แอตต้าทำแผนเจาะลึกดึงลูกค้า ชี้ธุรกิจ “อินบาวด์” ดีสุดรอบ 48 ปี

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้า (อินบาวด์) ผ่านบริษัทนำเที่ยวมีการเติบโตราว 17% และเบื้องต้นประเมินว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ธุรกิจนำเที่ยวดีที่สุดในรอบ 48 ปีของการจัดตั้งสมาคมขึ้นมา โดยตลาดจีนยังเติบโตสูงสุด 60% ด้วยจำนวน 870,000 คน และเป็นตลาดที่เข้ามาอันดับหนึ่ง ขณะที่ตลาดรัสเซียยังมากเป็นอันดับ 2 แม้ว่ายังเผชิญอัตราลดลงกว่า 41.4% มีจำนวน 79,000 คน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เกาหลีใต้ มี 43,000 คน เพิ่มขึ้นราว 15.13%

อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดญี่ปุ่นในอันดับ 4 ยังอยู่ในขาลงต่อเนื่อง จากอัตราลดลงกว่า 13.56% ด้วยจำนวน 43,000 คน อยู่ในฐานะเริ่มสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดุลต่อการท่องเที่ยวของคนไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ดังนั้น แอตต้าจึงมีแนวคิดจับมือกับสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ร่วมจัดทำตลาดในเชิงแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับญี่ปุ่น โดยได้เริ่มหารือกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แล้วในการปรับแนวคิดเรื่องการทำตลาดญี่ปุ่นให้เข้มข้นมากขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำญี่ปุ่น (เจเอ็น ทีโอ) เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก มีจำนวน 122,000 คน เติบโตกว่า 37.8% ขณะที่กรมการท่องเที่ยวรายงานสถิติคนญี่ปุ่นเดินทางมาไทยในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. อยู่ที่จำนวน 133,000 คน ขยายตัวเพียง 3.28% เท่านั้น

สำหรับตลาดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจนำเที่ยว คือ กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่จัดทัศนศึกษาต่างประเทศ โดยแอตต้าจะเข้าไปจับตลาดนี้และแนะนำให้จับคู่กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่มีสินค้าตรงกับความสนใจกับกลุ่มนี้ มองเป้าหมายไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่มีการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นที่ต้องการของสถานศึกษาของญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะต้องพลิกฟื้นตลาดญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักธุรกิจที่คาดว่าจะมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 70% เมื่อเทียบกับชาวญี่ปุ่นทั้งหมดที่เดินทางมาไทยด้วย.