้มาเยือนราวกับดินแดนแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ในพื้นที่ 907 ไร่ ของสำนักฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ห่างจากตัวมหาวิทยาลัยแม่โจ้ทางทิศตะวันออกราว 6 กม.
อ.แสงเดือน อินชนบท นักวิชาการเกษตร สำนักฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ บอกว่า พื้นที่ทั้ง 907 ไร่ ใช้จัดกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ การผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอินทรีย์ทั้งไม้ผล พืชผัก การเพาะเห็ด มีพืชผักหลายชนิด มีโรงเลี้ยงไส้เดือนกำจัดขยะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โรงงานผลิตปุ๋ยชีวภาพตามโรงเรือนเปิดดอกเห็ดหลินจืออินทรีย์ แปลงสมุนไพรอินทรีย์ กาดหมั้วครัวฮอม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์อีกด้วย
“ผู้ที่จะมาชม เรามีการจัดสรรพื้นที่และกิจกรรมให้ท่านที่มาท่องเที่ยวได้ชม แชะ ชิม ช็อป กันอย่างครบครัน โดยจะมีจักรยานมาคอยบริการให้ท่านปั่นท่องเที่ยวในทุกส่วนของสำนักฟาร์ม ได้ตลอดระยะเวลา 9 วันของการจัดงาน” อ.แสงเดือน กล่าว
