เกือบๆ จะทันที หลังจากเกิดเหตุมือระเบิด จุดระเบิดฆ่าตัวตายที่ลานจอดรถของสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของปากีสถานขณะมีชาวคริสต์จำนวนมากรวมถึงผู้หญิงและเด็กมาฉลองเทศกาลอีสเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 69 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายร้อย ทางการไทยหลายฝ่ายก็ออกมาพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ความอุ่นใจกับประชาชน และบรรดานักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าได้สั่งการเหล่าทัพให้เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยทหาร สถานที่สำคัญ พื้นที่เสี่ยง พร้อมกับเน้นย้ำในเรื่องการข่าวด้านความมั่นคงไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ทางการไทยจะยืนยันเสียงแข็งมาตลอดว่า ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่กำลังร้อนระอุในสังคมโลกขณะนี้ จึงแทบจะไม่มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย หากแต่การขยายขอบเขตอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ที่กำลังเล่นบทบาทในสงครามต่อต้านตะวันตก ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นภาวะของสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นเรื่องที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มไอเอสได้ขยายเครือข่ายเข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในบางพื้นที่ที่มีความเปราะบางในด้านศาสนา ความเชื่อ และความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์ อันดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับแนวทางการทำสงครามของกลุ่มไอเอส

เหตุความสูญเสียอันน่าเศร้าสลดในงานฉลองอีสเตอร์ของชาวคริสต์เมื่อวันอาทิตย์โดยกลุ่มผู้อ้างความรับผิดชอบคือ กลุ่มจามัต อูล อาห์ราร์ กลุ่มที่แยกตัวมาจากกลุ่มเทห์ริก อี ตาลีบัน ปากีสถานซึ่งประเทศนี้มีผู้นับถือคริสต์อยู่เพียง 1.6% ของประชากรทั้งประเทศราว 200 ล้านคน แต่ก็ถูกเลือกปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านาน อย่างเมื่อวันที่ 15 มีนาคมปีที่แล้ว กลุ่มตาลีบันก็ได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อนทำให้ชาวคริสต์เสียชีวิต 14 คน ที่โบสถ์คริสต์ในเมืองลาฮอร์ ขณะที่เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสและเบลเยียมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เป็นอีกประจักษ์พยานหนึ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นความสลับซับซ้อนของสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะบรรดา “นักรบ” ของกองทัพใหม่ต่อต้านตะวันตก ก็มาจากผลผลิตของการกดขี่ข่มเหงกันในอดีต สัญชาติที่ถูกตราขึ้น ไม่อาจจะอยู่เหนือเชื้อชาติได้อีกต่อไป

ความเป็นไปบนโลกของเราทุกวันนี้ นับเนื่องตั้งแต่เหตุการณ์ถล่มเวิลด์เทรด เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 หรือนั่นก็คือวันประกาศสงครามโลก ซึ่งต่อมาได้เกิดการสู้รบกันแทบจะทั่วทุกมุมโลก ชีวิตมวลมนุษยชาติถูกผลาญคร่าไปนับไม่ถ้วน ถาวรวัตถุ สิ่งปลูกสร้างอันแสดงออกถึงอารยธรรมก็ถูกทำลายไม่ต่างกับภาวะสงครามแม้แต่น้อย สำหรับประเทศไทย ซึ่งดำรงสถานะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดมาตลอด แม้จะทำให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่า ดินแดนอันสงบร่มเย็นนี้จะไม่เข้าไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใครโดยเด็ดขาด แต่ถึงกระนั้น การไม่ตื่นตระหนกนั้นแม้จะถูกต้องแล้ว แต่ก็จะต้องไม่ลืมในข้อที่ควรตระหนักด้วยว่า สงครามที่แปรเปลี่ยนไปจากสงครามในรูปแบบเดิมนั้น ทำให้พื้นที่ปลอดภัยบนโลกของเราขณะนี้เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ประเทศไทยจึงจะต้องดำเนินนโยบายเพื่อให้พื้นที่อันควรสงวนรักษานี้ ดำรงสถานะอย่างมั่นคงยั่งยืน