ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160328/224862.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2559
มองมุมยุทธศาสตร์ : ไอเอสร้ายแรงกว่าอาบูนิดาล : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman
การบุกเข้าไประเบิดตัวเองตายพร้อมกับผู้โดยสารอีกสิบกว่าคนกลางสนามบินนานาชาติบรัสเซลส์เมื่ออังคารที่แล้ว เป็นอีกความน่าสะพรึงกลัวหนึ่งที่กลุ่มไอเอสได้สร้างให้โลกใบนี้เห็น ที่ผ่านมาพวกเขาโชว์ความตายหลากหลายรูปแบบจนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาจะมีวันหมดมุกหรือเปล่า การโจมตีสนามบินนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่รักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุดของแต่ละประเทศ ถ้าไม่บ้าจริงๆ ก็คงไม่กล้าวางแผนนี้ ในอดีตเคยมีกลุ่มที่เคยทำแบบนี้มาแล้ว แต่มาวันนี้ไอเอสน่าจะเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติมากที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปแล้ว
ในยุค 70-80 นั้นชาติตะวันตกเผชิญศึกกระหนาบหลายทาง สงครามสู้คอมมิวนิสต์นั้นไกลตัวออกไปยังอเมริกาใต้กับเอเชียก็จริง แต่นิวเคลียร์โซเวียตก็จ่อคอหอยอยู่ กระนั้นก็ตามภัยคุกคามถึงเลือดถึงเนื้อก็คือผู้ก่อการร้ายเชื้อสายอาหรับที่แค้นอิสราเอลกับชาติตะวันตกที่หนุนหลังยิวอยู่ พวกนี้พยายามก่อเหตุบนผืนแผ่นดินยุโรป วิธีการที่ใช้ก็อุกอาจยิ่ง มักออกแนวกราดยิงและจับตัวประกัน บางทีก็มีคนตายมาก เช่น ขบวนการกันยายนทมิฬบุกสนามกีฬามิวนิค หรือพวกปาเลสไตน์ไฮแจ็กเครื่องบินแพนแอม แม้ว่าสถานการณ์จะดูดีขึ้นเมื่อยัสเซอร์ อาราฟัต บรรลุแผนสันติภาพกับอิสราเอลได้ แต่ก็ยังมีกลุ่มก่อการร้ายรายย่อยที่ไม่ยอมรับ ก่อเหตุต่อไปอีก
27 ธันวาคม 1985 กลุ่มอาบูนิดาลพร้อมปืนกลและระเบิดบุกโจมตีสนามบินนานาชาติอิตาลีกับเวียนนา ฆ่าคนตายไป 19 คน ส่วนใหญ่เป็นยิว นับเป็นข่าวดังในยุคนั้น กลุ่มนี้ยังก่อเหตุน่ากลัวอีกหลายครั้งเช่นยึดเรือสำราญสังหารคนรวยเล่น อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ก็ค่อยๆ เงียบลงไป เมื่อตะวันตกบรรลุข้อตกลงกับโมอัมมาร์ กัดดาฟี แห่งลิเบีย ท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่ม เริ่มหมดยุคผู้ก่อการร้ายคลั่งเชื้อชาติ โลกค่อยๆ หมุนไปเจอกับโจรคลั่งศาสนาหัวรุนแรงแทนเมื่อเปลี่ยนศตวรรษใหม่ อย่างอัล-ไกดา และตอนนี้ก็ไอเอส
เมื่อมองรอบมิติ ไอเอสร้ายกาจกว่าอาบูนิดาลหรือขบวนการก่อการร้ายอื่นใดในอดีต พวกเขาใจถึงกว่าที่ใช้ระเบิดฆ่าตัวตายผสมผสานกับทักษะการต่อสู้และการวางแผน เครือข่ายก่อการร้ายยุคใหม่ที่ไม่ยุดโยงกับองค์กร เชื่อมต่อกันแค่หลักคิด โดยมีโลกอินเทอร์เน็ตหล่อเลี้ยง ทำให้ใครๆ ก็เป็นผู้ก่อการร้ายได้ เกิดได้เร็วกว่า ตายได้ไวกว่า ด้วยชุดข้อมูลมหาศาลที่อัดเข้าสู่หัวพวกอยากจะขึ้นสู่สวรรค์ งานนี้จับมือคนเชื้อสายเดียวกันไม่กี่คนก็ถล่มปารีสและบรัสเซลส์ได้
การกวาดล้างไอเอสนั้นยากมากในยุคนี้ เพราะสามสิบปีผ่านไปยุโรปมีคนที่มิใช่ “ฝรั่ง” เต็มประเทศซะแล้ว จะรณรงค์ยังไงก็แตะต้องเรื่องของสิทธิมนุษยชน กลุ่มหนุนหลังไอเอสที่พอจะตกลงได้หรือให้ตัดท่อน้ำเลี้ยงได้ก็ไม่มี ความเร็ว ปริมาณและเทคนิคของสื่อออนไลน์ก็มากล้ำจนควบคุมไม่ได้
แต่อย่าเพิ่งวิตกไปครับ กาลเวลาจะช่วยปรับสถานการณ์เอง โลกคงไม่ยอมให้ไอเอสตั้งรัฐได้แบบองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ตั้ง และจะค่อยๆ ปราบจนน่วมแม้จะนานหน่อย ระยะเวลาที่ยาวนาน อาจทำให้คนที่อยากเป็นคนร้ายเลิกบ้าและตระหนักว่าไม่มีทางที่จะเปลี่ยนโลกนี้ได้ด้วยการก่อการร้ายตามแนวคิดไอเอส แนวคิดนี้จะค่อยๆ สงบไปเองแบบอุดมการณ์อื่นๆ ก่อนหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างมีวันพีคและวันสิ้นอายุของมัน
——————–
(มองมุมยุทธศาสตร์ : ไอเอสร้ายแรงกว่าอาบูนิดาล : โดย…เรือรบ เมืองมั่น http://www.facebook.com/ruarob.muangman)
