ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/597615
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 29 มี.ค. 2559 05:30

นายเอกรินทร์ ชยุติ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชตะนะ อ่าว จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ “ไทยทาวน์” (THAITOWN) ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งสัญชาติไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิด “ไทยทาวน์” (THAITOWN) ศูนย์ค้าปลีก-ค้าส่ง หรือดิสทริบิวชั่นเซ็นเตอร์ สินค้าไทยและสินค้าจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ที่ย่านเศรษฐกิจ ถนน THUNA ในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด มีลูกค้าชาวเมียนมาให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเป็นกลุ่มค้าส่ง 80% ค้าปลีก 20% ทั้งที่ยังเปิดให้บริการแค่ 2 ชั้น คือ ชั้น 1 ขายสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ชั้น 2 ขายเครื่องสำอาง จากที่มีอยู่ 5 ชั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทุกชั้น คือ ชั้น 3 เป็นคลินิกความงาม ชั้น 4 เป็นอีเวนต์-ออแกไนเซอร์ และชั้น 5 เป็นธุรกิจขายตรง ในเดือน ก.ย.59 นี้แน่นอน
“ที่ไทยทาวน์ประสบความสำเร็จในการทำตลาดที่ประเทศเมียนมา ทั้งที่เปิดให้บริการไม่ถึง 1 เดือน เพราะสินค้าไทยถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาก คนเมียนมารู้จักสินค้าไทย-สินค้าจากประเทศต่างๆในเอเชียเป็นอย่างดี ไทยทาวน์ถือเป็น Asia one-stop service ที่มีสินค้าครบ ปัจจุบันแบรนด์ไทยที่ขายอยู่ในไทยทาวน์ มีมโนห์รา, ชาวเกาะ, โดนัท, มายแฮร์, Glow Mori, โซสกินส์ เป็นต้น และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก ปีแรกตั้งเป้าทำรายได้แตะ 500 ล้านบาท ปี 2560 แตะ 1,000 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ที่นำร่องเปิด “ไทยทาวน์” ในเมียนมา เพราะขนาดของตลาดใหญ่มีจำนวนประชากรหนาแน่น และเพิ่งเปิดประเทศ ซึ่งมีแผนเปิดอีก 10 หัวเมืองใหญ่ในเมียนมาด้วย อาทิ มัณฑะเลย์, ตองยี, ปะเต็ง, ซิตตุ่ย เมืองเอกของรัฐยะไข่, ทวาย, เมก, เกาะสอง, บาโก, เมเมียว และมะละแหม่ง ภายใน 5-10 ปี จากนั้นจะขยายเข้าไปเปิดในประเทศต่างๆในอาเซียน.