เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อม อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ว่าการการประปานครหลวงและผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์น้ำ การจัดสรรน้ำและการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง ณ ห้องประชุม1อาคาร1 กรมประชาสัมพันธ์

เกษตรฯยันเล่นสงกรานต์ได้

โดย พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่าเป็นการร่วมกันเพื่อทําความเข้าใจสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถึงมาตรการที่รัฐบาลได้บูรณาการแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าในส่วนน้ำอุปโภคบริโภค มีเพียงพอถึงกรกฎาคมอย่างแน่นอนซึ่งสามารถเล่นสงกรานต์ได้แน่ และยืนยันไม่มีนโยบายห้ามประชาชนเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ขอความร่วมมือประชาชนเล่นน้ำกันพอประมาณและประหยัดน้ำอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อครัวเรือน ส่วนแผนการบริจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ปัจจุบัน มีประปาสาขาที่เฝ้าระวัง จํานวน25สาขา แบ่งเป็น1.จ่ายน้ำเป็นเวลา/แบ่งโซนจ่ายน้ำ 3 แห่ง 2.ลดแรงดัน/ลดอัตราจ่าย17 แห่ง และใ นพื้นที่ที่จะประสบปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ 5 แห่ง มีมาตรการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว

ย้ำลุ่มเจ้าพระยามีน้ำใช้พ้นกค.

ด้าน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าส่วนสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลัก ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสัก มีปริมาณน้ำใช้การได้สำหรับการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศ ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม อีกประมาณ 2,446 ล้านลูกบาศก์เมตร

ปภ.ประสานจว.ระวังพายุถล่ม

วันเดียวกัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า จากที่พายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ จึงสั่งการให้ปภ.จังหวัดร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ทั้งเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาต้นไม้ริมทางที่เสี่ยงการหักโค่น รวมถึงดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม จากฝนที่ตกทำให้เกิดผลดีในพื้นที่ภาคเหนือปัญหาหมอกควันคลี่คลาย คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้น จ.แม่ฮ่องสอน ยังอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

แนะสำรองน้ำฝนเอาไว้ใช้

นายฉัตรชัย กล่าวว่า จากน้ำฝนที่ตกมีปริมาณไม่มากพอที่จะเติมน้ำในเขื่อนส่วนใหญ่ตกพื้นที่ท้ายเขื่อน ขอให้ประชาชนสำรองน้ำฝนไว้ใช้ และฝนที่ตกลงมาช่วยคลายความร้อนเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ เหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ทางกระทรวงมหาดไทยจึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นบินทำฝนหลวง ในพื้นที่เหนือเขื่อนเพื่อให้มีฝนตกเติมปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนสนับสนุนน้ำดิบทำประปา จัดสรรน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคช่วยคลี่คลายปัญกาขาดแคลนน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

ภัยแล้งพุ่ง22จังหวัดทั่วประเทศ

สถานการณ์ภัยแล้ง มีจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง22 จังหวัด97อำเภอ 421ตำบล 3,411หมู่บ้าน แยกเป็นภาคเหนือ 7 จังหวัดคือเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครสวรรค์ น่านและพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6จังหวัดคือนครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น ภาคกลาง 4 จังหวัดคือกาญจนบุรี เพชรบุรี ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก4จังหวัดคือสระแก้ว จันทบุรี ชลบุรีและตราด ทั้งนี้ ปภ.ร่วมกับ จังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่องโดยสูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เข้าพื้นที่การเกษตร46 ล้าน ลบ.ม.สูบน้ำดิบเข้าระบบการผลิตน้ำประปา 6.4ล้านลิตร แจกจ่ายน้ำอุโภคบริโภคกว่า 221ล้านลิตร ผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายกว่า 1.1ล้านลิตร

ปราจีนฯไฟไหม้ป่าอุทยานฯเขาใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27มีนาคม เกิดไฟลุกไหม้ในป่าตามบริเวณแนวเขตแดนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก ตามแนวถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา หลักกิโลเมตร 42-43 หมู่4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ไฟลุกลาม ขยายวงกว้างเข้าไปด้านในของอุทยานฯลุกลามในพื้นที่ป่าที่ไปตามก้นเหวกินเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ส่งผลให้มีหมอกควันลอยออกมาปกคลุมไปทั่ว กระทบกับการจราจรและสัตว์ป่าซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของวัวกระทิง เบื้องต้นสาเหตุคาดเป็นฝีมือของมนุษย์ที่เผาหวังผลประโยชน์จากป่าโดยเฉพาะการล่าสัตว์ จำพวกวัวกระทิง

จากนั้น ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พบยังคงมีไฟลุกไหม้อยู่บางส่วนโดยมีระดมเจ้าหน้าที่จากอุทยานฯ เขาใหญ่ สถานีควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี นำกำลัง 30 นาย เข้าทำการดับไฟป่าที่ยังลุกไหม้อยู่เป็นจุดๆขณะนี้ดับไฟได้ร้อยละ 70 ยังคงเหลืออีกร้อยละ 30 คาดภายในวันนี้จะดับไฟได้ทั้งหมด

น่านไฟป่ายังลุกไหม้ไป100ไร่

ช่วงบ่ายวันเดียวกันทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 38ได้รับแจ้งจากราษฎรว่าเกิดเหตุไฟไหม้หญ้า เศษวัสดุทางการเกษตร บริเวณป่าละเมาะ เขตพื้นที่ชุมชนทหารภูเพียง บ้านท่าน้าว หมู่ 2 ต.ท่าน้าว อ.ภูเพียง จ.น่าน ลุกไหม้ลาม สวนไม้สัก สวนป่าไผ่ ของกำลังพล เสียหายเป็นบริเวณกว้าง ใกล้ลามเข้าที่อยู่อาศัยราษฎรและครอบครัว จึงประสานรถบรรทุกน้ำจาก อบต.ฝายแก้ว,อบต.ม่วงตึ๊ด,อบต.ท่าน้าว,เทศบาลเมืองน่าน ทั้งหมด 6คัน นำกำลังทหารเจ้าหน้าที่กว่า50นาย เข้าช่วยดับไฟป่าที่ลุกอย่างรวดเร็ว ทวีความรุนแรงขึ้น ลุกลามขยายวงกว้างกว่า100ไร่ซึ่งใช้เวลากว่า3ชั่วโมงจึงควบได้สำเร็จ ส่วนคุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.น่าน ในช่วง 3วัน ลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ในคุณภาพปานกลาง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ไฟป่าไหม้อุทยานศรีสัชนาลัย

จ.สุโขทัย นายปิยะ หนูนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย(ป่าคา)จ.สุโขทัย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สถานีควบคุมไฟป่า และผู้ใหญ่บ้าน อบต.และราษฎรบ้านป่าคา เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่า บริเวณห้วยเสือตาย หมู่ 6 บ้านป่าคา ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย ในเขตอุทยานฯศรีสัชนาลัย พิกัดที่ 47Q551590E 1938762N พบเป็นพื้นที่ป่าเบญจพรรณ ถูกไฟไหม้เสียหายกว่า10ไร่ ได้เร่งดับไฟและทำแนวกันไฟ โดยใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง สามารถดับไฟได้สำเร็จ เมื่อตรวจสอบ พบมีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เสียหาย 23 ไร่ สาเหตุเกิดจากชาวบ้านเข้าจุดไฟเก็บหาของป่าโดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งผู้นำชุมชนและตัวแทนชาวบ้าน ร่วมประชุมด่วนางแผนป้องกันเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่อุทยานฯโดยขอความร่วมมือชาวบ้านที่ข้ำปเก็บของป่าด้วย