ขยายปมร้อน : ประชามติเริ่มไม่ง่าย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160413/225819.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 13 เมษายน 2559
ขยายปมร้อน : ประชามติเริ่มไม่ง่าย

ขยายปมร้อน : ประชามติเริ่มไม่ง่าย : โดย…อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ

                    เมื่อพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงในการทำประชามติ ทำให้สถานการณ์การเมืองร้อนแรงยิ่งขึ้น เพราะนับเป็นการแสดงความเห็นในฐานะพรรคการเมืองที่ชัดเจนที่สุดของพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่มีการรัฐประหารและการร่างรัฐธรรมนูญมา
                    เกี่ยวกับเรื่องคำถามพ่วงประชามตินั้น “ประชาธิปัตย์” พูดชัดว่าพวกเขา “ไม่เห็นด้วย” และ “คัดค้าน” ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้นพวกเขา “ไม่เห็นด้วย” แต่ยังไม่บอกต่อว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จะเดินหน้าคัดค้าน หรือให้คว่ำร่างหรือไม่ โดยใช้ฟุตเวิร์กทางการเมืองพลิ้วหลบว่า ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะจากนี้หากไม่รับก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เลวร้ายกว่าหรือไม่ และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งทำความชัดเจนเรื่องนี้
                    คำถามคือถ้า “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ทำเรื่องให้ชัดเจน “ประชาธิปัตย์” จะทำเช่นไร สุดท้ายแล้วถ้ายังเหมือนเดิมพวกเขาจะคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่
                    ที่ผ่านมานั้น “ประชาธิปัตย์” อยู่ในฐานะเด็กดีของ  คสช.เสมอมา แต่มาวันนี้สถานการณ์ไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว  เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า จริงๆ แล้ว คสช.เองนั้นไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีนักกับนักการเมือง ออกจะกระเดียดไปทางไม่ชอบการกระทำของนักการเมืองเสียด้วยซ้ำ
                    นักการเมืองที่ถูกใจและเป็นที่ต้องการของ คสช. คือ นักการเมืองที่ไม่มีปากมีเสียง  ยินดีและยินยอมในสิ่งที่ คสช.เสนอมาหรือกำหนดให้ทำ แต่หากเป็นนักการเมืองที่แสดงความคิดเห็นมากๆ หรือเห็นไปในทางที่ไม่เหมือนกับพวกเขาก็มักจะถูกตอบโต้ตั้งแต่ดีกรีอ่อนๆ อย่างให้ระดับโฆษกออกมาตอบโต้ หรือระดับแรงขึ้นที่อาจจะเป็น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ออกมาโต้เอง  และหนักสุดก็อาจเป็นขั้นเชิญมาปรับทัศนคติ
                    การกระทำของ “อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ” และพรรคประชาธิปัตย์ ในครั้งนี้น่าจะไปกระตุ้นความไม่พอใจของ คสช.อย่างมาก เพราะเราได้เห็นสภาพการออกมาตอบโต้ของ หัวหน้า คสช. และหัวหน้ารัฐบาลอย่าง “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ออกมาให้ข่าวตั้งแต่วันอาทิตย์ ซึ่งตามปกติเขาจะไม่ปรากฏตัว หรือแม้แต่ให้ข่าวในวันเสาร์อาทิตย์อย่างเด็ดขาด
                    และจากนั้น “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงที่ดุดัน และส่งสารไปได้อย่างชัดเจนที่สุดเช่น “ไม่มีสิทธิเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย” หรือ “หากนักการเมืองไม่ลงเลือกตั้ง…ก็ดี…คนที่พูดว่าไม่ลง อย่ามาลง” “หากไม่ผ่านประชามติ อำนาจก็อยู่ที่ผม” “ส.ส.เป็นผู้มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ ส่วน ส.ว.ให้ร่วมประชุม เพราะไม่ไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาลหน้า…ถ้าส.ส.คิดว่าจะทำให้ประเทศปลอดภัย ก็เลือกคนดีๆ ไม่ใช่หมู หมา กา ไก่ มา”
                    และนอกจากการตอบโต้ด้วยวาทะแล้ว  เรายังได้เห็นการยึดกล่องยาสามัญประจำบ้าน ที่ติดป้ายชื่อและรูปภาพของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ คสช. และทหารกระทำเช่นนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกอ่นหน้านี้เราเห็นเพียงการยึด “ขันแดง” จากกลุ่มก้อน “เพื่อไทย” เท่านั้น
                    ทั้งจากการตอบโต้และการกระทำดังกล่าว เราจึงเห็นมวยคู่ใหม่ เมื่อ “อภิสิทธิ์” ออกมากระตุ้นนเตือน คสช.โดยตรง ให้รับฟังความเห็นต่าง
                    เขาบอกว่า “นายกฯ ไม่สามารถทำให้ทุกคนเห็นด้วยกับท่านได้ จึงอยากให้แสดงความเข้าใจ เคารพความเห็นสุจริต” หรือ “อย่ามองว่าคนที่เห็นไม่ตรงกับนายกฯ คือปฏิปักษ์ แต่ขอให้มองเป็นกัลยาณมิตรบ้าง เพราะนายกฯ เองก็มีประชาชนสนับสนุนจำนวนมาก ดังนั้นหากใจเย็นและทำอะไรให้รอบด้านมากขึ้น จะเห็นทางออกกว้างขวางกว่านี้”
                    นอกจากนี้ “อภิสิทธิ์” ยังเตือนแบบนิ่มๆ ว่า นายกฯ เองก็เคยไม่เห็นด้วยเรื่องให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ เช่นเดีียวกัน โดย “พล.อ.ประยุทธ์” ได้แสดงความเห็นเช่นว่าไว้เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา
                    น่าสนใจว่า จากนี้ความสัมพันธ์ระหว่งพรรคประชาธิปัตย์กับ คสช. จะเป็นอย่างไรต่อไป หรือที่สุดแล้ว การคัดค้านของพรรคประชาธิปัตย์จะจริงจังแค่ไหน และน่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ หากประชาธิปัตย์คัดค้านจริง จะดึงมวลชนกลับมาเป็นของตัวเองได้แค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่ามวลชนส่วนหนึ่งของประชาธิปัตย์ก็คือมวลชนที่ทาบทับกับมวลชนของ คสช.
                    จังหวะนี้เองที่จะพิสูจน์ว่า ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์จะยังเหนียวแน่นกับพรรคขนาดไหน
                    หากพวกเขาคัดค้านจริง และสามารถดึงมวลชนกลับมาเป็นของพรรคได้จริง งานนี้ประชามติทั้ง ร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ผ่านไปไม่ง่ายแน่ๆ เพราะเท่ากับสองพรรคใหญ่ของประเทศต่างคัดค้านด้วยกันทั้งคู่
———————–
(ขยายปมร้อน : ประชามติเริ่มไม่ง่าย : โดย…อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ)

Leave a comment