งานอาเซียนบิวตี้ปี2 เทรนด์ชายหล่อมาแรง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/609412

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 23 เม.ย. 2559 05:01

 

อนุชนา วิชเวช ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย(ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงการจัดงาน ASEANBeauty2016 ในปีนี้ว่า เป็นการจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ถือเป็นงานใหญ่ในระดับภูมิภาคอาเซียน

ตลาดความงามทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปี ที่ผ่านมามีอัตราการเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5% และคาดการณ์ว่าในปี 2017 ตลาดสินค้าความงามทั่วโลกจะมีมูลค่ารวมกว่า 9.3 ล้านล้านบาท

การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจากทั่วโลกที่มองเห็นโอกาสการลงทุนในอาเซียน อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และอังกฤษ คาดการณ์ว่าในปีนี้จำนวนผู้ร่วมชมงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 20%

ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมระดับผู้บริหารและผู้มีอำนาจตัดสินใจจากต่างประเทศแบ่งเป็น 25% จากผู้ชมงานทั้งหมด และคาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสร้างยอดธุรกรรมมากกว่า 800 ล้านบาท

อนุชนาบอกว่า ภาพรวมผลิตภัณฑ์ด้านความงามได้รับความสนใจมากที่สุดคือกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวกระจ่างใส ส่วนใหญ่ประเทศอาเซียนเชื่อว่า ผิวพรรณบ่งบอกถึงการศึกษาและสถานะทางการเงิน

การส่งออกสินค้าความงามของไทยไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนมีความแตกต่างกันมากน้อยตามความต้องการของผู้บริโภค และปัจจัยที่เกื้อหนุน กัมพูชาและเมียนมา เป็น 2 ประเทศที่ได้รับการตอบรับและน่าลงทุนมากที่สุด ประชากรนิยมใช้เครื่องสำอางไทยและติดตามเทรนด์ความงาม โดยมีไทยเป็นต้นแบบ

39% ของชาวกัมพูชามีการใช้สกินแคร์อย่างต่อเนื่อง, 21% ของชาวกัมพูชามีการแต่งหน้าทุกวัน และ 40% ของชาวกัมพูชาเล็งเห็นว่าการเข้าพบแพทย์ผิวหนังมีความสำคัญ ผู้ที่มีรายได้ระดับกลางจะเลือกใช้บริการสถานเสริมความงามและบริการทางการแพทย์ในเวียดนาม ผู้ที่มีรายได้สูงจะเลือกใช้บริการในไทยหรือสิงคโปร์

ที่เมียนมาประชากรรายได้ระดับกลางและระดับสูงเลือกใช้สถานเสริมความงามและบริการทางการแพทย์ในไทยและสิงคโปร์ อัตราการใช้บริการเฉลี่ยต่อครั้งอยู่ที่ 150,000-200,000 บาท

27% ของชาวเมียนมา ทานอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม

เวียดนามและอินโดนีเซีย คือพันธมิตรทางการค้าที่ควรจับตามอง เพราะมีขนาดของตลาดที่ใหญ่ โดยเฉลี่ยคนเวียดนามใช้จ่ายต่อหัวมากกว่าคนจีนในการซื้อสินค้าและใช้บริการทางทันตกรรม

อินโดนีเซียมีเกาะ 17,000 เกาะ ตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายมีมูลค่า 120,000 ล้านบาทและเติบโตถึง 17% ต่อปี โดยมีความท้าทายเรื่องมาตรฐานฮาลาล และการขนส่ง การกระจายสินค้า

ผู้บริโภคในลาว แม้จะมีกำลังซื้อไม่มากแต่ค่อนข้างให้การตอบรับที่ดีกับสินค้าไทย ส่วนเวียดนาม ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น

อนุชนาบอกว่า แนวโน้มธุรกิจความงามและสุขภาพที่กำลังมาแรงในอาเซียน คือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเพรสทีจ บิวตี้ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ตลาดแมสทีส หรือกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลาง ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและถือว่าเป็นกำลังซื้อหลักของตลาด คนกลุ่มนี้ต้องการบริโภคสินค้าที่ดูดีมีระดับในราคาที่จับต้องได้

ปัจจุบันรสนิยมการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยเปลี่ยนไปตามอิทธิพลของดาราศิลปิน บุคคลที่มีชื่อเสียง ตลอดจนพลังของโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นผลมาจากรายได้ของประชากรที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดการลงทุนที่สะพัดในอาเซียน ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป และความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ระดับสูงเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของตน

ผลการสำรวจพบว่า ในประเทศไทย มูลค่าของตลาดเครื่องสำอางในกลุ่มเพรสทีจมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และจะยังสามารถเติบโตขึ้นได้อีกมาก

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย โดยยูโรมอนิเตอร์ บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ศึกษาข้อมูลพบว่าเอเชียเป็นหนึ่งในตลาดเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีมูลค่ามากถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 66,000 ล้านดอลลาร์

คิดเป็นสัดส่วน 64% ของยอดการจับจ่ายทั่วโลกที่ 3,300 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

ประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชียอย่างจีน ก็มีการทำนายว่ามูลค่าตลาด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชายจะมีมูลค่าถึง 115,000 ล้านหยวน ในปี 2020 โดยเป็นตัวเลขที่โตขึ้นถึง 73,000 ล้านหยวนจากปี 2014

การเปลี่ยนผ่านจากผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยสู่ความงามตามช่วงวัย การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรผู้สูงอายุ ในขณะที่สัดส่วนของประชากรวัยทำงานกำลังปรับตัวลดลง

ตามรายงานของ The United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division ที่คาดว่าสัดส่วนประชากรโลกที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจะเติบโตถึงร้อยละ 21 ในปี พ.ศ.2593 จากปี พ.ศ.2543 ที่เพียงร้อยละ 102

ส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุมีผลต่อเทรนด์ความงามทั่วโลก ในอดีตผู้คนมากมายพยายามค้นหาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมความงามต่างๆ ในการต่อต้านริ้วรอยและทำให้ดูอ่อนกว่าวัย

แต่เทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้คือ Pro-aging ที่เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่จะมาปลดปล่อยผู้หญิงให้เป็นอิสระจากแรงกดดันที่จะต้องสวยสมบูรณ์แบบ และเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังช่วยเสริมให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดีและภูมิใจในความเป็นตัวเองเพิ่มขึ้น

ดังนั้นแนวคิดดั้งเดิมอย่าง anti-aging กำลังจะกลายเป็นสิ่งล้าสมัย ทุกบริษัทความงามจะเหมือนถูกบังคับให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะมาแรงในปีหน้า

คาดการณ์ว่าความต้องการของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม pro-aging สำหรับผิวหน้าในยุโรปจะเพิ่มเป็น 13% ในปี 2017 และเพิ่มเป็น 28% ในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

สุดท้ายคือการหลอมรวมกันระหว่างช่องทางการจัดจำหน่ายหน้าร้านและออนไลน์ โลกดิจิตอลได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาซื้อสินค้าออนไลน์

ในขณะที่ช็อปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นสถานที่สร้างประสบการณ์ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจสั่งซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ส่วนช่องทางสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม ยูทูบ หรือเฟซบุ๊กก็เข้ามาเปลี่ยนวิถีการทำการตลาดของแบรนด์เครื่องสำอางในปัจจุบัน รวมถึงเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคด้วย

โลกดิจิตอลไม่เพียงแต่สร้างโอกาสในการสื่อสารระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคเท่านั้น ยังรวมโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคไว้ พฤติกรรมการเซลฟี่ การเขียนบล็อก หรือการอัพรูปลงอินสตาแกรม ล้วนทำให้แบรนด์สามารถติดตามผลการใช้งานและความพึงพอใจของผู้บริโภค

การค้าออนไลน์ในประเทศต่างๆกำลังเริ่มขยายฐานการขายผ่านออนไลน์ออกไป เช่น Qoo10 ได้ขยายไปยังสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย (คาดว่าจะเข้าไทยเร็วๆนี้) หรือ Alibaba เริ่มบุกมายังประเทศต่างๆในอาเซียน

อนุชนาทิ้งท้ายว่า งาน Aseanbeauty 2016 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2559 ณ ฮอลล์ 103 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

จะมีการจัดแสดงสินค้าและนวัตกรรมความงามอย่างครบวงจร จากผู้ประกอบการกว่า 200 รายจากทั่วโลก มีการสัมมนาในหัวข้อ การสร้างแบรนด์สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่, การส่งออกสินค้าความงามและสินค้าเพื่อสุขภาพไปยังอาเซียน และการแสดงสาธิตบนเวทีเรื่องการออกแบบทรงผมให้เข้ากับรูปหน้าและสีผิว

ในงานนี้ พร้อมรับคำปรึกษาในการส่งออกสินค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมาคมและภาคีเครือข่ายผู้ร่วมจัดงาน สมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2642-6911 และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ http://www.aseanbeautyshow.com

Leave a comment