รมว.พาณิชย์ เตรียมบินจับเข่าคุยสหรัฐฯ ในกรอบ TIFA ครั้งแรกในรอบ 13 ปี หวังขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน สบช่องขอเพิ่มรายการสินค้าได้ GSP หลังผู้ผลิตแบรนด์ดังหนุนและจะย้ายฐานผลิตมาไทย พร้อมถกทีพีพี ก่อนนำมาใช้กำหนดท่าทีไทย

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 59 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ระดับรัฐมนตรี (TIFA) วันที่ 20-22 เม.ย.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 13 ปี หลังจากที่ได้มีการตกลงให้มี TIFA โดยจะหารือเพื่อขยายความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน และด้านเศรษฐกิจระหว่างกันให้ขยายตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ จะมีโอกาสหารือกับ นายไมเคิล บี.จี. โฟรแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) เพื่อหาแนวทางความร่วมมือและแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) โดยไทยจะขอให้สหรัฐฯ เพิ่มเติมรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิสำหรับสินค้าเครื่องดินทางบางรายการ เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าเดินทาง และขอให้สหรัฐฯ คงสิทธิ์ต่อไป คือ น้ำมะพร้าว หลังจากที่ได้ต่ออายุโครงการจีเอสพีให้ไทย และจะหมดอายุลงในปี 60

“ผู้ผลิตเครื่องหนังแบรนด์ดังของสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุนให้ไทยได้รับสิทธิ์จีเอสพีต่อไป ไม่ว่าจะเป็น TUMI, Coach, Michael Kors และ Under Armour เพราะผู้ผลิตเหล่านี้มีแผนจะย้ายฐานการผลิตมายังไทย ถ้าไทยได้สิทธิ์จีเอสพี จะส่งผลดีต่อการส่งออกไปยังสหรัฐฯ” นางอภิรดี กล่าว

นอกจากนี้ จะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) โดยจะสอบถามสหรัฐฯ เกี่ยวกับรายละเอียดของความตกลง และจะแจ้งข้อกังวลของไทย เพื่อขอคำชี้แจงจากสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเข้าร่วมหรือไม่

พร้อมกันนั้น ไทยจะชี้แจงถึงความคืบหน้าการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ การเข้าเป็นภาคีความตกลงระหว่างประเทศ การเข้มงวดปราบปรามการละเมิด เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อสหรัฐฯ ในการนำไปประกอบการพิจารณาจัดสถานะของไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่สหรัฐฯ จะประกาศผลการจัดอันดับปลายเดือน เม.ย.นี้ โดยหวังว่าสหรัฐฯ จะปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล)

ขณะเดียวกัน ไทยจะแจ้งสหรัฐฯ เกี่ยวกับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) การค้ามนุษย์ และแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ และการทำงานในเรื่องเหล่านี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนสภาหอการค้าสหรัฐฯ นั้น จะหารือ เพื่อขยายโอกาสการค้า การลงทุนระหว่างกัน โดยปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในไทย.