แปลงขยะเกษตรสู่ ‘แก๊สชีวภาพ’ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160216/222501.html

เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559
แปลงขยะเกษตรสู่ 'แก๊สชีวภาพ' ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน

ทำมาหากิน : แปลงขยะเกษตรสู่ ‘แก๊สชีวภาพ’ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน : โดย…ทีมข่าวเกษตร

                      ทีมนักวิจัย มทร.ศรีวิชัย นำของเสียจากสัตว์เลี้ยงและวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมารีไซเคิลของเสียผลิตแก๊สชีวภาพ (biogas)  ใช้งานได้จริงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแหล่งพลังงานในอนาคตที่คาดว่าจะนำมาแทนพลังงานที่มีในธรรมชาติ
                      อ.นพดล โพชกำเหนิด อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา และทีมงานผู้คิดไอเดียในการนำของเสียจากการเลี้ยงสัตว์และจากการเกษตรไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยการนำมาผลิตแก๊สชีวภาพสำหรับใช้ในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเกษตรเพื่อเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือนและการประกอบธุรกิจ นอกจากนั้นยังสามารถลดปัญหาการปล่อยของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ชุมชนและผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นการสร้างนวัตกรรมแก๊สชีวภาพจากวัสดุต้นทุนต่ำ
                      “วัสดุหลักที่ใช้ในการเก็บวัตถุดิบเพื่อให้เกิดการย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะไร้อากาศนั้นจะใช้ถุงพลาสติกชนิดโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำมาเป็นอุปกรณ์สำหรับกักเก็บมูลขนาด 7-8 ลูกบาศก์เมตร เพื่อทำการหมักให้ได้แก๊สมีเทนจำนวนวันละประมาณ 2-3 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้เพียงพอต่อการหุงต้มแทนแก๊สได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ถัง รวมทั้งยังได้กากที่ผ่านการย่อยสลายแล้วมาใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยอินทรีย์อีกด้วย”
                      นักวิจัยคนเดิมเผยต่อว่า การสร้างและใช้งานบ่อหมักแก๊สชีวภาพนั้นจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้รับรู้ถึงประโยชน์และการดูแลรักษาให้ถูกวิธี โดยเริ่มจากการอบรมให้ความรู้พื้นฐานแก๊สชีวภาพและสาธิตขั้นตอนการสร้างบ่อหมักรวมไปถึงการให้ความรู้พื้นฐานการนำมูลสัตว์ที่ได้จากการย่อยสลายในบ่อหมักไปใช้ประโยชน์อบรมการประกอบถุงหมักพลาสติกชนิดแอลดีพีอี โดยเริ่มจากการนำถุงพลาสติกชนิดแอลดีพีอี หนา 0.25 มม. กว้าง 2.75 เมตร ยาว 6 เมตร มาแผ่บนพื้นเพื่อติดชุดส่งแก๊สจากตัวถุง จากนั้นพับขอบของถุงเป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วตัดปลายที่พับเป็นรูปสามเหลี่ยมให้มีขนาดความกว้างเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 1 ซม. หลังจากนั้นติดชุดส่งแก๊สโดยให้ต่อตรงพีวีซีเกลียวในขนาด ¾ นิ้ว อยู่ด้านในถุง และเกลียวนอกพีอีขนาด ¾ นิ้ว อยู่นอกถุง ทำการหมุนต่อตรงพีวีซีและเกลียวนอกให้แน่น
                      หลังจากต่อกับสายส่งแก๊สพีอีขนาด 25 มม. ความยาวประมาณ 1 เมตรและปิดปลายท่อด้วยถุงพลาสติก ผูกท่อพีวีซีขนาด 4 นิ้ว ที่ปลายทั้งสองของถุงแอลดีพีอี แล้วรัดด้วยยางในรถจักรยานยนต์เก่าโดยให้ท่อพีวีซีเข้าไปในถุงประมาณ 2 ใน 3 ส่วน ทำการเติมลมเข้าไปในถุงโดยใช้ไอเสียจากรถยนต์โดยการสอดปลายท่อพีวีซีเข้าที่ปลายท่อไอเสียส่วนปลายท่อพีวีซีอีกฝั่งหนึ่งให้ปิดด้วยถุงพลาสติกเพื่อป้องกันลมออกเป่าลมจนกระทั่งถุงพองตัวเต็มที่และตรวจสอบการรั่วของถุง นำถุงหมักแอลดีพีอีลงหลุม จัดวางตำแหน่งของชุดส่งแก๊สให้เหมาะสม
                      อ.นพดล อธิบายอีกว่า จากนั้นเติมเข้าไปในถุงประมาณ 1,500-2,000 ลิตร ใช้วงบ่อเป็นช่องเติมมูลและบ่อล้น ที่ปลายท่อพีวีซีทั้งสองด้านโดยตำแหน่งของช่องเติมมูลจะต้องสูงกว่าบ่อล้นเทปูนลงในวงบ่อเพื่อป้องกันการรั่วซึมของมูลและกากใช้ไม้ขัดบริเวณปลายท่อพีวีซีเพื่อให้ปลายท่อเกิดการเคลื่อนที่ไปมาระหว่างการเติมมูล จากนั้นประกอบชุดปรับแรงดันและดักน้ำทำการประกอบชุดปรับแรงดันกับปลายสายส่งแก๊สเติมน้ำให้ท่วมปลายท่อพีวีซีีที่อยู่ในขวดน้ำเพื่อป้องกันการรั่วของแก๊สที่อยู่ในถุงหมักและต่อสายส่งแก๊สไปยังจุดที่จะใช้แก๊ส เติมมูลสัตว์ลงไปประมาณ 2,000 กิโลกรัม โดยผสมกับน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 สัปดาห์จะมีแก๊สที่สามารถจุดติดไฟได้ และหลังจากเริ่มใช้แก๊สแล้วให้เติมมูลโคสดผสมน้ำ วันละประมาณ 1 ปี๊บก็จะมีแก๊สที่สามารถใช้งานได้จริงไว้ใช้ในครัวเรือนได้อย่างยาวนาน
                      จากผลการดำเนินการโครงการนวัตกรรมแก๊สชีวภาพทั้งสิ้นกว่า 100 บ่อ ร่วมกับภาคี และชุมชนต่างๆ ให้สามารถสร้างนวัตกรรมแก๊สชีวภาพได้ โดยในทางเศรษฐกิจสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้แก๊สหุงต้ม อย่างน้อยประมาณ 28,400 บาทต่อเดือน หรือเท่ากับประมาณ 340,800 บาทต่อปีและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมีจากการใช้กากที่ผ่านการย่อยสลายแล้วมาใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยอินทรีย์
                      นอกจากนี้ยังทำให้สิ่งแวดล้อม ทำให้ชุมชนอยู่ดีมีสุขมีความเอื้อเฟื้อและช่วยเหลือซึ่งกันและกันและช่วยลดมลภาวะจากกลิ่นเหม็น รวมทั้งแมลงที่บินไปสร้างความรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่ในชุมชน และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรและของเสียในชุมชนได้ดีเยี่ยมทำให้ชุมชนและผู้ประกอบมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองและมีความยั่งยืน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อ.นพดล โพชกำเหนิด โทร.08-6689-0920
————————-
(ทำมาหากิน : แปลงขยะเกษตรสู่ ‘แก๊สชีวภาพ’ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน : โดย…ทีมข่าวเกษตร)

Leave a comment