ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/580069
โดย หมอดื้อ 21 ก.พ. 2559 05:01

ทั้งมนุษย์และลิง สามารถแปลการแสดงออกทางอารมณ์ ผ่านสีหน้าได้แม่นยำกว่า ด้วยสมองซีกขวา จึงสรุปได้ว่า ความสามารถในพัฒนาการจากบรรพบุรุษของสมองซีกขวา เพื่อที่จะบ่งชี้เอกลักษณ์ และความคุ้นเคย เพื่อที่จะตัดสินว่า สิ่งกระตุ้นในขณะนั้นเคยได้เห็นหรือพบเจอมาก่อนหรือไม่
การแบ่งแยกขั้นพื้นฐาน ระหว่างบทบาทของสมองซีกซ้าย ในด้านปฏิกิริยาปกติ กับบทบาทของสมองซีกขวา ในด้านสถานการณ์พิเศษแล้ว ยังมีรายละเอียดที่สมองซีกขวาของมนุษย์จะดูภาพรวมทั้งหมดมากกว่าที่จะดูเป็นจุดย่อยๆ ความสามารถนี้ทำให้เกิดผลดีในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ของสิ่งต่างๆ ด้านตำแหน่งและขนาด ความทรงจำที่เก็บในสมองซีกขวามีแนวโน้มที่จะเป็นระบบ และเรียกออกมาใช้เป็นแบบแผน มากกว่าที่จะเป็นสิ่งย่อยๆ ในทางตรงกันข้าม สมองซีกซ้ายกลับมีแนวโน้มที่จะสนใจเฉพาะจุดของสิ่งแวดล้อมนั้นๆ หลักฐานที่เด่นในเรื่องการแบ่งเป็นภาพรวม หรือเฉพาะส่วนนี้ได้ถูกแสดงให้เห็นชัด เมื่อให้คนไข้ที่สมองถูกทำลายมาลอกภาพซึ่งถูกเขียนด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่ตัว A ขนาดเล็กๆหลายตัวอย่างเป็นรูปแบบ ก่อให้เป็นรูปร่างของตัวอักษร H ขนาดใหญ่ คนไข้ที่สมองซีกซ้ายถูกทำลายจะเขียนเส้นรวมๆของรูปตัว H โดยไม่มีอักษร A ขนาดเล็กเลย ในขณะที่คนไข้ที่สมองซีกขวาถูกทำลาย จะเขียนเฉพาะตัว A อย่างไม่มีรูปแบบไปทั่วกระดาษ
การแบ่งแยกแบบนี้พบในไก่เช่นกัน เป็นการบอกถึงเรื่องวิวัฒนาการ ไก่บ้าน มีความสนใจ ในด้านความสัมพันธ์ของสิ่งของในด้านขนาด และตำแหน่ง โดยใช้สมองซีกขวา นอกเหนือจากนั้น ไก่ที่ถูกปิดตาขวา จะสนใจในสิ่งกระตุ้นที่หลากหลาย เป็นการบอกถึงภาพรวม ในขณะที่ไก่ที่ถูกปิดตาซ้ายเท่านั้นที่จะสามารถพุ่งความสนใจไปเฉพาะส่วนที่เด่นชัด
แล้วทำไมสมองต้องแบ่งออกเป็นสองซีก นั่นก็คือ เพื่อประเมินสิ่ง กระตุ้นที่เข้ามา สิ่งมีชีวิตจำเป็นจะต้องมีการวิเคราะห์สองชนิด โดยสิ่งกระตุ้นที่แปลกใหม่และต้องการการตอบสนองแบบฉุกเฉิน ซึ่งใช้สมองซีกขวาหรือสิ่งกระตุ้นนั้นจัดเข้าได้กับ กลุ่มสิ่งที่คุ้นเคยอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพื่อที่จะได้ตอบสนองแบบที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้วได้ ซึ่งใช้สมองซีกซ้าย เพื่อที่จะกระตุ้นสิ่งแปลกใหม่ สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องสนใจลักษณะจำเพาะการรับรู้ด้านขนาดและตำแหน่ง มีความจำเป็นอย่างมากในการรับรู้นี้ ซึ่งก็คือหน้าที่ของสมองซีกขวาในทางกลับกัน ในการจัดกลุ่มประสบการณ์ สิ่งมีชีวิตต้องจดจำได้ว่า สิ่งไหนที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และแยกกลุ่ม ของสิ่งจำเพาะ หรือแปลกจากกลุ่มออกไป ผลลัพธ์ก็คือ การสนใจเฉพาะสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่า ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่สำคัญที่สุดของสมอง และนั่นก็คือหน้าที่ของสมองซีกซ้าย การมีความจำเพาะของสมองสองซีก ทำให้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าการไม่มีการแยก เนื่องจากข้อมูลทั้งสองชนิด จะผ่านสมองในเวลาเดียวกัน มีการเปรียบเทียบความสามารถของสัตว์ที่มีความจำเพาะของสมองสองซีกกับสัตว์ที่ไม่มีความจำเพาะของสมอง
โดยนำตัวอ่อน (Embryo) ของไก่บ้านมาแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก จะได้รับแสง โดยก่อนที่จะฟักตัว หัวของตัวอ่อนของไก่ได้หมุนเข้าไปทำให้ตาซ้ายถูกปิดไว้ด้วยลำตัว มีแต่ตาขวาที่ได้รับการกระตุ้นจากแสงที่ส่องผ่านเปลือกไข่ แสงจะกระตุ้นให้การมองเห็นพัฒนาขึ้น ส่วนกลุ่มที่สอง จะให้ไข่ ฟักตัวในที่มืด จะสามารถทำให้ไม่เกิด ความจำเพาะในสมองสองซีก และไม่พัฒนาสมองซีกซ้ายซึ่งจะช่วยเรื่อง ความสามารถพิเศษ ในการแยกธัญพืช ออกจากก้อนหินเล็กๆ และยังลดการทำงานของสมองซีกขวาที่จะตอบสนองทางด้านซ้ายต่อผู้ล่าด้วย เพื่อทดสอบไก่สองชนิดนี้ โดยไก่จะต้องหาธัญพืชที่ปะปนกับก้อนหินเล็กๆ ในขณะที่ต้องคอยระวังผู้ล่าที่อยู่ด้านบนด้วย พบว่าไก่ที่ฟักตัวโดยการกระตุ้นด้วยแสง สามารถทำได้อย่างดี ในขณะนี้ไก่ที่ฟักตัวในความมืดไม่สามารถทำได้ จึงเป็นการเน้นย้ำความสำคัญ ในเรื่องความจำเพาะของสมองสองซีก
ความไม่สมดุลทางสังคม กระบวนการที่สามารถแบ่งแยกและสอดคล้องกันไปของสมองทั้งสองซีกนั้น อาจทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง แต่ยังมีคำถามอีกมากมายที่ยังต้องการคำตอบ เช่น ในแต่ละสายพันธ์ุนั้นสมองซีกไหนเด่นกว่า ทำไมตาซ้ายและสมองซีกขวาในสัตว์ส่วนใหญ่ จึงดีกว่าในการระวังภัยจากผู้ล่า และทำไมความถนัดในการใช้มือถึงมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน แบบครึ่งต่อครึ่ง จากมุมมองทางวิวัฒนาการ ความไม่สมดุลที่มีความถนัดด้านใดด้านหนึ่งนั้น อาจเป็นข้อเสียทางพฤติกรรมต่อการถูกล่า เพราะว่าผู้ล่าสามารถเรียนรู้ที่จะเข้ามาทางที่เหยื่อไม่ถนัด ทำให้มีโอกาสระวังภัยลดลง
ในสัตว์สังคมนั้น ข้อดีของพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันทำให้สามารถคาดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์ในสายพันธุ์เดียวกัน ในทางคณิตศาสตร์นั้น ประชากรที่ถนัดขวา หรือถนัดซ้ายสามารถก่อให้เกิดสิ่งที่ต้องเสียไปและสิ่งที่ได้รับ นอกจากนี้ก็ยังสัมพันธ์กับความกดดันทางด้านสังคมอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ปลาที่อยู่รวมกันเป็นฝูง ก็จำเป็นจะต้องมีการเลี้ยวด้านที่ถนัดไปในทางเดียวกัน จึงว่ายรวมกัน เป็นฝูงได้ ในทางตรงกันข้าม ปลาที่อยู่ตัวเดียวก็อาจจะเลี้ยวอย่างไม่เป็นแบบแผน เพราะว่าไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงตัวอื่น ด้วยความตระหนักว่าความ จำเพาะของสมองสองซีกไม่ได้มีเฉพาะในมนุษย์ คำถามใหม่ๆเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของสมองมนุษย์ก็ได้เกิดขึ้น เช่น อะไรคือบทบาทของสมองซีกขวาและซ้าย ในด้านความรู้ตัว สติและความเห็นใจ หรือความสามารถในการรู้จักตัวตนภายใน เรารู้เรื่องเหล่านี้น้อยมาก
แต่การค้นพบอย่างละเอียดทำให้บอกได้ว่า หน้าที่เหล่านี้จะ สามารถเข้าใจได้ในรูปแบบของการประยุกต์ เรื่องคุณสมบัติในสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาก่อนมนุษย์ ซึ่งคล้ายกับปรากฏการณ์อื่นๆที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น.
หมอดื้อ

