นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เดินทางไปฮ่องกงระหว่างวันที่ 5-7 เม.ย.2559 โดยได้เข้าหารือกับ รมว.การค้าและพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง เพื่อหารือแนวทางการขยายตลาดข้าวและสินค้าอื่นๆ ของไทยในฮ่องกง การสนับสนุนการลงทุนของเอสเอ็มอีไทยในฮ่องกง และการหารือถึงความคืบหน้าการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-ฮ่องกง ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องการผลักดันให้การเจรจาเสร็จภายในปีนี้

ทั้งนี้ ไทยได้ยืนยันกับทางฮ่องกงว่าขอให้เชื่อมั่นในคุณภาพของข้าวไทย ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานข้าวที่ดีต่อไป และไทยกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงมาตรฐานข้าวหอมมะลิ โดยจะมีเพียงมาตรฐานเดียวที่ 92% คือมีข้าวหอมมะลิ 92% และมีข้าวอื่นผสมไม่เกิน 8% และจะมีมาตรฐานข้าวหอมชนิดอื่นออกมาด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อ

“ในการเดินทางไปครั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง ได้มีการหารือทำแผนตลาดและการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในฮ่องกงด้วย ซึ่งนอกเหนือจากข้าวหอมมะลิที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ได้มีการผลักดันข้าวที่มีคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวอินทรีย์ เข้าสู่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น”

ในการเดินทางไปครั้งนี้ ผู้ส่งออกข้าวไทยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงจำนวน 7 คู่สัญญา มีปริมาณการซื้อขาย 150,000 ตัน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยกลับมาเป็น 65% ได้ เพราะก่อนหน้านี้ เคยเสียตลาดให้กับคู่แข่ง หลังมีการใช้นโยบายจำนำ ทำให้มีราคาสูง และแข่งขันได้ยาก โดยปี 2557 ส่วนแบ่งตลาดได้ลดเหลือ 49% พอมาปี 2558 ได้เข้ามาทำแผนทวงคืนตลาด สามารถทวงส่วนแบ่งคืนมาได้เป็น 57%.