วันที่ 31 มี.ค.59 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงแถลงการณ์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า ได้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะเป็นการแสดงความเห็นพร้อมเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน หากมีการร้องเรียนเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ กกต.ทั้งหมดจะต้องพิจารณาร่วมกัน อย่างไรก็ตามหากประชาชนเห็นว่ามีกรณีใดที่น่าจะเข้าข่ายกระทำการผิดกฎหมายก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากกรณีนี้มีกฎหมายหลายฉบับควบคุมอยู่ เช่น หากมีการแจกใบปลิวรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ว่ามีการปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายหรือมีการบิดเบือนข้อมูล ข่มขู่คุกคามอันจะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยหรือไม่ รวมไปถึงพฤติกรรมว่ามีการชุมนุมเกินกว่าห้าคนหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูกฎหมายประกอบเป็นรายกรณี

          “ส่วนของ กกต.จะทำคำแนะนำในข้อที่ไม่ควรปฏิบัติออกมาเพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนให้ได้มากที่สุดด้วย พร้อมกับย้ำว่า กกต.ไม่สนับสนุนให้มีการเปิดเวทีในแต่ละพื้นที่เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาได้” นายสมชัย กล่าว

          ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงวงเงินงบประมาณ 2,991ล้านบาท เพื่อจัดทำประชามติเป็นตัวเลขที่สูงเกินไปนั้น นายสมชัย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรียังไม่มีการประสานเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายใน 1-2 สัปดาห์ ยืนยันว่า กกต.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและมีการปรับลดงบประมาณลงแล้วจากเดิมตั้งไว้ที่ 4,100 ล้านบาทลดเหลือ 3,400 ล้านบาท และเหลือ 2,991 ล้านบาท ซึ่งสามารถอธิบายได้ทุกบรรทัด ตัวเลขดังกล่าวได้ปรับลดงบประมาณลงจากภาระที่เคยกำหนดให้ต้องจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็มไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เหลือ 1.2 ล้านเล่มแล้ว ส่วน ครม.จะส่งกลับให้มาทบทวนหรือไม่ คงต้องรอดูผลการพิจารณาของ ครม.ก่อน

‘อุเทน’ยังหวังคสช.ล้มกระดาน’ประชามติ’  

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดทำเสร็จว่า ยังหวังว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะทบทวนกระบวนการทำประชามติ เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางที่นอกจากสิ้นเปลืองงบประมาณสูงถึง 3 พันล้านบาทแล้ว ยังจะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแม้ว่ายังเชื่อมั่นในความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แต่ในฐานะที่ได้ติดตามการบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.ล้าหลัง ไม่เป็นไปตามหลักสากล ไม่มีความน่าเชื่อถือในตามแนวประชาธิปไตย ซึ่งจะสร้างความสับสนต่อไปในอนาคตหากมีการบังคับใช้จริง

“ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ไม่ใช่เวลาที่รัฐต้องมาสูญเสียเงินหลายพันล้าน แล้วก็ยังเป็นการสูญเสียเวลาโดยใช่เหตุ ผลสุดท้ายก็มีแต่ความขัดแย้งสับสนของคนในชาติ” นายอุเทน กล่าว.