ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160408/225562.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2559
‘นายกฯ’ ห่วงหลายพื้นที่อากาศร้อนจัดทุบสถิติ แนะผู้ทำงานกลางแจ้งดูแลร่างกาย หากไม่ไหวอย่าฝืน ฝากนายจ้างดูแล มอบ สธ.ประชาสัมพันธ์การป้องกันอันตรายจากภัยแดด
8 เม.ย.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญกับภาวะอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้มีรายงานว่าบางพื้นที่ เช่นที่ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่อากาศร้อนจัดจนเกิดปรากฎการณ์พายุฤดูร้อนทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย
“นายกรัฐมนตรีฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ต้องทำงานกลางแจ้งว่าขอให้หมั่นสำรวจความพร้อมของร่างกาย หากรู้สึกไม่ไหวก็ควรพัก สำหรับผู้ประกอบการและนายจ้างนั้น ขอให้ช่วยดูแลเรื่องสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมและเอื้ออารีต่อพนักงานด้วย ขอให้ยึดถือคติว่า คนสำราญ งานสำเร็จ และท่านยังขอความร่วมมือทีมหมอครอบครัว , เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ในการดูแลตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดจากการทำงานหรือการใช้เวลาอยู่ในบริเวณที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่านอกจากนี้ รัฐบาลได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า พื้นที่ภาคเหนือของไทยตรวจพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นนับร้อยจุดซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเผาป่าเพื่อทำการเกษตร เมื่อรวมกับสภาพอากาศที่ร้อนแล้ง ยิ่งทำให้การควบคุมไฟป่าทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหยุดการเผาเพื่อปรับพื้นที่การเกษตรโดยขอให้ใช้การขุดไถแทน เพื่อลดผลกระทบจากหมอกควันไฟป่า ที่จะซ้ำเติมสภาพอากาศให้เลวร้ายยิ่งขึ้น
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า. นายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพย์ฯ กองทัพอากาศ หน่วยฝนเทียม รวมถึงอาสาสมัครชาวบ้าน ที่ร่วมแรงร่วมใจเฝ้าระวัง และออกปฏิบัติการดับไฟป่าเพื่อปกป้องทรัพยากรของชาติ
เครือข่ายปชช.ระบบบำนาญฯ ร้อง ‘บิ๊กตู่’ เปลี่ยนเบี้ยยังชีพ 600 บาทต่อเดือนเป็นบำนาญพื้นฐาน
8 เม.ย.59 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง กพ.) ประชาชนเครือข่ายขชับเคลื่อนระบบบำนาญแห่งชาติ ประกอบด้วย เครือข่ายผู้สูงอายุ เครือข่ายสวัสดิการชุมชน เครือข่ายสลัม 4 ภาค เครือข่ายแรงงานนอกระบบ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ประมาณ 600 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนฯ เพื่อเรียกร้องให้นายกฯ ดำเนินการจัดสวัสดิการบำนาญพื้นฐานให้กับประชาชนทุกคน รวมถึงรณรงค์กระตุ้นให้สังคมไทย ตระหนักถึงชีวิตของผู้สูงวัยที่ยังไม่มีหลักประกันรายได้ที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต โดยนางหนูเกน อิททจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายสลัมสี่ภาค กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันรัฐให้เพียงเบี้ยยังชีพ เดือนละ 600 บาท โดยสูงสุดจะได้เดือนละ 1,000 เมื่ออายุเกิน 80 ปีขึ้นไป ซึ่งพบว่ามีจำนวนน้อยมาก จึงขอให้รัฐเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญพื้นฐาน ให้เท่ากับเส้นความยากจนในปัจจุบัน 2,500 บาท รวมถึงต้องออกกฎหมายบำนาญแห่งชาติเพื่อให้มีคณะกรรมการบริหารระบบบำนาญแห่งชาติ มาทำหน้าที่จัดทำแผนบำนาญ กำหนดบำนาญพื้นฐานที่เหมาะสม และควบคุมกำกับดูแลกอองทุนบำนาญต่างๆให้มีความโปร่งใสและยั่งยืน
ขณะที่ น.ส.อรนุช เลิศกุลดิลก ตัวแทนเครือข่ายผู้สูงอายุ กล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมสูงวัย มีจำนวนผู้สูงอายุในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนประชากร ซึ่งปัจจุบันรัฐจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุประมาณ 63,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2559 หากปรับเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญพื้นฐาน รัฐต้องใช้งบประมาณมากกว่าแสนล้านบาท แต่ก็จะเป็นหลักประกันว่าผู้สูงวัยทุกคน จะมีหลักประกันรายได้บำนาญรายเดือน เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ทางเครือข่ายจึงขอให้สังคมเข้าใจ และขอให้รัฐบาลเร่งรัดปฏิรูปสังคม ด้วยการจัดสวัสดิการบำนาญพื้นฐานแทนเบี้ยงยังชีพสูงวัยสำหรับทุกคน
