คำถามถึงเซียนอุ๊ปมราชภักดิ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160329/224919.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 29 มีนาคม 2559
คำถามถึงเซียนอุ๊ปมราชภักดิ์

คำถามถึงเซียนอุ๊ปมราชภักดิ์ : ขยายปมร้อน โดยศรุติ ศรุตา

           คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่ สำหรับเรื่องแอบอ้างชื่อไปหากิน

ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า มีคนแอบอ้างชื่อเพื่อไปแสวงผลประโยชน์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรองหัวหน้า คสช. ก็มาพูดทำนองว่า เป็นคนถูกแอบอ้างชื่อ

พล.อ.ประวิตรบอกว่า มีการติดตามเรื่องนี้มาตลอด และกำลังตามตัวผู้แอบอ้างชื่ออยู่ พร้อมกับบอกว่า ถ้ามีคนอ้างชื่อ ก็อย่าไปเชื่อ แต่ให้มาถามได้โดยตรง

จะว่าไปมันก็ยากอยู่!

คนมากบารมีระดับ พล.อ.ประวิตร มีตำแหน่งเป็นประธานนั่นนี่กว่า 20 ตำแหน่ง แถมยังเป็นพี่ใหญ่ของบรรดาน้องๆ บูรพาพยัคฆ์ จะมีใครกล้าโทรถาม

อีกอย่าง ด้วยบุคลิกที่รักพี่รักน้อง เรื่องนิดๆ หน่อยๆ พล.อ.ประวิตรก็มักจะให้อภัย ก็อาจเป็นช่องทางให้คนไปแอบอ้างชื่อ

นอกจากนี้ ถ้าเทียบกันแล้ว คณะรัฐมนตรี คสช.ทั้งหมดนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้กว้างขวางที่สุด ทั้งในแวดวงทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ไปจนถึงนักธุรกิจ

นั่นอาจเป็นเพราะนอกจากความเป็นพี่ใหญ่แล้ว พล.อ.ประวิตรยังมีตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด มาอย่างยาวนาน

และก็มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดนี่แหละ ที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้ พล.อ.ประวิตรเชื่อมต่อกับบรรดานักธุรกิจ เนื่องจากคณะกรรมการมูลนิธินั้น ถ้าไม่เป็นนักธุรกิจก็ต้องมีสายสัมพันธ์กับนักธุรกิจอยู่บ้าง

ครบเครื่องอย่างนี้ ก็เลยไม่แปลกที่จะถูกแอบอ้างชื่อ

ปัญหาก็คือ มีเรื่องอย่างนี้ไปเข้าหู พล.อ.ประยุทธ์

แต่ครั้นถามหาหลักฐานหรือใบเสร็จ ก็ใบ้กันไปหมด แต่เรื่องอย่างนี้ก็มากวนใจไม่เลิก เหมือนก้อนกรวดในรองเท้า เสียงบ่นก็เลยหลุดรอดออกมา

ที่บ่นก็เพราะเกี่ยวข้องกับการทุจริต อย่างที่ พล.อ.ประวิตรบอกนั่นแหละ

ที่ พล.อ.ประยุทธ์กังวล ก็เพราะเรื่องทุจริตเป็นเรื่องที่ คสช.ให้ความสำคัญถึงขั้นตั้ง ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. มอบหมายให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นประธาน

เรื่องใหญ่ที่ ศอตช.สอบก็คือ การก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่เพิ่งจะได้บทสรุปไปหมาดๆ

เรื่องนี้ก็กวนใจ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มานาน แล้วก็ยังมามีเรื่องแอบอ้างชื่อนี่อีก

ที่สำคัญปมอุทยานราชภักดิ์นั้น ก็ยังไม่จบเด็ดขาด แม้ สตง.และป.ป.ท.จะได้บทสรุปค่อนข้างคล้ายกันก็คือ ไม่พบการชักหัวคิวจากการก่อสร้าง หรือจากการหล่อพระบรมรูปบูรพกษัตริย์

เซียนอุ๊ กรุงสยาม ที่ว่า น่าจะเป็นคนได้เงินหัวคิว หน่วยงานหนึ่งสอบแล้วก็บอกว่า ไม่ใช่หัวคิว แต่เป็นเงินค่าชักนำงานมาให้ ขณะที่อีกหน่วยงานบอกว่า เป็นค่าที่ปรึกษาควบคุมการออกแบบ ถือว่าเมื่อออกแรง ให้ความรู้ ก็ต้องมีค่าตอบแทน

ส่วนเงิน 20 ล้านบาท ที่เซียนอุ๊เอาไปบริจาคให้มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ในนามโรงหล่อนั้น ก็ว่ากันไป

พอเรื่องจบแบบนี้ก็แฮปปี้กันทุกฝ่าย ซึ่งก็น่าจะรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

แต่ไม่รู้ว่า เซียนอุ๊ กรุงสยาม จะมีความสุขและเต็มใจกับการเอาค่าจ้างจากการชักนำงาน-ค่าจ้างจากการออกแบบ 20 ล้านบาท ไปบริจาคเข้ามูลนิธิอุทยานราชภักดิ์หรือเปล่า ตรงนี้ยังไม่มีใครรู้

คำถามนี้อาจไม่สำคัญ เพราะไม่มีใครสนใจ ยังเหลืออีกหน่วยงานที่ต้องไปสอบต่อ คือ ป.ป.ช. ช่วยหาคำตอบให้สิ้นสงสัยด้วยก็แล้วกัน

Leave a comment