ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160328/224874.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2559
‘ประวิตร’ เผยเชิญ ‘วัฒนา’ ปรับทัศนคติอีกรอบเหตุทำผิดซ้ำ ยันไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แนะ คสช.จัดหลักสูตรอบรม 3-7 วัน ย้ำเข้มงวดป้องกันก่อการร้าย ขอปชช.เป็นหูเป็นตา
28 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม(กห.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวนายวรชัย เหมะ และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า ทั้งสองคนต้องรู้อยู่แล้วว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) บริหารประเทศอยู่ คงต้องรู้ว่าสมควรหรือไม่ที่จะออกมาเคลื่อนไหวในเวลานี้
ทั้งนี้ตนอยากขอเวลา เพราะอีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว อย่างไรก็ตามหากเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาพูดคุย แต่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องคงต้องจัดทำเป็นหลักสูตรเพื่ออบรม โดยจะมีระยะเวลาประมาณ 3-7 วัน ซึ่งจะให้คสช.เป็นผู้ดำเนินการ สำหรับการควบคุมตัวทั้ง 2 คนนั้นตนยืนยันว่าเราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิมนุษยชน อยากให้ดูที่เจตนาด้วยว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันร่างรัฐธรรมนูญก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่นานก็จะเข้าสู่กระบวนการทำประชามติ
เมื่อถามว่า คสช.จะควบคุมตัวนายวรชัย และนายวัฒนา กี่วัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะคสช.เป็นผู้ดำเนินการ
ชี้พร้อมรับมือก่อการร้าย หลังเกิดระเบิดปากีสถาน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการก่อการร้ายประเทศปากีสถาน ว่า ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายมาโดยตลอด และทางเจ้าหน้าที่จะต้องไปดูในมาตรการต่างๆ ซึ่งในส่วนปัญหาดังกล่าวทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ดูแล ประกอบกับหากมีความเคลื่อนไหวทาง คสช.ก็ได้ออกคำสั่งไปเตือนตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามประชาชนต้องช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้ทุกตารางนิ้ว ซึ่งหากประชาชนพบเห็นสิ่งใดผิดปกติ และอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อบ้านเมืองก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จ.นครศรีธรรมราช มีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวชาวต่างชาติ และอาจมีคนไม่หวังดีเอาข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดี ว่า ตนไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ และต้องมีการตรวจสอบ และจะให้ทาง สตม.เป็นตรวจสอบผู้อีกที
ไม่ติดใจรธน. ระบุรับได้ก็เอา รับไม่ได้ก็ขอเก็บไว้ในใจ
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตรวจสอบเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะสิ่งที่ตนคิดได้พูดไปหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้ต้องอยู่ที่กรธ.เป็นผู้ตัดสินใจ อะไรที่ดีที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ก็ทำไป ส่วนอะไรที่ไม่ดีและจะทำให้ประเทศชาติเสียหายก็อย่าไปทำ ถ้าสิ่งใดที่ทำให้เกิดการปรองดองก็ดำเนินการได้เลย ส่วนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่คสช.เสนอไป ตนชี้แจง พร้อมทั้งมีการนำเสนอจากสื่อมวลชนไปหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ทางกรธ.สรุปร่างรัฐธรรมนูญ และจะส่งให้รัฐบาล และคสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะส่งก็ส่งมา ตนจะดูเท่านั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างกรธ. คงดำเนินการจบแล้ว และไม่มีใครกล้าไปแตะ แต่จะต้องส่งให้ คสช.รับทราบด้วย
เมื่อถามอีกว่า กรณีที่หลายฝ่ายวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ จะทำให้รัฐธรรมนูญสามารถเดินไปข้างหน้าได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการลงประชามติ ซึ่งตนไม่สามารถตัดสินใจได้ ทั้งนี้ก่อนจะมีการร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาล และคสช.ได้ส่งข้อมูลไปทั้งหมดแล้วว่าคิดเห็นอย่างไร ส่วนจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของประชาชน
เมื่อถามต่อว่า พอใจกับร่างรัฐธรรมนูญ หรือไม่ รองนายกฯประวิตร กล่าวว่า “ในฐานะที่ผมเป็นประชาชน อะไรที่รับได้ก็รับ อะไรที่รับไม่ได้ก็เก็บไว้ในใจ เป็นธรรมดาที่ต้องมีทั้งเรื่องเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนภาพรวมคิดว่าน่าจะเดินต่อไปข้างหน้า ได้”
พร้อมปฏิรูปกองทัพ ระบุ กห.เป็นหน่วยงานใช้เงิน
พล.อ.ประวิตร กล่าวก่อนการประชุมสภากลาโหม ว่า ไม่มีวาระอะไรพิเศษ เป็นเพียงการพูดคุยว่าที่ผ่านมาดำเนินการอะไรคืบหน้าไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะการปฏิรูปกองทัพ ซึ่งตนได้มีการวางแผนไว้แล้ว 20 ปี พร้อมทั้งมีหน่วยงานที่จะเข้ามาชี้แจงว่ามีความคืบหน้าไปมากแค่ไหน
“กองทัพก็ต้องมีการปฏิรูป ทั้งการทำงาน สวัสดิการ ทุกเรื่องที่จะทำให้กองทัพมีความกะทัดรัด เพื่อให้การปฏิบัติงาน และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ซึ่งกองทัพ และกระทรวงกลาโหมต้องใช้เงิน ไม่ใช่หน่วยงานที่หาเงิน และเราจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ก็มาจากภาษีประชาชนให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด” รมว.กห. กล่าว
โวยคนแอบอ้างชื่อหวังผลประโยชน์
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่ามีคนแอบอ้างชื่อเพื่อไปแสวงผลประโยชน์ ว่า ได้มีการติดตามเรื่องนี้มาตลอด และตอนนี้กำลังดำเนินการติดตามตัวผู้แอบอ้างชื่ออยู่ ซึ่งคนที่อ้างก็อ้างชื่อส่งเดชไปเรื่อย และที่สำคัญคนที่เชื่อก็อย่าไปเชื่อ ถ้ามีอะไรก็ให้มาถามตน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตนไม่อยากให้ไปมโนกันเอาเอง เพราะคนทำงานก็ท้อแท้เหมือนกัน ตั้งแต่ที่ตนรับราชการยศ ร.ต. จนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกยังไม่มีเรื่องแบบนี้เลย อีกทั้งทางนายกฯก็มีความกังวลในเรื่องนี้มาก เพราะเกี่ยวข้องกับการทุจริต
‘บิ๊กป้อม’ ยังไม่เห็นขอเสนอเกษียณขรก. 65 ปี ชี้ต้องดูรายละเอียด
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)ยืดอายุ ข้าราชการเกษียณเป็นอายุ 65 ปี ว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่เห็น แต่จะมาใช้เลยคงเป็นไปไม่ได้และคนที่อายุ 59 ปีในปีนี้ จะทำอย่างไร จะต้องไล่เป็นขั้นตอนไป จะให้ขยับจาก 60 เป็น 65 เลยคงไม่ได้ เพราะผลกระทบมีเยอะ คนที่มีอายุ 60 , 61 และ 62 ปี จะต้องมีการแก้ไขตัวบทกฏหมายต่างๆอีก หลายเรื่อง ไม่ใช่ว่าเสนอมาแล้วทำได้เลย เพราะต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไป
