ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/608681
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 เม.ย. 2559 06:45

หอการค้า-ส.อ.ท.ขานรับสุดซอย แบงก์ชี้มีผลกระตุ้นไม่มากนัก
ว่าที่ร้อยเอกจิตร์ ศิรธรานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ควรมีการปรับปรุงฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามานานแล้ว เพราะการหักค่าลดหย่อนในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับฐานภาษีเดิม เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เดิมหักได้เพียง 60,000 บาทนั้น ในปัจจุบันแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายต่อปีมากกว่า 60,000 บาทแล้ว จึงสมควรเพิ่มค่าลดหย่อนให้มากขึ้นเพื่อให้สมเหตุสมผล และตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้ ในเชิงจิตวิทยา ยังทำให้คนรู้สึกว่ามีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้น และยังทำให้ร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะรายเล็กๆจะเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ทำให้การเสียภาษีไม่เกิดความลักลั่น และเป็นธรรมมากขึ้น
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า มาตรการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่จะส่งผลดีต่อประชาชนที่มีรายได้ปานกลาง โดยเฉพาะผู้มีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ช่วยทำให้ประชาชนรู้สึกมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อของประชาชนให้มากขึ้น
และตนมองว่า แม้รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีไปจำนวนหนึ่งแต่จะได้รายได้เพิ่มจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งและยังสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้เสียภาษีมากขึ้นด้วย
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่แม้จะมีผลบังคับใช้ปี 60 แต่เป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพราะทำให้ประชาชนมีเงินเหลือมากขึ้น หากไทยจะพึ่งพาการบริโภคในประเทศจำเป็นต้องขยายฐานการเก็บภาษีให้มากขึ้น เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งแนวทางนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ทั้งช็อปช่วยชาติ กินเพื่อชาติในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำให้คนกล้าใช้เงินมากขึ้น ขณะเดียวกัน ทำให้ร้านค้าที่เคยอยู่นอกระบบภาษีเข้าสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้มากขึ้น และทำให้คนมีความรู้สึกว่าการเสียภาษีเป็นสิ่งสง่างาม เพราะได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาของรัฐบาลมีผลต่อเศรษฐกิจไม่มาก เนื่องจากภาษีที่ได้รับลดหย่อนหรือยกเว้นการจัดเก็บภาษี เมื่อนำมาเฉลี่ย 12 เดือนแล้ว เป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก เนื่องจากเป็นการทยอยเข้ามาแต่ละเดือน ฝ่ายบัญชีของแต่ละบริษัท จากเดิมที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ เมื่อรายได้ไม่เข้าเกณฑ์ก็ไม่หักภาษีก็คืนเงินกลับมาในจำนวนน้อยเพราะเป็นการเฉลี่ยแต่ละเดือน จึงมีผลต่อเศรษฐกิจไม่มาก แตกต่างกับมาตรการช็อปช่วยชาติช่วงสิ้นปี 58 หรือมาตรการกินเที่ยวช่วยชาติ ที่เป็นมาตรการภาษีที่กระตุ้นการใช้จ่ายแบบมีระยะเวลาสั้นๆ จึงมีผลต่อเศรษฐกิจ
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบีพรินซิเพิล กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีในครั้งนี้ นอกจากจะมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้นในอนาคตแล้ว ยังมีผลดีต่อตลาดหุ้นและยังอาจจะมีผลต่อเงินใหม่ที่จะไหลเข้ากองทุนประหยัดภาษี แต่คงไม่มากนัก.