ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ในรายงานเศรษฐกิจและการเงินล่าสุดเดือน ก.พ.59 ระบุว่า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน โดยมีจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ลดลง 18.9% เพราะการเร่งเปิดตัวโครงการไปมากในช่วงปลายปี 58 ประชาชนมีหนี้ครัวเรือนสูง และสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจซบเซา ขณะที่อุปสงค์ หรือความต้องการซื้อ ขยายตัวเล็กน้อยจากผลของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ สะท้อนจากจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อใหม่จากธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารชุด

ขณะที่ในรายงานนโยบายการเงินประจำเดือน มี.ค.59 ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสาขาอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในช่วงปลายปี 58 ช่วยเร่งการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาอุปทาน หรือปริมาณที่อยู่อาศัยคงค้างได้บางส่วน แต่ยังมีปริมาณที่อยู่อาศัยคงค้างในระดับสูง ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า และการลงทุนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ล่าช้า อาจทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยลดลงมาก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปริมาณอสังหาริมทรัพย์คงค้างที่อยู่ในระดับสูง จะไม่กระทบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มากนัก เพราะมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในช่วงปลายปี 58 ทำให้มีจำนวนที่อยู่อาศัยได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.58 มากขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ จึงช่วยลดความเสี่ยงอุปทานคงค้างได้ในระดับหนึ่ง.