ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/596049
โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 26 มี.ค. 2559 05:01

ผู้อ่านหลายท่านถามผมบ่อยครั้งจนเป็นคำถามยอดฮิตคำถามหนึ่งว่า “ถ้าติดต่อพูดคุยหรือเจรจางานธุรกิจกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชนในเวียดนามควรทำอย่างไรดี?” เนื่องจากปัจจุบันเวียดนามเนื้อหอมมากและมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะเมื่อเวียดนามเข้าเป็นสมาชิก WTO และ TPP ตลอดจนการกำลังเซ็นสัญญา FTA ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติรวมถึงนักลงทุนไทยยิ่งเพิ่มความสนใจในเวียดนาม
ก่อนจะเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนาม เราควรรอบรู้ธรรมเนียมปฏิบัติและเทคนิคในการติดต่อธุรกิจกับชาวเวียดนาม เพราะนั่นเป็นปราการด่านแรกที่จะช่วยให้การติดต่อหรือเจรจาต่อรองทางธุรกิจ เพื่อให้ “เรา” รู้จักและคุ้นเคย “เขา” มากขึ้น ตามวลีอมตะของซุนวูที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะทั้งร้อยครั้ง”
ในการติดต่อธุรกิจครั้งแรกกับชาวเวียดนามควรติดต่อผ่านคนกลาง (Third Party) ซึ่งหากคนกลางนั้นเป็นบุคคลที่คู่เจรจาชาวเวียดนามให้ความเชื่อถือและรู้จักเป็นอย่างดีแล้ว ก็จะยิ่งทำให้การติดต่อธุรกิจหรือสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถหาคนกลางในลักษณะที่ต้องการได้ ก็อาจใช้วิธีส่งจดหมายหรือเอกสารแนะนำตัว รวมถึงกำหนดนัดหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุถึงวัตถุประสงค์ของการติดต่อธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา
ชาวเวียดนามโดยทั่วไปเป็นคนตรงเวลาและคาดหวังว่าคู่เจรจาจะตรงเวลาด้วย เมื่อได้พบกันควรทักทายด้วยการจับมือ (หากเป็นเพศเดียวกัน) พร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อแสดงถึงมิตรภาพที่จริงใจ หรือโค้งศีรษะลงเล็กน้อย (หากต่างเพศกัน) พร้อมกล่าวคำทักทายสวัสดีเป็นภาษาเวียดนามว่า “ชิน-จ่าว” จะทำให้คู่เจรจาชาวเวียดนามเกิดความประทับใจ ทั้งนี้ หากเป็นการพบกันครั้งแรกควรมีการแลกนามบัตรกันโดยใช้มือทั้ง 2 ข้างยื่นนามบัตร หลังจากได้รับนามบัตรมาแล้ว ไม่ควรเก็บใส่กระเป๋าทันที แต่ควรพยายามอ่านออกเสียงคำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล และตำแหน่งในนามบัตร เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่เพื่อให้ได้ใจคู่เจรจาชาวเวียดนามเต็มร้อยครับ.
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ