ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160411/225734.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2559
มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman
ฤดูเกณฑ์ทหารมาถึงอย่างคึกคัก ชายไทยและครอบครัวจำนวนมากหมกมุ่นลุ้นกับวาระนี้ เพราะพวกเขาถึงกำหนดต้องมาตรวจเลือกเพื่อจะรู้ว่าต้องเป็นทหารหรือไม่ แต่ละพื้นที่นั้นราชการต้องการคนเข้ารับราชการไม่มากนัก บางคนสมัครเป็นเสียเลยเพื่อได้สิทธิลดหย่อนเวลา หรือทำไปเพราะอยากรับใช้ชาติอย่างแรงกล้า พวกลุ้นจับได้ใบดำก็เฮฮา จับได้ใบแดงก็สลดขาอ่อน คนที่ไม่อยากเป็นทหารก็พยายามถ่วงเวลาด้วยการผ่อนผัน หรือที่เลวร้ายมากคือหาทางทุจริตนอกเกณฑ์ ท่ามกลางพวกเขาเหล่านั้น กะเทยหรือผู้แต่งหญิงแทบจะประกันได้เลยว่า พวกเธอจะไม่ต้องจับใบดำใบแดงแต่อย่างใด ตรวจร่างกายเสร็จหมอก็จะบอกว่าพวกเธอไม่พร้อมจะเป็นทหาร รับใบ สด.แล้วกลับบ้านได้ แต่นั่นคือความประสงค์ของพวกเธอจริงๆ หรือ และแท้จริงแล้ว กองทัพเสียประโยชน์อะไรไปหรือไม่
อคติว่ากะเทยไม่ควรเข้ารับราชการในกองทัพในฐานะพลทหารนั้นมีมานานแล้ว เช่น มองว่าเพศสภาพของพวกเธอไม่เหมาะกับการฝึกทางยุทธวิธี คนทั่วไปมีมโนทัศน์ว่า พวกเธอจะตุ้งติ้ง อ่อนแอ หยิบโหย่ง จนฝึกทหารไม่ไหวแล้วจะทำให้ทั้งหมวดหมู่เหล่าย่อหย่อนไปด้วย มองว่าพวกเธอเข้ามาก็เป็นภาระของกองทัพให้ต้องระวังมิให้เกิดคดี เพราะทหารที่เหลือทั้งหมดนั้นเป็นชายวัยฉกรรจ์ที่มีอารมณ์หื่น หากมีพวกเธอเข้ามาอยู่ใกล้แล้วคงมีการปล้ำกันไม่เว้นแต่ละวัน หนำซ้ำก็เป็นพวกเธอนั่นล่ะหาทางเข้าเล่นงานชายหนุ่มเหล่านี้จนทั้งหมวดหมู่เหล่าย่อหย่อนลงไปอีก
ที่กล่าวมานั้นมีเหตุผลนะครับ แต่เมื่อมองในอีกแง่มุม การให้โอกาสพวกเพศที่สามเข้าเป็นทหารน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย สิ่งเลวร้ายด้านบนนั้นน่าจะปกป้องสกัดกั้นมิให้เกิดได้ด้วยการเป็น “มืออาชีพ” ของกองทัพ หากกองทัพซึ่งมีคนดีมารวมกันเป็นแสนบอกว่าไม่สามารถสอนทหารเกณฑ์ให้เป็นคนดีมีวินัยไม่เหยียดเพศไม่ลวนลามข่มเหงผู้อื่นได้ ไม่สามารถสอนให้คนอ่อนแอกลายเป็นทหารผู้เข้มแข็งได้ กองทัพนั้นก็ไม่พร้อมสำหรับงานด้านกำลังพลและงานที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเอาซะเลย ซึ่งกองทัพไทยไม่ใช่เช่นนั้นอย่างแน่นอน
เราควรจะรับพลทหารสมัครจากเพศที่สามด้วยโดยไม่อ้างเหตุกีดกันพวกเขา แต่จะหาประโยชน์จากพวกเขาได้หลายอย่าง เช่น ความสามารถทางยุทธวิธี พวกนี้อาจมิได้ด้วยเท่าที่คิด หลายคนเล่นกล้าม แข็งแกร่งเพียงพอต่อการฝึกปรือ พวกที่แข็งแกร่งน้อยกว่าก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าข้าราชการพลเรือนกลาโหมเพศหญิงที่ฝึกสามเดือนเพื่อติดยศ ดังนั้นพวกเธอน่าจะผ่านขั้นตอนนี้กันเกือบครบทุกคน หลังจากนั้นพวกเธอจะเข้าสู่ส่วนของการทำงานจนกว่าจะครบปลด งานหลายอย่างไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ เช่น งานพลาฯ พยาบาล ธุรการ หรือข่าว พวกเธอน่าจะทำงานเหล่านี้ได้ดีไม่น้อยหน้าทหารชาย บางคนอาจจะดีเด่นกว่าเพราะสมองดีกว่า ละเอียดใส่ใจในงานมากกว่าด้วยซ้ำ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงระดับยุทธศาสตร์ที่กองทัพจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการมีทหารประเภทนี้ เช่น การยอมรับในสิทธิมนุษยชน และการมีทหารประเภทนี้ดีๆ สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ทหารชายปกติว่าจะต้องปฏิบัติตนไม่น้อยหน้าเธอ พวกคิดเลี่ยงเป็นทหารก็อาจเปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่าเหล่าเพศที่สามก็เป็นทหารได้และเป็นได้ดี
ในการปฏิบัตินั้น ในชั้นต้นควรเป็นการให้โอกาสแบบสมัครใจแก่พวกเธอ คัดเลือกครูฝึกและผู้บังคับบัญชาที่มีความคิดเชิงบวก จัดตั้งกลุ่มเป็นการเฉพาะอาจเป็นระดับหมวดหรือกองร้อยสาธิต ลองดูสักปีหนึ่งก็ได้ว่าจะเวิร์กหรือไม่
——————–
(มุมมองยุทธศาสตร์ : กองร้อยทหารข้ามเพศ : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman)
