ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/573618
โดย หมอดื้อ 7 ก.พ. 2559 05:01

สมองขวาและซ้าย ถูกกำหนดบทบาทตามความเชื่อ เหมือนขวาสตรีสุนทรีย์ ซ้ายบุรุษ แต่ความจริงไม่ถึงกับตรงไปตรงมาขนาดนั้นศาสตร์ทางสมองเกี่ยวกับเรื่อง พุทธิปัญญา (cognitive neuroscience) เริ่มจะเบ่งบานเป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าที่ติดตามมาน่าจะประมาณ ปี 2008 โดยดูว่าหน้าที่แต่ละอย่างถูกควบคุมจากสมองตำแหน่งใดและมีการประสานกันกับส่วนอื่นอย่างไร บทความนี้ช่วยกันแปลและเรียบเรียงจากนิตยสาร Scientific American 2009 กับคุณหมอรพีพรรณ รัตนวงศ์นรา ซึ่งน่าจะง่ายที่สุดและเป็นพื้นในเรื่องที่จะตามต่อๆมา
การแบ่งงานของสมองเป็นซีกซ้ายและซีกขวา เคยถูกคิดว่าเป็นคุณสมบัติจำเพาะของมนุษย์ มีความแตกต่างกันในหน้าที่ ทั้งด้านการพูด การใช้มือขวา การจดจำหน้าตา และกระบวนการคิดเรื่อง ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ด้านตำแหน่งและขนาด…
อย่างไรก็ตาม สมองสองซีกกำเนิดมาตั้งแต่สัตว์มีกระดูกสันหลังขั้นต้น ซึ่งเกิดขึ้นมากว่าห้าร้อยล้านปีก่อน สมองซีกซ้ายจะเน้นในด้านการควบคุมพฤติกรรมที่มีแบบแผนการทำงานที่สร้างมาอย่างดี ในขณะที่สมองซีกขวาเชี่ยวชาญในการค้นพบและตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นที่ไม่คาดหมายในคน ทั้งการพูดและการใช้มือขวา อาจมีพัฒนาการมาจากความเชี่ยวชาญในการ ควบคุมพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ส่วนการจดจำหน้าตาและการคิดเรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ด้านตำแหน่งและขนาด อาจจะเป็นคุณสมบัติที่ตกทอดมา ที่จำเป็นสำหรับการรับรู้อันตรายได้อย่างรวดเร็วในการหลบหลีก ตอบโต้
สมองซีกซ้ายของมนุษย์ยังควบคุมภาษา คุณสมบัติทางความคิดที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ สมองซีกขวาเด่นในด้านการควบคุมความรู้สึกว่าสิ่งของต่างๆสัมพันธ์กันอย่างไร เชื่อกันว่าการใช้มือขวาและความเชี่ยวชาญของสมองด้านเดียวในการคิดความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ด้านตำแหน่งและขนาดนี้ ความเชื่อในลักษณะชี้บ่งว่าเกิดในมนุษย์เท่านั้น เข้าได้กับความคิดเรื่องวิวัฒนาการที่การใช้มือข้างขวามีตั้งแต่ที่บรรพบุรุษของเรา สร้างเครื่องมือประมาณ 2.5 ล้านปีก่อน และเป็นพื้นฐานของการใช้มือด้วย เป็นไปได้ว่า สมองซีกซ้าย เพียงเติมภาษาสัญลักษณ์ให้กับแบบแผนของการกระทำต่างๆ แล้วแปลงออกมาเป็นภาษาที่ใช้อยู่
หรืออาจเป็นได้ว่าความสามารถของสมองซีกซ้ายที่ควบคุมการกระทำ ได้เพิ่มเติมหน้าที่ในการควบคุมการออกเสียงด้วย ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม การพูดและภาษาได้วิวัฒนาการมาจากความสามารถในการผลิต เครื่องมือนั่นเอง
ข้อคัดค้านของการเกิดสมองทั้งสองซีกที่มีหน้าที่จำเพาะในมนุษย์ว่าน่าจะมีจุดเริ่มจากมนุษย์เอง อยู่ที่ความจำเพาะของสมองสองด้านนั้นมีในสัตว์มีกระดูกสันหลังกว่า 500 ร้อยล้านปีก่อน สอดคล้องกับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน ที่ว่าคุณสมบัติต่างๆของสิ่งมีชีวิตรุ่นหลังเกิดจากความเปลี่ยนแปลง ความสามารถในการปรับตัว โดยสมองซีกซ้ายสำคัญในการควบคุมพฤติกรรม ที่เป็นแบบแผนภายใต้ภาวะที่คุ้นเคย ส่วนสมองซีกขวาเป็นส่วนหลักของการกระตุ้นทางอารมณ์เพื่อตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นที่ไม่คาดหมายในสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นต้น การแบ่งอาจเริ่มจากแนวโน้มที่จะคุมสถานการณ์ต่างๆ เริ่มจากสมองซีกขวามีหน้าที่ควบคุมสิ่งที่อาจเป็นอันตราย ที่เรียกว่าการตอบสนองแบบฉับพลัน อย่างเช่น การตอบสนองต่อผู้ล่าแล้วส่งไปยังสมองซีกซ้าย
โดยสรุปก็คือ ส่วนสมองซีกซ้ายจะควบคุมพฤติกรรมที่เป็นการตอบสนองของความกระตุ้นภายในตนเองซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ที่เรียกว่าการควบคุมจากบนลงล่าง ส่วนสมองซีกขวาจะ ควบคุมพฤติกรรมที่เป็นการตอบสนองต่อการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม หรือเรียกว่าการควบคุมจากล่างขึ้นบน กระบวนการที่ต้องการความชำนาญได้แก่ ภาษา การใช้มือขวา การคิดความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ด้านตำแหน่งและขนาด และการจดจำหน้าตา เป็นลักษณะที่เกิดจากพื้นฐานนี้
หลักฐานส่วนใหญ่ที่สนับสนุนนั้นเกิดจากการศึกษาการควบคุมด้านใด ด้านหนึ่งของร่างกายมากกว่าที่จะศึกษาโดยตรงกับสมอง เนื่องจากในระบบประสาท ของสัตว์มีกระดูกสันหลังนี้ มีการเชื่อมโยงของระบบสมองกับร่างกายด้านตรงข้าม ผ่านทางเส้นใยประสาท หลักฐานในส่วนแรกของทฤษฎีที่ว่า สมองซีกซ้ายของสัตว์มีกระดูกสันหลัง มีหน้าที่ด้านการควบคุมพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำจากแรงกระตุ้นภายใน
จากตัวอย่างง่ายๆ เช่น การหาอาหารในปลา สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ ครึ่งบกครึ่งน้ำ มีแนวโน้มที่จะตะครุบเหยื่อทางด้านขวา โดยใช้ตาขวาและการควบคุมของสมองซีกซ้าย ในสัตว์ปีกก็เช่นเดียวกัน ตาขวาเป็นตัวหลักในการจิกอาหารและจับเหยื่อ การที่มีความจำเพาะของสมองนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคภายนอกด้วย ตัวอย่างเช่น จงอยปากของนกหัวโต พันธุ์นิวซีแลนด์ (New Zealand wry-billed plover) จะโค้งด้านขวามากกว่า เนื่องจากใช้ตาขวามองหาอาหารที่อยู่ระหว่างแก่งหิน
สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปลาวาฬหลังโหนก มีการศึกษาใน Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำการศึกษาในปลาวาฬ 75 ตัว พบว่า พวกมันมีแผลถลอกเฉพาะบริเวณเขี้ยวด้านขวา ขณะที่เพียง 15 ตัวเท่านั้นที่มีแผลด้านซ้าย การพบนี้เป็นหลักฐานว่า ปลาวาฬเลือกที่จะใช้เขี้ยวด้านเดียว ที่จะหาอาหารจากทางด้านเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นด้านขวา โดยสรุปแล้ว สัตว์มีกระดูกสันหลังเท่านั้นมีแนวโน้มที่จะใช้ลักษณะที่ได้รับถ่ายทอดจากบรรพบุรุษในการใช้ด้านขวาที่ทำพฤติกรรมประจำ อย่างเช่น การหาอาหาร
ข้อโต้แย้งว่าการใช้มือขวาไม่ได้เกิดจากวิวัฒนาการ แต่มีพัฒนาการมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชั้นสูงโดยตรง พบได้ในลิงหลายชนิด ได้แก่ ลิงบาบูน ลิงเซบัส และลิงรีซัส เช่นเดียวกับลิงเอป และลิงชิมแปนซี เรื่องความถนัดขวา โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทั้งสองมือประสานกัน และการเอื้อมไปเอาอาหารที่สูงกว่าระดับที่ยืน ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ทดลองวางอาหารโปรดของลิงเอป คือน้ำผึ้ง ไว้ในหลอดพลาสติกแล้วส่งให้ เพื่อที่จะได้น้ำผึ้งมันจะต้องจับหลอดพลาสติกด้วยมือข้างหนึ่ง และ ขูดเอาน้ำผึ้งด้วยนิ้วเดียวของมืออีกข้าง ลิงเอปนิยมใช้นิ้วของมือขวาในการขูดน้ำผึ้งมากกว่าถึงสองเท่า
การศึกษานี้ได้ข้อสังเกตว่า ในขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชั้นสูงในยุคแรกๆ ทำงานที่ยากขึ้น และใช้ทักษะสูงมากขึ้นในการหาอาหาร เรื่องการใช้มือที่ถนัดก็จะปรากฏขึ้น ชัดเจนขึ้นด้วย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า การทำงานที่ซับซ้อนนั้นจำเป็นต้องส่งระบบสัญญาณควบคุมจากสมอง และผ่านไปยังมือที่ใช้ที่คล่องมากกว่า
ดังนั้นเส้นทางตรงที่สุดของสมองซีกซ้ายส่งผ่านมาทางร่างกายทางระบบใยประสาทส่วนปลาย ก็จะทำให้มือขวามีแนวโน้มที่จะถูกใช้ในงานชั้นสูงกว่า แม้ว่าจะเป็นงานประจำก็ตาม.
หมอดื้อ

