ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160404/225343.html
‘ประยุทธ์’ใช้อำนาจม.44 สั่งตั้งคกก.ที่ปรึกษาบริหารและพัฒนาจชต. ทำหน้าที่แทนสภาที่ปรึกษาบริหารและพัฒนาจชต.
ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๓๕ เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗๙ ง เผยแพร่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๔/๒๕๕๙ เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และการกําหนดอํานาจหน้าที่ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
โดยที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า องค์ประกอบและอํานาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ ยังไม่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน อันเป็นสาเหตุสําคัญประการหนึ่งที่ทําให้กฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่อาจใช้บังคับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงจําเป็นต้องกําหนดให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น เพื่อทําหน้าที่แทนสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
อีกทั้งในการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้จําเป็นต้องมีการประสานการทํางานร่วมกันกับ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีอํานาจหน้าที่และรับผิดชอบเกี่ยวกับการติดตาม ตรวจสอบ ประเมิน และอํานวยการในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงสมควรเพิ่มเติมอํานาจหน้าที่ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อบูรณาการการบริหาร การพัฒนา และการรักษาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาและปฏิรูปการบริหารราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้และการบริหารราชการแผ่นดิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะหนึ่ง ประกอบด้วยกรรมการจํานวนไม่เกินหกสิบคนซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญ หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในด้านการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยการพิจารณาร่วมกันของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จํานวนไม่เกินสี่สิบห้าคน
(๒) ผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จังหวัดละไม่เกินสองคน
(๓) ผู้ทรงคุณวุฒิอื่นจํานวนไม่เกินห้าคน ให้กรรมการตามวรรคหนึ่งเลือกกันเองเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หนึ่งคน รองประธานกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดน ภาคใต้สองคน และเลขานุการกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หนึ่งคน
ข้อ ๒ กรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปี
ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ เข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตําแหน่งด้วยเหตุตาย ลาออก หรือนายกรัฐมนตรีให้ออก ให้คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการแทนตําแหน่งที่ว่างตามที่เห็นสมควร โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งแทนอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
ข้อ ๓ ให้งดใช้บังคับบทบัญญัติมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ (๑) (๓) (๕) (๖) (๗) และ (๙) มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นและให้คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้ใช้อํานาจหน้าที่แทนสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามมาตรา ๒๓ (๒) (๔) และ (๘)แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๔ ให้งดใช้บังคับบรรดาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่งหรือมติของคณะรัฐมนตรีใด ในส่วนที่อ้างถึงสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ข้อ ๕ เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในกรณีที่ต้องมีการบูรณาการการทํางานร่วมกันระหว่างกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ปรึกษาหารือและรับข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของเลขาธิการกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรไปดําเนินการหรือปฏิบัติงาน
ในกรณีที่มีปัญหาว่าการดําเนินการหรือการปฏิบัติงานใดต้องมีการบูรณาการการทํางานร่วมกันตามวรรคหนึ่งหรือไม่ หรือในกรณีที่การดําเนินการตามวรรคหนึ่งมีความจําเป็นต้องพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติให้เลขาธิการกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เสนอเรื่องดังกล่าวต่อรองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสั่งการ
ข้อ ๖ ในกรณีที่เกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมีอํานาจหน้าที่ในการอํานวยการประสานงาน หรือดําเนินการอื่นที่จําเป็นเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าท่ตามกฎหมายว ี ่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วย
ข้อ ๗ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
