‘นายกฯ’ร่วมประชาสัมพันธ์ตลาดข้างทำเนียบฯของศธ.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160329/224946.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 29 มีนาคม 2559
‘นายกฯ’ร่วมประชาสัมพันธ์ตลาดข้างทำเนียบฯของศธ.

“นายกฯ”ร่วมประชาสัมพันธ์ตลาดข้างทำเนียบฯของศธ.อ่านหนังสือสอนปชต.บอกใช้ก.ม.เพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่ายบ่นเรียกปรับทัศนคติยังไม่ยอม ระบุ เมตตาแล้ว ความจริงสั่งติดคุก

          วันที่ 29 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “การศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงฯ…สร้างสุข” ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ระหว่างวันที่ 1-24 เม.ย.นี้ ภายใต้วัตถุประสงค์ของการจัดงาน ด้วยการจำหน่ายสินค้าซึ่งเกิดจากผลงาน ของนักเรียน นักศึกษา ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน และจำหน่ายสินค้าราคาถูก
          สำหรับนักเรียน นักศึกษาและอุปกรณ์การเรียน โดยรูปแบบการจัดงาน ได้แบ่งออก 3 ช่วง ช่วงแรกระหว่างวันที่ 1-11 เม.ย. จำหน่ายผลิตภัณฑ์ซึ่งผลิตและจัดทำโดย นักเรียน นักศึกษาและประชาชนในราคาย่อมเยา ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-15 เม.ย. จัดงานเทศกาลสงกรานต์ประกอบด้วย สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้อาวุโส การร้องเพลงฉ่อยลอยลำในคลองผดุงกรุงเกษม การประกวดร้องเพลงผู้สูงอายุ รวมทั้งการประกวดเทพีสงกรานต์อีกด้วย และช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-24 เม.ย.จัดงาน “Back to School” ประกอบด้วยชุดนักเรียนระดับอนุบาล – ระดับมัธยมศึกษา อุปกรณ์การศึกษา เช่น ดินสอ ปากกา ไม้บรรทัด และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการโดยความร่วมมือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เปิดบูธจำหน่ายสินค้าตามโครงการพระราชดำริ สินค้าจาก อ.ต.ก. คุณภาพดีราคาย่อมเยา ร้านค้าสวัสดิการเพื่อประประชาชน และ สินค้าประชารัฐด้วย ตลอดจน มีบริการต่าง ๆ เพื่อประชาชน เช่น ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน โดยสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา นวดแพทย์แผนไทย และบริการตัดผมเพื่อประชาชน อีกทั้งยังมีกิจกรรมสาระบันเทิงอื่น ๆ เช่น การแสดงดนตรีและการละเล่นพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งการแสดงผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักเรียน และนักศึกษาด้วย
          โดยตัวแทนนักเรียนอาชีวะจากวิทยาลัยศิลปหัตกรรมกรุงเทพฯ ได้นำเครื่องสแกนรูปเท้า “ฟุตสแกนเนอร์”เพื่อใช้เป็นโมเดลวัดขนาดแผ่นยางรองรองเท้าเพื่อสุขภาพจากแนวคิดของนักเรียน ซึ่งตัวแทนนักเรียนขอให้นายกฯประชาสัมพันธ์เครื่องสแกนรูปเท้า โดยการทดลองสแกนเท้า แต่นายกฯ ไม่สามารถถอดรองเท้าเองได้ พล.อ. สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงได้เข้ามาช่วยถอดรองเท้าให้ ซึ่งผลการสแกนเท้า นายกฯมีรูปเท้าที่ปกติ ถือว่าเป็นคนที่มีสุขภาพเท้าดี ทั้งนี้ทางตัวแทนนักเรียนจะนำรูปเท้าที่ได้จากการสแกนมาผลิตเป็นแผ่นรองเท้าขนาดเบอร์ 42 นิ้ว มอบให้นายกฯ ไว้ใช้ และในในเวลา 10.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงมาวัดขนาดเท้าเพื่อทำแผ่นรองรองเท้าด้วยเช่นกัน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการเยี่ยมชมการจัดงาน “การศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงฯ…สร้างสุข” พล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำให้ครูผู้สอนไปต่อยอดให้นักเรียน นักศึกษา ในการสร้างงานฝีมือเพื่อให้เกิดความแตกต่าง เพื่อจะได้ไม่เสียเวลากับการทำสิ่งซ้ำๆ และขอให้ไปสอนให้เกความเข้าใจเรื่องการเขียน ไม่ใช่อะไรก็มีคำตอบให้เลือก เด็กจะได้คิดเป็น วันนี้รัฐบาลโดย คสช.ได้ออกมาตรา 44 เพื่อใช้ในการปฏิรูปการศึกษาไปแล้ว ต้องทำได้ ใครไม่ทำให้บอกมา วันนี้เราต้องปฏิรูป อย่าลืมว่าวันนี้ประชาชนมีความคาดหวังที่จะให้ทุกอย่างมีการปรับปรุงและพัฒนา รวมทั้งหยิบหนังสือประกอบการเรียน “กระสอบเพื่อนรัก” และกล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน ใครที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ และขอให้ไปบอกพ่อแม่ ผู้ปกครองว่าอย่าโกง และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากเราเป็นคนดีก็จะภาคภูมิใจและมีความสุข ซึ่งหนังสือเล่มนี้ดีมาก ในเรื่องการสร้างความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลจะต้องไม่มีความขัดแย้ง กฎหมายต้องมีความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ วันนี้รัฐบาลและ คสช.ก็พยายามทำกันอย่างเต็มที่แล้ว
          “เมื่อวานนี้ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งทุกอย่าง แม้แต่ห้ามพริตตี้แต่งตัวโป๊ รวมทั้งการรื้อคดีต่างๆ นายกฯ ต้องสั่งเองเกือบทั้งหมด เพราะมันปล่อยปะละเลยมานาน นี่จึงจะเรียกว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และการจะไปเลือกตั้งประชาชนต้องมีส่วนร่วม รวมทั้งการออกเสียงประชามติ ทุกคนมีสิทธิก็ขอให้ออกไปเลือกตั้งกันทุกคน ส่วนจะผ่านหรือไม่ผ่านก็อยู่ที่ทุกคน ถ้าเห็นว่าดีก็ผ่าน ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องผ่าน เพราะทุกคน คือประชาชน ฉันต้องฟังเสียงประชาขนแบบนี้ มีอำนาจก็ไม่อยากใช้”
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้หยิบหนังสือแบบเรียน “วรรณคดีวิจักษ์” พร้อมแกล้งอ่านหน้าปกหนังสือว่า ความเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนอ่านกันหรือยัง เข้าใจกันหรือยัง จากนั้น นายกรัฐมนตรีทำทีเปิดหนังสือและอ่านเนื้อหา ซึ่งแตกต่างจากเนื้อหาในหนังสือแต่เป็นการพูดขึ้นว่า ประชาธิปไตยต้องไม่มีความขัดแย้ง ไม่ทุจริต ไม่ขี้โกง ต้องเคารพกฎหมาย ไม่ใช่ทำผิดแล้วก็ไปอ้างสิ่งต่างๆ ว่าไม่รับกฎหมาย ไม่รู้ว่ารัฐบาลบริหารอะไร ออกมาพูด ปรับทัศนคติก็แล้ว ก็ยังไม่ยอม นี่ถือว่ามีเมตตาแล้ว ปกติต้องดำเนินคดี ต้องติดคุกไปแล้ว ขี้เกียจจะพูด
          นอกจากนี้  นายกรัฐมนตรี ได้ชมเรื่องการเรียนการสอนศิลปมวยไทย โดยได้สวมนวมและซ้อมต่อย โดยบอกนักเรียนว่า ห้ามต่อยสวนมา ตอนหนุ่มๆ ตนชอบชกมวยมาก เพราะเป็นกีฬาของลูกผู้ชาย แต่ระหว่างที่โชว์การเตะ ต่อย พล.อ.ประยุทธ์ มีการเซเล็กน้อย โดยบอกว่า แก่แล้ว ไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ ตอนนี้ใช้กำลังไม่ได้แล้ว ใช้กฎหมายอย่างเดียว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้ทำสัญญาซื้อรถเบนซ์ รุ่น S600 Guard sedan long จำนวน 4 คัน จาก บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ จำกัด วงเงิน 78 ล้านบาท ซึ่งเป็นรถกันกระสุน คันละ 19.5 ล้าน รวมประมาณ 80 ล้านบาท โดย 2 คันแรก เพื่อใช้ในการรับรองแขกวีไอพีต่างประเทศ และเป็นรถประจำตำแหน่งใหม่ให้กับนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 คัน วันเดียวกันนี้นายกฯ ยังคงใช้รถเบนซ์กันกระสุนส่วนตัวสีดำ ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานครคันเดิมที่เคยใช้ประจำ

Leave a comment