ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160412/225760.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559
มอนิเตอร์ร่างรัฐธรรมนูญ : เมื่อ ‘ประชาธิปัตย์’ คัดค้าน : โดย…สำนักข่าวเนชั่น
กลายเป็นงานยากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” เมื่อมีใครบางคนหวังสูง ใส่คำถามพ่วงเจ้าปัญหาเข้าไปอีกหนึ่งคำถาม โดยถามแบบสรุปง่ายๆ ว่าจะให้ ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกฯ ด้วยหรือไม่
งานนี้หลายฝ่ายออกมาคัดค้านทั้งร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ไม่ว่าจะเป็นขาเก่าอย่าง “เพื่อไทย” หรือ “นิติราษฎร์” แต่ที่น่าสนใจคือ ขณะนี้มีผู้เล่นรายใหม่กระโดดเข้ามาร่วมวงไม่เห็นด้วยทั้งกับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นคนคุ้นเคยกับผู้มีอำนาจอย่างพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมในเกมนี้หลังจากที่สนช.มีมติเรื่องคำถามพ่วงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา นับจากวันนี้ พวกเขาก็ออกมาวิพากษ์ถึงความไม่เหมาะสมของคำถามพ่วง และล่าสุดเมือวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา พวกเขาก็เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ นำโดย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค
ประเด็นที่แถลงคัดค้านมีสามเรื่องประกอบด้วย 1.เรื่องพ.ร.บ.ประชามติ ได้พยายามชี้ว่าการทำประชามติ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการที่เสรีและเป็นธรรม แต่เนื้อหาตามร่างพ.ร.บ.ประชามติ ทำให้ประชาชนสับสนว่าสิ่งใดที่ห้ามทำหรือเป็นการชี้นำ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ กกต.ออกมายืนยันว่าประชาชนสามารถใช้สิทธิแสดงออกได้ มิเช่นนั้นการทำประชามติจะไม่ชอบธรรม
2.เรื่องคำถามพ่วง เป็นสิ่งที่พวกเขาพูดชัดที่สุดว่า “พรรคไม่เห็นด้วยและไม่รับคำถามพ่วงประชามติที่ให้ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ” และระบุด้วยว่า “ประชาชนสมควรลงมติไม่รับคำถามนี้”
ทั้งนี้ได้ให้เหตุผลว่า หากให้ส.ว.เลือกนายกฯ เป็นการให้ ส.ว. และส.ส.มีสิทธิมีเสียงเท่ากัน เท่ากับเป็นการลบล้างเจตจำนงของประชาชน นอกจากนี้จะเป็นการสร้างปัญหาขึ้นในอนาคต ไม่ว่า ส.ว.จะจับมือกับพรรคเสียงข้างมากหรือข้างน้อยก็มีปัญหาทั้งสิ้น เช่นหากจับมือกับเสียงข้างน้อยตั้งนายกฯ ก็จะทำให้รัฐบาลทำงานยาก จะมีปัญหาเรื่องการผ่านกฎหมาย รวมถึงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือหากให้ ส.ว.จับมือกับพรรคเสียงข้างมากก็จะได้เผด็จการรัฐสภา ลดอำนาจเสียงข้างน้อยในการคานอำนาจ
ส่วนเรื่องที่ 3 เรื่องรัฐธรรมนูญ แม้จะพูดไม่ชัด แต่พวกเขาก็ใช้คำว่า “ไม่เห็นด้วย” กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยระบุว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี
อย่างไรก็ตาม “อภิสิทธิ์” เลือกที่จะอธิบายเหตุผลที่ไม่พูดให้ชัดเจนว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญว่า เพราะยังมีกระบวนการ ปัจจัย และสถานการณ์ทางการเมืองเกี่ยวข้องอีก โดยต้องการให้ คสช.พูดให้ชัดว่าหากไม่รับร่างจะมีหลักประกันอะไรว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้
แค่นี้ก็น่าที่จะชัดเจนเพียงพอว่าเป็นท่าทีที่แรงที่สุดเท่าที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำได้แล้วในสถานการณ์เช่นนี้
น่าสนว่าจากนี้ “มวลชน” หรือ “ฐานเสียง” ของพรรคประชาธิปัตย์จะเลือกเดินหน้าไปในทางใด เพราะสิ่งที่ต้องยอมรับคือผู้ที่สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ และคสช.มีความเหลื่อมซ้อนและแทบจะทาบทับเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อถึงเวลาต้องเลือก พวกเขาจะทำตามที่ใครบอก
แน่นอนว่าหากทำตามที่พรรคประชาธิปัตย์โน้มน้าว เมื่อบวกกับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยแล้ว การผ่านร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่ใครบางคนฝันหวานเอาไว้
———————–
(มอนิเตอร์ร่างรัฐธรรมนูญ : เมื่อ ‘ประชาธิปัตย์’ คัดค้าน : โดย…สำนักข่าวเนชั่น)
